บุฟเฟ่ต์ปูฟูกุโอะกะ
โดย : สุวิทย์ เมฆวิบูลย์
ไม่ได้มีแค่ นิยายออนไลน์ ให้อ่าน ที่ อ่านเอา แต่เรายังมีเรื่องราวการเดินทางของ สุวิทย์ เมฆวิบูลย์ ชายหนุ่มผู้ที่เชื่อว่า การเดินทางกับการดื่มกิน คือองค์ประกอบสำคัญในการเติมไฟ เพิ่มพลังให้ชีวิต และเขายินดีแบ่งปันขุมพลังนี้กับผู้อ่าน “อ่านเอา” ได้ อ่านออนไลน์
…………………………………………..
– บุฟเฟ่ต์ปูฟูกุโอะกะ –
เมื่อเร็วๆนี้ พบปะรุ่นพี่นั่งกินเหล้าร่วมโต๊ะในดินเนอร์งานแต่งงานหลานสาว ถูกเอ่ยถามถึงบุฟเฟต์ปูที่ฟูกุโอะกะ ที่เกาะคิวชู
“คุณได้ไปลองไหม? คนไทยไปชิมกันทุกคนนะ”
เลยตอบกลับว่าไปชิมมาแล้วครับพี่ แต่ก็ลืมรสชาติไปแล้วด้วย แล้วผมจะเขียนถึงลงในเว็บอ่านเอา ติดตามอ่านกันนะครับว่าผมประทับใจไหม อ้าว… งานเข้าซะแล้วเรา ไม่นึกว่าจะเจอะเจอแฟนคลับติดตามรูปในเพจเฟซบุ๊กทุกทริปซะนี่
びっくりかにや บิคุริคานิยะ บุฟเฟต์ขาปูยอดฮิตของฟุกุโอะกะที่คนไทยรู้จักกันดีจากสื่อสังคมออนไลน์ล้วนๆ บ้างก็รู้จากปากเด็กน้องๆ ที่ไปทริปด้วยกัน เที่ยวนี้จ๊ะเอ๋กับพี่นักชิมคนไทยที่เพิ่งกินเสร็จออกมาเจอกันหน้าร้าน โอ่คุยว่าร้านนี้มี 2 สาขาแล้ว ร้านที่ไปนี้อยู่แถวสถานี Hakata ครับ (ใกล้กับ Khaosan Fukuoka Annex คิดว่าพิกัดนี้จำไม่ผิด) แต่ต้องเดินเลียบแม่น้ำจากสะพานไปสัก 200 เมตร เลี้ยวซ้ายแยกที่ 3 ร้านอยู่ถัดจากห้องหัวมุมสัก 3 ห้อง เล็กๆ ตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่นและต้องเดินลงไปชั้นใต้ดิน ที่สำคัญ ต้องสำรองโต๊ะนะครับ… วันนั้นไปตอนค่ำๆ น่าจะ 1 ทุ่มกว่า เห็นป้ายบอกขาย เวลา 17.00-22.30 น. รอคิวไม่นานนัก มีป้ายภาษาไทยแจ้งราคา 2,500 เยนต่อคน (ยังไม่รวมภาษี) เดี๋ยวนี้เราคนไทยกลายเป็นขาใหญ่ใจป้ำไปแล้ว
จริงๆ ร้านขายชาบูขาปู+ชาบูหมูดำ คุโระบุตะ เสิร์ฟวางเป็นหม้อไฟต่อโต๊ะและจัดปู หมู ใส่จานพร้อมผักสดและเส้นอุด้ง เมื่อกินหมดก็สั่งเติมไม่อั้น ทั้งปู หมู ผัก แต่เครื่องดื่มต้องสั่งคนละ 1 แก้ว ราคาแยก น่าจะแก้วละ 100 บาท ยกเว้นเบียร์ เหล้า ไวน์ จากนั้นก็ลุยได้เลย คืนนั้นไม่มีคนไทย มีแต่หนุ่มสาวคนญี่ปุ่น ไปนั่งกิน คุยหัวเราะกันเสียงดังสนุกสนาน แต่ไม่เอะอะ น่ารำคาญ หรือรบกวนโต๊ะข้างเคียง อันนี้ถือเป็นมารยาทวัฒนธรรมในที่สาธารณะของญี่ปุ่นที่ดีมากๆ
