อิสรสุขแสนแพงที่ผ่อนได้
โดย : อาเอิง เริงใจ
เมื่อความโดดเดี่ยวมาสู่เรือนแห่งชีวิต สิ่งที่ได้รับแบบไม่ทันตั้งตัว คือ ความอิสระ
‘ความอิสระ’ ที่คนยุคนี้บอกว่า… ชีวิตอิสระจะไปไหนก็ได้ จะทำอะไรก็ได้
สำหรับฉัน ‘ความอิสระ’ จากความโดดเดี่ยวที่รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวในโลก เกิดขึ้นเมื่อวันที่คนที่รักที่สุดจากไปทั้งสองท่าน ฉันไม่มีพี่น้อง ญาติก็อยู่ห่างกระจายไปไกล บวกกับการครองตัวเป็นโสด จนเหมือนหมดอายุใน การมีคู่แล้วนั้น ความอิสระที่โดดเดี่ยวจึงแทรกอาการเหงาหงอยมาเป็นเครื่องเคียงร่วมด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีความเครียดจากงานประจำ ที่มัดรวมกันมาเป็นฟูลแพ็กเกจ
ทุกอย่างทั้งหมดทั้งมวล รวมตัวกันผลักดันให้ฉันต้องออกจากโลกใบเดิม ก้าวไปสู่โลกใบอื่นๆ เพื่อกันเฉาและเพื่อหลงลืม ความโดดเดี่ยว ความเหงา ความเครียด ภายใต้ ‘ความอิสระ’ ที่มี แม้ชั่วยามก็ยังดี
อย่างที่กล่าว ชีวิตอิสระจะไปไหนก็ได้ ฉันจึงไม่รีรอที่ก้าวออกไป… เพื่อหาความสุข
“ไปไหนดีล่ะ?”…คำถามแรกที่ถามตัวเอง
พยายามคิดรอบด้าน ตัวเลือกแรกๆ ที่ตัดออก คือ การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งอาจจะยังไม่เหมาะ ไม่ถูกเวลา นั่นก็คือ… เวลาของการมีทุนทรัพย์รองรังนั่นเอง เมื่อ ‘เบี้ยน้อย หอยน้อย’ จึงต้องคอยไปก่อน
คิดทบทวนต่อ …ตั้งแต่เด็ก (ประมาณ ป.3) เราชอบอ่านนิตยสารแวดวงบันเทิง หรือภาษาบ้านๆ สมัยก่อน เรียก ‘หนังสือดารา’ ไม่ว่าจะเป็น ดาราภาพยนตร์ ภาพยนตร์บันเทิง ทีวีพูล เป็นต้น ฉันจะเจียดเงินค่าขนมไว้ซื้อนิตยสารพวกนี้อ่าน และยิ่งโตขึ้น วงการนิตยสารก็เฟื่องฟูถึงขีดสุด ทำให้ฉันติดตามซื้อนิตยสารหลากหลายหัวต่อสัปดาห์ ต่อปักษ์ ต่อเดือน มากมายก่ายกอง เพื่อติดตามข่าวสารและเรื่องราวของดารา นักร้อง ที่เราชื่นชอบ
นอกจากนิตยสารที่เต็มบ้าน ความสุขและความบันเทิงอีกอย่าง คือบทเพลงจากศิลปินต่างๆ สะสมทั้งเทปคาสเซ็ตเรื่อยมาถึงยุค แผ่นซีดี วีซีดี ดีวีดี จนถึง เอ็มพี 3 ซึ่งมีเยอะมากๆ
