“สูตรหวานซ่อนรัก” เรื่องรักรสหวานที่อ่านแล้ว Feel Good
โดย : YVP.T
แค่เห็นชื่อเรื่องก็รู้สึกว่าน้ำตาลต้องขึ้นแน่ๆ เพราะนิยายเรื่องนี้แม้กินไม่ได้ แต่การันตีว่าเพื่อนๆ นักอ่านจะได้ลิ้มรสความหวานในทุกตัวอักษร และมากกว่านั้นคือ ความรู้สึก Feel Good จะปรากฏสมกับนามปากกา Feelgood ของ แจม-ปุญญิศา เกลียวทอง แน่นอนค่ะ
แจม-ปุญญิศา ไม่ได้เป็นแค่นักเขียนนิยายเท่านั้น แต่อีกมุมหนึ่งเธอเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรในกลุ่มเครื่องบรรจุอุตสาหกรรม ที่ได้มาเริ่มเขียนนิยายเพียงเพราะความอยากลองเขียนดูสักครั้ง และเป็นการสานฝันความอยากเขียนนิยายมาตั้งแต่อายุ 14-15 ปี
“จุดเปลี่ยนที่น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้กลับมาเขียนนิยายดูอีกสักครั้งหลังจากที่ล้มเลิกไปเมื่อตอน 14-15 คือ ได้มาอ่านนิยายเรื่องที่ชอบอีกครั้ง และได้ไปยืนในจุดที่นิยายเขียนบรรยายไว้ เลยกลับมาลองเขียนดู ความรู้สึกตอนนั้นคือ อยากเขียนให้คนอ่านเห็นภาพและรักในตัวละครเหมือนที่เรารักตัวละครเรื่องนั้นเท่านั้นเองค่ะ”
เมื่อโครงการอ่านเอาก้าวแรกรุ่นที่ 3 เปิดรับสมัคร เธอตัดสินใจเข้าร่วม โดยตัดสินใจสมัครก่อนวันปิดรับเพียงแค่ไม่กี่วัน แถมตอนนั้นยังไม่ได้ติดตามข่าวสารจากที่ไหนในแวดวงนักเขียนมาก่อนเลย เพราะที่ผ่านมา เธอบอกว่า เธอเขียนเองขายเองคนเดียว ไม่มีสังคมนักเขียน แต่พอรุ่นน้องมาชวนจึงอยากลองเข้าร่วม เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
“เหตุผลที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้ตัดสินใจเข้ามาสมัครโครงการอ่านเอาก้าวแรกรุ่นที่ 3 เพราะอยากลองฉีกแนวเขียนในแบบที่เราไม่เคยเขียน และชื่อวิทยากรทั้งสามท่าน ก็สร้างความมั่นใจให้ว่า เราจะได้เรียนรู้หลายอย่างจากโครงการนี้แน่นอน และก็เป็นไปตามที่หวังไว้ คือได้เรียนรู้แนวคิดการวางพล็อตนิยายแบบที่ไม่เคยรู้ เพราะเราเริ่มจากการเขียนผ่านความรู้สึก ไม่มีการวางโครงสร้างก่อนเขียน ไม่รู้ว่าแต่ละองค์ประกอบเรียกว่าอะไร
“เราได้รู้ถึงวิธีการทำงานของวิทยากรทั้งสามท่านที่ดูเป็นระเบียบแบบแผน ก่อนที่จะลงมือเขียนนิยายในแต่ละเรื่อง รวมถึงการทำรีเสิร์ชเพื่อหาข้อมูลก่อนลงมือเขียนจริง รวมไปถึงการวางผังตัวละคร ที่ดูลึกและเห็นภาพชัดเจนขึ้นกว่าที่เราเคยทำทั้งหมด”
ก่อนหน้าที่จะมาถึงคิวของ ‘สูตรหวานซ่อนรัก’ แจม-ปุญญิศา เขียนนิยายมาแล้วถึง 25 เรื่อง โดย ‘สูตรหวานซ่อนรัก’ เป็นนิยายหมายเลข 26 จากเรื่องแรกที่เธอเขียนมา
