เราคนเดียวที่แท้ทรู

เราคนเดียวที่แท้ทรู

โดย : ครูก้อ เพิ่มพลังชีวิตคิดบวก

Loading

“อ่านเอาเล่าเรื่อง” คอลัมน์ที่รวมบทความจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ่านเอาเล่าเรื่อง ที่จัดโดยเว็บไซต์อ่านเอา โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้นำเรื่องราวที่ประทับใจของตัวเองมาถ่ายทอดในรูปแบบเรื่องเล่า และสานฝันสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็นนักเขียน

การตั้งเป้าหมาย กับการวางแผน หรือการทำแพลนนิ่ง Planning มักจะมาควบคู่กันไปเสมอ ตั้งเป้าหมายแล้วไม่วางแผน ก็เป็นเป้าลอย ลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ เป็นจริงเป็นจังอะไรไม่ได้เลย วันนี้ต้องถามตัวเองก่อนว่า เป็นคนชอบตั้งเป้าหมาย หรือเป็นคนตั้งเป้าหมายเพื่อทำให้ได้ ทำให้สำเร็จกันแน่?

ถ้าแค่ชอบ ก็จะตั้งเป้าหมายไปเรื่อย ๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายแล้ววางแผนต่อ แบบนี้ความสำเร็จก็จะค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ เพราะเรานี่แหละที่เดินเข้าไปหาเอง ความสำเร็จอยู่ที่ปลายทางรอเราทุกคนอยู่ ขอแค่เราขยับไปวันละนิด เราก็เข้าใกล้เป้าหมายของเราแล้วค่ะ

วันนี้มีเทคนิควิธีมานำเสนอกันต่อ ชอบแบบไหน ใช่ข้อใด นำเอาไปใช้ ไปปรับกันดูนะคะ

ถ้าไม่ชอบเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว ให้เราเปลี่ยนวิธีที่เราทำกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต

เหตุการณ์ + วิธีที่เราปฏิบัติกับเรื่องนั้น = ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

***เราบังคับเหตุการณ์ไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนวิธีการได้***

เราเท่านั้นที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งอย่างในชีวิตเราค่ะ

มีคำภาษาอังกฤษที่อ่านแล้วชอบใจ ประโยคนี้บอกว่า I prefer not to recommend you anything, it’s your life. ฉันขอไม่แนะนำอะไรให้กับคุณเลย เพราะมันคือชีวิตคุณนะ จริงดังที่เขาว่า ชีวิตใครก็ชีวิตคนนั้น ต้องจัดการดูแลให้ดีค่ะ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในตอนนี้ เป็นผลมาจากสิ่งที่เราเลือกทำไว้ในอดีตทั้งสิ้น ลองนึกดูดี ๆ สิ่งที่เรามี ที่เราเป็นในตอนนี้ เป็นผลมาจากสิ่งที่เราเลือกทำ เลือกคิดมาเองทั้งสิ้น แล้วเราก็เลือกมาแล้วในตอนนั้น มันถึงมาเกิดในตอนนี้ บ้านที่เราอยู่ เสื้อผ้าที่เราใส งานที่เราทำ ครอบครัวที่เรามี เป็นผลพวงมาจากความคิด การระทำของเราในอดีตทั้งสิ้น

ลองนึกถึง เหตุการณ์ – สิ่งที่เราทำ – ผลที่เกิดขึ้น กับตัวเราดู จะเห็นว่า มันจริงตามนั้นจริง ๆ

สิ่งที่เราต้องรู้

เราเป็นคนลงมือทำทุกสิ่ง

เราเป็นคนคิดความคิดนั้น

เราสร้างความรู้สึกขึ้นมา

เราเป็นคนเลือก

เราเป็นคนพูดคำต่าง ๆ เหล่านั้น

นี่คือเหตุผลที่เรามาอยู่ ณ จุด ๆ นี้ ตอนนี้ เวลานี้ค่ะ

ทั้งหมดนี้ เพราะเราคนเดียวเท่านั้น

เราคือคนที่เลือกแต่งงานกับคนคนนี้ ก็เลยเป็นแบบนี้

เราคือคนที่เลือกทำงานนี้ เลยต้องเจอกับสิ่งต่าง ๆ ที่เจออยู่ตอนนี้

เราคือคนที่เลือกซื้อของชิ้นนี้ เราเลยมีของชิ้นนี้

เราคือคนที่เลือกกินข้าวหลัง 2 ทุ่ม เราเลยน้ำหนักขึ้นอยู่ในตอนนี้

เราคือคนที่เลือกที่จะนอนดึก เราเลยตื่นสาย นอนไม่เต็มอิ่ม

เราคือคนที่เลือกจะผัดวันประกันพรุ่ง เราเลยทำอะไรไม่ทันสักที

เราคือคนที่พูดเองว่า ยังไงก็ได้ เราเลยเจอแต่เรื่องที่ไม่คาดฝัน (จริง ๆ คาดได้ เพราะยังไงก็ได้ ก็เลยกลายเป็นได้รับอะไรก็ได้ ที่ไม่ได้อยากได้)

ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากเราเพียงคนเดียวเท่านั้นจริง ๆ ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เพราะอยากให้ทุกคนได้หันกลับมาใส่ใจตัวเราให้มากขึ้น ได้หวนคิดคำนึงว่าในแต่ละวัน เรายุ่งกับเรื่องของเรา หรือเรายุ่งกับเรื่องของใครกันแน่? สุดท้ายเรามักหลงคิดไปว่า ที่ชีวิตเราเป็นแบบนี้ เพราะคนคนนั้น คนคนนี้ คนคนโน้น แล้วเสียงพูด เสียงบ่นในหัวก็จะวนเวียนไปมากับเรื่องของใครกัน? ค่อย ๆ พิจารณานะคะ

ครั้งหน้าเราจะมาคุยกับเรื่องบ่น ว่าการบ่นที่เราทำกันอยู่ทุกวัน ส่งผลดี ผลเสียอะไรบ้าง? เราจะได้เข้าใจวิธีบ่นที่ชัดเจนยิ่งขึ้นกันนะคะ

 

Don`t copy text!