แต่ไม่ว่าจะมีนิตยสารหรืออัลบั้มต่างๆ จากในอดีตมาถึงปัจจุบันมากมาย แต่สิ่งที่เป็นความฝันที่ยังไม่เคยเป็นจริง ก็คือ ฉันไม่เคยไปชมคอนเสิร์ต ไม่เคยได้พบศิลปินตัวจริง เพราะความที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกเดินทาง ไม่มีเงินเก็บเพื่อซื้อบัตรชมการแสดง และยังมีบุคคลอันเป็นที่รักที่ต้องดูแลอีกสองท่าน จึงดูเหมือนยากที่จะได้เจอศิลปินตัวเป็นๆ ทำได้แค่เก็บความชื่นชอบไว้กรี๊ดหน้าจอโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่
เมื่อได้รับความอิสระใน ‘วัยชรา’ (เมื่อเร็วๆ นี้ มีคนให้นิยาม ผู้สูงอายุ คือตั้งแต่ อายุ 40 ปีขึ้นไป) ฉันตัดสินใจเลือกที่จะไปชมการแสดงต่างๆ ที่จัดขึ้นตามโรงมหรสพในกรุงเทพมหานครแทนการเดินทางท่องเที่ยวอื่นๆ
คนร้างลากรุงเทพฯ มาหลายปี หากมุ่งมั่นคงไม่ยากที่จะเคาะสนิมเรื่องการเดินทาง แม้จะมียานพาหนะที่หลากหลายมากขึ้นก็ตาม หากแต่กลับสะดวกสบายกว่าสมัยก่อนเป็นไหนๆ แม้จะเดินทางโดยลำพังก็พร้อมลุย
นอกจากศึกษาเส้นทางและสถานที่แสดงแล้ว ลำดับถัดไปก็เริ่มหัดจองบัตรผ่านเว็บไซต์
เตรียมตัวไปชมการแสดง ไปเจอศิลปินที่ชื่นชอบ โดยเลือกชม เลือกดูละครเวที คอนเสิร์ต ต่างๆ มากมาย รวมๆ แล้วภายในเวลาปีกว่าๆ ชมไปเกือบ 20 การแสดง (เหมือนอัดอั้น เหมือนใจแตก ฮ่าๆๆ)
ทุกการแสดงล้วนสร้างความประทับใจ ทั้งตัวศิลปินดารา ฉาก แสง สี เสียง ความไพเราะ หรือเทคนิคอันตระการ บางครั้งก็เกินคาด สร้างความสุขจนแทบจะนอนไม่หลับเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น หลังคอนเสิร์ตหนึ่งจบลง หรือละครเวทีบางเรื่องจบการแสดง จะเปิดโอกาสให้เราได้ร่วมถ่ายรูปกับศิลปิน ได้พูดคุย ยิ่งศิลปินคนไหนเป็นกันเองมากๆ ก็จะโอบกอดเราถ่ายรูป เซลฟี่กับเราอย่างใกล้ชิด ทักทาย ไม่ถือตัว ซึ่งเทียบกับสมัยก่อนต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะการได้เจอศิลปินคือเรื่องยาก ศิลปินเปรียบเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า เรา… เหมือนหมาที่แหงนคอมอง!
ครั้งหนึ่งในขณะแสดง ศิลปินเดินลงจากเวที มายื่นดอกกุหลาบดอกโตให้ฉันแล้วจ้องตา เขาเป็นดาราชื่อดังที่ฉันชื่นชอบมากๆ แอบบอกตรงๆ ว่าขณะนั้นเขินมาก อยากได้ถังออกซิเจน มันหายใจไม่ออก มันสำลักทั้งความหล่อและความสุข สรุปคืนนั้นนอนไม่หลับ เห็นแต่ภาพนั้นติดตา แสนจะสุขใจ
