พูดคุยกันแบบเบาๆ กับ 3 นักเขียนหน้าใหม่ ผลผลิตจาก อ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 1
ด้วยจุดมุ่งหมายที่นอกเหนือจากการสร้างพื้นที่ในการเผยแพร่นิยายใหม่ๆ ของนักเขียนที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่อ่านเอาต้องการต่อยอดก็คือการปั้นนักเขียนหน้าใหม่ให้เข้ามาโลดแล่นในวงการวรรณกรรม เราจึงตั้งใจก่อตั้งโครงการ อ่านเอาก้าวแรก : ก้าวแรกที่มั่นคงบนถนนสายวรรณกรรม ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าอบรมการเขียนจากนักเขียนนิยายมืออาชีพ นำโดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม พงศกร กิ่งฉัตร พร้อมด้วยนักเขียนมืออาชีพรุ่นใหม่อย่าง ปราปต์ ปองวุฒิ ภัสรสา และกานต์ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา และได้มีการคัดเลือกนิยาย 16 เรื่อง ที่ส่งเข้าประกวดจากผู้เข้าอบรม คัดสรรรอบแรกจนได้ 5 เรื่อง และประกาศผลรอบชนะเลิศแล้ว 3 เรื่อง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นักเขียนที่ได้รับรางวัลมีทั้งหมด 3 คนด้วยกันคือ ภาณิณ จากเรื่อง มะงุมมะงาหรา พิมพ์อักษรา จากเรื่อง ล่ารักสุดขอบฟ้า และแสนแก้ว จากเรื่อง Messy Buddy นายบัดเดอร์ใช่เธอหรือเปล่า
นักเขียนทั้งสามล้วนเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการเขียนนิยาย และมีความสามารถหลากหลาย ภาณิณ เป็นนักเขียนบทละครและจัดการแสดง พิมพ์อักษรา ทำธุรกิจร้านชาที่เชียงใหม่ บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว และนักเขียนนิยาย และแสนแก้ว ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศและเขียนนิยายไปด้วย พวกเขาและเธอมาเจอกันในชุมชนอ่านเอา และหวังตามรอยนักเขียนรุ่นใหญ่ ผู้เป็นแรงบันดาลใจหล่อเลี้ยงความฝันมาแต่เยาว์วัย อ่านเอาจึงขอนั่งคุยกับพวกเขาว่าประสบการณ์จากนักเขียนที่ยืนหยัดด้วยปากกาและน้ำหมึกหลายสิบปีช่วยนำทางพวกเขาจนเห็นผลสำเร็จในวันนี้อย่างไรบ้าง
มะงุมมะงาหรา - นิยายทะลุมิติ
ภาณิณ หรือ เด่น – ภาณุวัฒน์ อินทวัฒน์
มะงุมมะงาหรา เป็นนิยายทะลุมิติ เล่าถึงนิสิตปริญญาโทด้านวรรณคดีไทยที่หลุดเข้าไปในวรรณคดีเรื่องอิเหนา และพยายามจะเปลี่ยนเรื่องตามวิธีคิดในแบบของตัวเองที่เป็นเด็กยุคสมัยใหม่ เลยเกิดเป็นเรื่องวุ่นวายต้องตามแก้ปัญหากัน
“ผมอยากลองเขียนนิยายที่ใช้วรรณคดีเป็นข้อมูลในการเขียน เมื่อได้มาเรียนที่อ่านเอาก้าวแรก จึงเริ่มเขียนอย่างจริงจังโดยใช้เวลาเกือบๆ สองเดือน” ภาณิณเล่าถึงที่มาของนิยายเรื่องนี้ให้ฟัง
ด้วยพล็อตหลักที่ใช้อิเหนาเป็นฉากสำคัญในเรื่อง ภาณิณต้องใช้ทักษะทางภาษาทั้งร้อยแก้วร้อยกรองเรียงร้อยเล่าให้ได้อย่างกลมกลืน โดยเฉพาะเวลาที่ตัวละครหลุดเข้าไปในโลกวรรณคดี ทำให้หลายครั้งภาณิณเกิดความไม่มั่นใจในการนำข้อมูลมาใช้