ร้านจัดให้นั่งโต๊ะละ 2, 4 และ 6 คน แต่ได้นั่งกินที่เคาน์เตอร์ เลยมองเห็นการจัดการ การขนส่งที่คล่องแคล่วมากทั้งคนขายและลูกค้า เสิร์ฟเร็ว เพราะเมนูไม่ต้องเลือก ของสดก็แค่ 3 จาน ดูเหมือนจะตระเตรียมไว้มาก คนกินก็มีวิธีกิน วิธีแกะ หนุ่มพนักงานเสิร์ฟเห็นหน้าแล้วรู้เลยว่าเราเป็นต่างชาติกินไม่เป็นแหงๆ เลยมายืนสอนวิธีการหักขาปู สาธิตว่าต้องหักจุดไหนแบบไวไวจนงงและทำไม่ได้ สาวสวยญี่ปุ่นโต๊ะติดกันหัวเราะยิ้ม หันมาแนะวิธีการกินปู โดยหักที่ละข้อขาปู (นึ่งสุกมาแล้ว) แช่เย็นไว้แต่ถูกแกะเปลือกออกมาแล้วนึดนึง เลยทำให้ดึงเนื้อปูออกมาง่ายมาก เนื้อจะตามมาเลย แต่เนื้อปูน้อยเพราะปูตัวเล็ก เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าปูม้าบ้านเรา ได้ความว่าเป็นปูชูไว เป็นปูยักษ์พันธุ์หนึ่งที่มาจากแถบฮอกไกโดและรัสเซีย เราต้องใส่ผักลงไปก่อนในหม้อชาบูแล้ว จัดการหย่อนขาปูที่มีเนื้อที่แกะแล้วโผล่แล้วลงไปในหม้อ แกว่งไปมาๆสักครู่หนึ่งให้เนื้อปูร้อนก็กินได้ จะอร่อยกว่ากินเนื้อปูเย็นๆ น้ำจิ้มไม่จิ๊ดจ๊าดแซ่บแบบบ้านเรา หากเป็นคนชอบของมึนเมา ต้องสั่งเบียร์ท้องถิ่นมาจิบไปมองโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ จะครึ้มใจทันที ด้วยเสียงภาษาญี่ปุ่นและโทนของร้าน มันส่งเสริมมาก
ชาบู ชาบูของแท้ รสชาติมันจืดธรรมดาๆ อยู่แล้ว ไม่ถูกปากคนไทยแน่นอน ปูบ้านเราตัวโตกว่า เนื้อมากกว่า หวานกว่า แต่ถือว่าไปคิวชูทั้งทีก็ต้องขอลองซึมซับบรรยากาศร้านฮิตของฟูกุโอะกะ และจะว่าไปราคาก็ไม่แพงนัก ไม่ถึงพันบาทต่อคน ราคานี้ไปบุฟเฟต์โรงแรมที่กรุงเทพฯ ยังไม่ได้เลย ดังนั้นไปแล้ว ไปลองเถอะ ไม่งั้นไม่รู้
แต่ถ้าอาหารเช้า ชอบมากๆ รสจืดถูกปากอร่อยคนไทย อาหารไม่เลี่ยนไม่มัน คนญี่ปุ่นกินแต่ของดีมีประโยชน์ ดีกว่าฝรั่งที่มีแต่แป้งและนมๆ เนยๆ ได้กินข้าวปลาย่าง ถั่วเน่า ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ผัดเต้าหู้ ผักดอง ถั่วคั่วเกลือ ขิง ซุปร้อนๆ เหมือนพุ้ยข้าวต้มร้อนๆ จิ้มโน่นนี่นั่น มีทั้งซีอิ๊ว โชยุ พริกไทย
ใช่เลย นี่แหละเบรกฟาสต์ของคนตะวันออก ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ ไม่หิวโหยแม้จะอยู่ต่างแดน ห่างไกลจากข้าวราดแกง อาหารเช้าคู่บ้านคู่เมืองของบ้านเรา