อีกครั้งเป็นคอนเสิร์ตที่ต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเขื่อนป่าสักฯ จังหวัดลพบุรี โดยเดินทางด้วยรถไฟ มีแวะเที่ยวแหล่งโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และระหว่างทางมีเชฟชื่อดังปรุงอาหารมื้อพิเศษให้ทาน เมื่อถึงที่หมายมีรถโค้ชสุดหรูรับต่อไปจังหวัดนครราชสีมาเพื่อชมคอนเสิร์ตนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในตำนาน มันเป็นยิ่งกว่าวีไอพี ทุกอย่างดูพิเศษ เป็นกันเอง ใกล้ชิดจนแทบจะกอดคอกันร้องเพลงระหว่างศิลปินและคนดู ที่จำกัดแค่ เพียง 60 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งฉันต้องขอบคุณตัวเองที่ซื้อบัตรใบสุดท้ายเอาไว้ได้ ทุกอย่างดีงาม ประทับใจจริงๆ
ข้อดีของการมาชมการแสดงต่างๆ โดยลำพังมีมากมาย ไม่ว่าจะ… ตัดปัญหาเรื่องการรอคอยหากมีเพื่อนมาด้วยกัน ทั้งเรื่องการกิน การเข้าห้องน้ำ การจองที่พัก หรือการเดินทาง อีกทั้งฉันกลับได้รับน้ำใจจากคนที่ไปชมการแสดงด้วยกัน ทุกคนไม่ปฏิเสธที่จะช่วยถ่ายภาพให้เมื่อฉันเอ่ยปากไหว้วาน เด็กวัยรุ่นหรือคนอ่อนวัยกว่าช่วยแนะนำหรือให้เกียรติฉันก่อน ฉันมีเพื่อนใหม่หลายคนที่เจอกันในการชมการแสดง นอกจากนี้ยังได้เจอศิลปินตัวจริงหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มาชมการแสดงเช่นกัน เช่นไปชมคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด ธงไชย แต่ได้เซลฟี่กับคุณชาคริต แย้มนาม เปรียบเหมือนถูกหวยตัวโต๊ดเลยทีเดียว
ฉะนั้น การไปเที่ยวคนเดียว ไม่ได้แย่อย่างที่เคยกังวล
และถือว่า ความอิสระจากความโดดเดี่ยวช่วยคลายเหงา คลายเครียดไปได้
มีคนถามฉันเหมือนกันว่า เที่ยวคนเดียว ไม่เหงา ไม่กลัวหรือ?
ฉันอยากตอบว่า ตอนนี้ไม่กลัวที่จะเที่ยวคนเดียว แต่กลัวที่จะกลับไปเหงาเพราะไม่ได้เที่ยวมากกว่า
วัยครึ่งร้อยแล้ว ยังจะกลัวอะไรอีก ยิ่งตัวคนเดียวไม่มีใครให้ห่วง ถือว่าหมดกังวลเรื่องความกลัว
มีผู้สงสัยถามต่ออีกว่า ค่าบัตรแพงจัง ทำไมกล้าซื้อดู เห็นค่าบัตรแล้วเสียดายตังค์แทน?
ฉันยิ้มแล้วค่อยๆ ตอบ… ขอบพระคุณที่เป็นห่วง แต่นี่คือความสุขของฉัน ฉันสะดวกอยากนั่งหน้า ถ้าฉันซื้อบัตรแถวหลัง มันจะมีโมเมนต์… พระเอกชื่อดังเดินเอาดอกไม้มาให้ หรือยื่นมือไปศิลปินยื่นมือมาจับตอบ จะมีนักร้องชื่อดังลงมายืนร้องและสบตาอยู่ตรงหน้า หรือสิทธิ์ที่จะได้ถ่ายรูปกับศิลปิน ฉันจะได้ไหม?