“ความพิเศษของสูตรหวานซ่อนรักคือเป็นเรื่องแรกที่ฉีกจากเรื่องที่เคยเขียน เป็นเรื่องที่ตั้งใจเขียนให้งานมีคุณค่ามากกว่าจะเขียนเอาสนุก โดยพล็อตนี้เกิดขึ้นเพราะจำเป็นต้องดึงความรู้ ความเข้าใจในด้านที่เราไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเขียนนิยายออกมา เพราะตอนนั้นเวลาที่มีไม่เอื้อให้หาข้อมูลสักเท่าไหร่ กว่าจะตัดสินใจว่าจะเขียนงานส่งก็วันที่ 11 เม.ย. ตอนค่ำไปแล้ว แต่งานต้องส่งภายใน 30 เม.ย. จึงต้องหาอะไรสักอย่างที่เราเข้าใจมันมากๆ มาเขียน
“ก็เลยนึกถึงสวนมะพร้าวที่เห็นมาตั้งแต่เกิด นึกถึงขนมหวานที่ชอบกิน และสมัยนี้หาก็หาร้านอร่อยๆ ได้ยากมาก แถมยังเป็นคนที่ทำขนมได้ และชอบทานขนมแบบที่มันถึงเครื่อง เวลาทำกินเองจะชอบทำแบบนั้น เลยตั้งใจเอาสองอย่างนี้มารวมกัน เรื่องสูตรหวานซ่อนรักจึงเกิดขึ้นมา แต่อีกประการคืออยากให้คนรู้ว่าการทำขนมไทยไม่ได้ยากอย่างที่คิดด้วยค่ะ เราจะเห็นได้ว่าในเรื่อง พระเอกจะสอนนางเอกด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยาก มันคือวิธีที่เราย่อสูตรไว้ใช้เอง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าด้วยความอร่อย”
และอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า นักอ่านจะได้ลิ้มรสความหวานในทุกตัวอักษรแน่นอน นั่นเพราะเรื่องนี้
แจม-ปุญญิศา ได้ใส่เรื่องราวความน่ารักผ่านขนมต่างๆ และฉากน่ารักให้จินตนาการจนฟินกันอย่างแน่นอน
“สูตรหวานซ่อนรัก เป็นเรื่องของปีใหม่ ปรีชญา ที่ได้รับคำท้าจากอาแท้ๆ ของเธอ โดยมีโรงงานขนมหวานที่พี่ชายสร้างขึ้นมาด้วยความรักเป็นเดิมพัน ทั้งที่เธอทำอาหารไม่เป็น แต่เพราะไม่อยากเสียสิ่งที่เป็นตัวแทนความรักของพี่ชายไป เธอจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาโรงงานขนมหวานเอาไว้ แต่ใครจะมาช่วยเธอบ้าง กลโกงแบบไหนที่เธอต้องเจอและผ่านไปให้ได้ สุดท้ายเธอจะทำสำเร็จไหม ต้องติดตามกันนะคะ”
และแน่นอนว่า เมื่อเป็นนิยายที่ออนไลน์บนเว็บไซต์ anowl.co นิยายจะต้องไม่ได้มีแค่ความสนุก และนิยายเรื่องนี้ก็มอบทั้งความฟิน ความหวาน และแฝงความคิดบางอย่างให้กับคุณผู้อ่านได้เก็บไปคิด
“ขนมไทยเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการทำ แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินกว่าความสามารถของเราที่จะทำตามและรักษาสิ่งที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมเอาไว้ หากใครเคยทานขนมแบบต้นตำรับจริงๆ คุณจะรู้…ว่าความแตกต่างของขนมโบราณ และขนมแบบที่ประยุกต์แล้วนั้น รสชาติและเนื้อสัมผัสจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวค่ะ”
ติดตามอ่าน “สูตรหวานซ่อนรัก” กันได้ที่ anowl.co และขอกระซิบบอกนิดนึงว่า หลังจากเรื่องนี้แล้ว แจม-ปุญญิศา มีแผนจะเขียนนิยายเล่มต่อจากเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับขนมไทยด้วยนะคะ