“พอได้มาเรียนกับวิทยากร เราได้ข้อคิดเยอะมาก หลายคำถามมันตอบสิ่งที่ค้างคาในใจเราได้ อย่างเช่น การใช้วัตถุดิบอย่างวรรณคดีไทยมีขอบเขตแค่ไหน เปลี่ยนแปลงได้เลยไหม ก็ปรึกษาพี่โอ๊ต พงศกร ซึ่งเขียนนิยายอิงวรรณคดีและประวัติศาสตร์มาอยู่แล้ว ก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ข้อมูลที่จะใช้นั้นมีวัตถุดิบอยู่เยอะมาก เราอ่านละเอียดดีพอแล้วหรือยัง ผมก็มั่นใจว่าผมอ่านละเอียด แต่ก็เป็นการอ่านเมื่อนานมาแล้ว เพราะฉะนั้นก็อ่านใหม่ เวลาที่ใช้ไปส่วนใหญ่จึงเป็นการอ่านพระราชนิพนธ์จริงๆ แล้วเลือกว่าเราจะดึงอะไรมาใช้โดยที่ไม่ไปกระทบกับต้นฉบับมากจนเกินไป” ภาณิณอธิบาย
มะงุมมะงาหราเป็นนิยายเล่มแรกที่ผ่านการคัดสรรทั้งสองรอบจากวิทยากรทั้งจากวงการนิยายและวงการละคร แม้พล็อตนิยายทะลุมิติจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความสามารถในการเล่าเรื่อง การใช้ภาษาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ก็ส่งให้นิยายของภาณิณมีความน่าติดตามและลุ้นไปกับตัวละครได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
“ตอนประกาศรางวัลนั้นตลกมากครับ ผมขับรถอยู่ตอนบ่ายสองเพื่อจะไปให้ถึงที่หมายตอนบ่ายสองครึ่งให้ได้ ก็นั่งฟังแบบลุ้นมาก ‘มา เรามาประกาศผลดีกว่านะครับ เรื่อง…’ แล้วก็ฟึ่บ แบตหมด หายไปเลย ผมก็วิ่งพล่านไปทั้งร้านขอยืมที่ชาร์จแบตฯ ของพนักงานร้านมาชาร์จ พอโผล่มาอีกที ‘ครับ โครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่สอง…’ ในเวลานั้นกลายเป็นแม่ เป็นเพื่อนต่างๆ ที่ไลน์เข้ามาว่า ‘ยินดีด้วยๆ’ อ้าว ได้เหรอ โอเค ก็ดีใจมากๆ เลยครับ
“ผมตั้งใจจะเป็นนักเขียนอาชีพ สิ่งนี้จึงเหมือนเป็นทิศทางอันหนึ่งที่บอกว่า เธอบินได้นะ แต่ตอนนี้อาจจะสักเมตรสองเมตรก่อน ก็จะบินต่อไปครับ ตราบใดที่เรายังมีความสนุกกับมัน” ภาณิณกล่าว
ล่ารักสุดขอบฟ้า - โรแมนติกแฟนตาซี
พิมพ์อักษรา หรือ เพลิน – ปุณณิฐฐา วิชญศิวานนท์
พิมพ์อักษรา หญิงสาวจากจังหวัดเชียงใหม่ที่หัดเขียนนิยายเองและเคยออกนิยายมาแล้ว 3-4 เล่ม เธอจึงเป็นหนึ่งในผู้เข้าอบรมที่มีประสบการณ์การเขียนนิยายมาบ้างแล้ว และมีเป้าหมายจะเขียนนิยายอย่างจริงจัง จึงมาเข้าร่วมในชุมชนอ่านเอาแห่งนี้
“เราอยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่อยากหยุดนิ่งอยู่กับที่ จะได้เปิดประสบการณ์ ได้เรียนรู้จากวิทยากรและนักเขียนอาชีพ เพื่อทำให้มุมมองและโลกของเรากว้างขึ้น ไม่อย่างนั้นเราก็จะคิดอยู่แบบเดิม เขียนแบบเดิม แล้วเราก็อยากรู้จักคนอื่นๆ รู้จักหนังสือเรื่องใหม่ๆ งานเขียนแบบใหม่ๆ ด้วย” พิมพ์อักษราเล่าถึงที่มาของการสมัครเข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรกให้ฟัง