ในการแสดงหนึ่งๆ ไม่ได้มีแค่ศิลปินดารา แต่ยังมีมดงานอีกมากมายที่อยู่เบื้องหลัง และทุกตำแหน่งงานต้องได้รับค่าจ้าง ยังไม่รวมถึงค่าต่างๆ จิปาถะ เงินค่าบัตรจึงเสมือนลมหายใจของการแสดง ถ้าไม่มีคนดู การแสดงก็คงไม่มี เราเองก็ไม่ได้รับความสุข ค่าบัตรที่แสนแพงเมื่อถูกหารเฉลี่ยกับค่าใช้จ่ายจึงดูน้อยนิด
มีครั้งหนึ่งระหว่างรอชมการแสดง มีพี่สาวคนหนึ่งใส่เสื้อสีชมพูหวานฟรุ้งฟริ้งกับกางเกงยีนส์สีบานเย็นเข้ม รองเท้าผ้าใบ ใส่แว่นดำอันโต สวยทะลุวัย เดินมายืนข้างๆ ชวนฉันคุย… แล้วบอกฉันว่า… มาคนเดียว เพื่อน ลูก หรือสามี ไม่มีใครมาด้วย ระหว่างคุยมีบทสนทนาที่ฉันจำได้ไม่ลืม…
พี่: เพื่อนพี่ก็ว่า มึงบ้ารึเปล่ามาซื้อบัตรแพงๆเพื่อดูคอนเสิร์ต เสียดายตังค์
ฉัน: (ยิ้มแล้วถาม) แล้วคุณพี่ว่ายังไงล่ะคะ?
พี่: พี่ถามเพื่อนพี่ว่า นี่ 70 แล้ว ถ้าไม่ดูตอนนี้ จะให้กูไปรอดูตอนอยู่ในโลงเหรอ หรือจะให้กูพกเงินใส่โลงไปรอซื้อตั๋วบนสวรรค์
นั่นสิ… ฉันต้องขอบพระคุณ คุณพี่ไอดอลของฉันที่ให้ข้อคิดดีๆ ก่อนเดินนำเข้าโรงละคร
ว่าแล้ว… ใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตเดือนนี้ แจ้งเท่าไหร่เราก็ทยอยจ่ายไป ตามคอนเซปต์ประจำตัว ‘ดูก่อน ผ่อนทีหลัง’ ซึ่งอาจจะเป็นแนวคิดที่ไม่ดีนัก โปรดอย่าเลียนแบบ และโปรดอย่าวิพากษ์หรือพิพากษาแนวทางแสวงหาความสุขของผู้อื่น เพราะ…‘ความสุขใครก็ความสุขมัน’
ผ่อนจ่าย คือ มีจ่าย ไม่ได้โกง ไม่ได้หยิบยืมใครให้เดือดร้อน
ฉะนั้น…ความอิสระอันแสนสุขราคาแพงที่ผ่อนได้…มีอยู่จริง
- READ 20 บทความ จาก 20 นักเขียน "อ่านเอาเล่าเรื่อง" พร้อมให้อ่านแล้วตรงนี้
- READ หากโลกนี้ไม่เคยมีผี
- READ คุณแม่
- READ โคลอสเซียมที่โลกลืม
- READ ตามหา ISFJ หรือ ISTJ
- READ จากฟ้ามาเล่า ตอนที่ 1 ‘จากบ้านนอกสู่ท้องฟ้า’
- READ วางแผนชีวิต
- READ เข็มสั้นเลข 3 เข็มยาวเลข 12
- READ หมู่ดาวหมาปอม
- READ เรื่องเล่าในวันที่พ่อไม่อยู่
- READ นครศรีหรรษา ตอน "หรอย...จังฮู้"
- READ อิสรสุขแสนแพงที่ผ่อนได้
- READ เราคือใคร
- READ ซะป๊ะเรื่องเล่าหมู่เฮาคนเมือง ตอน มารู้จักตุงสามหางกันเถอะ
- READ 'สวย' แมวน้อยสอนรัก ตอนที่ 1
- READ ซอมบี้..ฝุ่นพิษ PM 2.5
- READ จอกน้ำชาแห่งรู้
- READ ก้าวนี้ที่เรียนรู้
- READ ความเชื่อ ตอนที่ 4
- READ ความเชื่อ ตอนที่ 3
- READ ความเชื่อ ตอนที่ 2
- READ ความเชื่อ ตอนที่ 1
- READ สิ่งที่ต้องระวัง และคำถามสร้างชีวิตใหม่
- READ เบื่อคนบ่น
- READ เราคนเดียวที่แท้ทรู
- READ สิ่งสำคัญ 4 ประการ
- READ การตั้งเป้าหมายและรับผิดชอบตัวเองแบบ 100% เต็ม