ล่ารักสุดขอบฟ้า เป็นการต่อยอดจินตนาการของพิมพ์อักษราที่ชอบอ่านหนังสือแนวประวัติศาสตร์ เรื่องเจ้าหญิงเจ้าชาย และนิทานอาหรับราตรี มารวมกันจนกลายเป็นนิยายที่เล่าถึงดินแดนสมมติ “เป็นนิยายโรแมนติกผสมแฟนตาซีหน่อยๆ พูดถึงการตามล่าสมบัติชิ้นหนึ่งในอาณาจักรหนึ่ง แต่นางเอกถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ลอบฆ่าพระราชินี ทำให้เธอต้องกลายเป็นนักโทษ และเกิดเป็นเรื่องราวผจญภัยขึ้น”
กานต์ หนึ่งในวิทยากรผู้คัดสรรนิยายรอบแรกกล่าวถึงนิยายเล่มนี้ว่า “ล่ารักสุดขอบฟ้าให้อารมณ์คล้ายๆ ลิเกฝรั่ง และเหมือนกำลังอ่านงานของลักษณาวดี แม้จะยังมีจุดที่ไม่สมบูรณ์อยู่ แต่ก็มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่อง”
การเรียนในชั้นเรียนอ่านเอาช่วยให้พิมพ์อักษราแก้ไขการเป็นโรคเสียดายข้อมูล และชอบเขียนฟุ้งเลยเถิดไปจนหลุดออกจากทิศทาง โดยเธอใช้เวลาในการเขียนนิยายเล่มนี้ราว 6 ชั่วโมงต่อวัน สลับไปกับการทำงานอื่นๆ และมาเร่งเขียนเอาในตอนหนึ่งเดือนครึ่งสุดท้ายจนสำเร็จในที่สุด
“พอมาเรียนจึงทำให้เราเรียนรู้ที่จะมีโฟกัสและแก้ไขงานอย่างมีทิศทางมากขึ้น โดยที่ไม่ทำให้เสียเอกลักษณ์ของเราเอง ที่เป็นคนชอบบรรยายรายละเอียด อีกอย่างคือเรื่องเวลาที่จำกัด เราต้องเขียนในเวลาที่จำกัดให้ได้ เราก็บอกทุกคนว่าจะเขียนหนังสือ อย่ารบกวน ที่บ้านก็เข้าใจ โอเค ฉันไม่ยุ่งกับเธอ” พิมพ์อักษราเล่าอย่างติดตลก
Messy Buddy นายบัดเดอร์ใช่เธอหรือเปล่า -โรแมนติกคอมเมอดี้
แสนแก้ว หรือ ทิพย์ – พรทิพย์ ทองพิสิฐ
Messy Buddy นายบัดเดอร์ใช่เธอหรือเปล่า เป็นนิยายแนวโรแมนติกคอเมดี้ที่ได้รับการคัดเลือกอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเขียนโดยแสนแก้ว เธอเล่าเรื่องย่อให้ฟังว่า “บัดเดอร์คือคนที่จับบัดดี้ได้ค่ะ เรื่องนี้เล่าถึงฝ่ายการตลาดในบริษัทแห่งหนึ่งที่จัดกิจกรรมเล่นเกมบัดดี้กัน ซึ่งนางเอกกำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับคนที่เป็นบัดเดอร์ แต่ตามกติกาแล้วระหว่างที่เล่นเกม บัดดี้จะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร นางเอกก็เลยตั้งใจจะสืบให้ได้ว่าคนที่เธอหลงรักเป็นใคร”
ด้วยเนื้อหาที่อ่านง่ายสบายๆ แสนแก้วจึงเล่าถึงความรู้สึกตอนประกาศรางวัลให้ฟังว่า เธอรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่านิยายของตัวเองได้ผ่านการคัดสรรจากวิทยากรตั้งแต่รอบแรก
“งงค่ะว่าเข้ารอบด้วยเหรอ เพราะส่วนใหญ่นิยายที่ได้รางวัลกันมักจะเป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ที่มีข้อมูลแน่นๆ สงครามโลก หรือสิทธิสตรีมากกว่า ในตอนนั้นเพื่อนก็ไลน์มาว่าเข้ารอบ 5 เรื่องสุดท้ายนะ ก็ดีใจ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าชัดเจนแล้วหรือยัง ก็รอมาจนประกาศผล 3 เรื่องสุดท้ายจาก 5 เรื่อง แล้วติดหนึ่งในสามด้วย ก็แปลกใจมาก”
ปิยะพร ศักดิ์เกษม พงศกร กิ่งฉัตร และกานต์ อธิบายถึงเกณฑ์การคัดเลือกนิยายของอ่านเอาก้าวแรกว่า ไม่ได้จำกัดแนวเรื่อง และการตัดสินจะใช้วิธีเลือกจากความสนุก มีความสมเหตุสมผล มีความต่อเนื่องอ่านแล้วคล้อยตาม การใช้ภาษาที่ถูกต้อง และมีจุดบกพร่องน้อยที่สุด ซึ่งนิยายเรื่องนี้ให้ความรู้สึกราวกับกำลังดูละครเกาหลี เรื่องเล่ามีเสน่ห์ชวนติดตาม อ่านแล้วนึกภาพตามต่อได้
“เราได้มุมมองการเขียนหลายอย่าง โดยเฉพาะการให้เขียนในแบบที่เป็นแนวของเราเอง ไม่ต้องไปตามละคร ไม่ต้องตามใคร แล้วคนอ่านที่ชอบแนวเดียวกันก็จะตามเรามาเอง รางวัลจึงเหมือนเป็นการยืนยันบางอย่างจากวิทยากรว่า นิยายของเราได้รับการยอมรับว่าแนวทางนี้ใช้ได้ และมีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องต่อๆ ไป ส่วนตัวก็ตั้งใจว่าจะเขียนให้ต่อเนื่องและทำงานเก็บประสบการณ์เพื่อนำมาเขียนต่อไปค่ะ” แสนแก้วทิ้งท้าย
นิยายทั้ง 3 เรื่อง ชาวอ่านเอาจะได้อ่านกันในเว็บไซต์เร็วๆ นี้โดยจะเริ่มทยอยให้อ่านกันทีละเรื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป และหลังจากที่ลงเว็บไซต์แล้ว นักเขียนสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระว่าสนใจจะรวมเล่มส่งให้กับสำนักพิมพ์ใดก็ได้
สำหรับโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปิยะพร ศักดิ์เกษม พงศกร กิ่งฉัตร และกานต์ ในฐานะวิทยากรและกรรมการคัดสรรนิยาย กล่าวถึงนิยายทั้ง 16 เรื่องที่ส่งเข้ามาว่า นักเขียนในยุคปัจจุบันมีอิสระในการเสนอผลงานของตัวเองตามเว็บไซต์ต่างๆ ได้มากกว่านักเขียนรุ่นเก่า ที่กว่าจะออกผลงานได้นั้นต้องผ่านบรรณาธิการและสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในมหาสมุทรเว็บไซต์นี้จะทำอย่างไรให้พล็อตของนิยายที่มีอยู่ไม่กี่แบบนั้นมีความโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักอ่านได้
“อ่านเอาก้าวแรกตอบโจทย์ข้อนี้ได้ เพราะเราเปรียบเหมือนกับโชว์รูมหนึ่งที่จะดึงน้องๆ ขึ้นมาแสดงให้ผู้คนเห็นว่าพวกเขามีฝีมือนะ ถ้าหากว่าน้องๆ มีความมุ่งมั่นที่จะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด นักอ่านจะเห็นเขา จำเขา และรักเขา นี่คือจุดมุ่งหมายของโครงการ” ปิยะพร ศักดิ์เกษม กล่าว
สำหรับโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่สอง จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 มีนาคม 2562 นี้ ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่า เราจะได้นักเขียนหน้าใหม่คนไหนมาประดับวงการกัน ส่วนใครที่มีความฝันอยากเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักเขียนนิยาย อย่าพลาดติดตามข่าวโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นต่อไปด้วยนะ
เรื่อง : สราญรัตน์ ไว้เกียรติ
ภาพ : อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณอยุธยา
