ตอนที่ 2
โดย : สำสา
เรื่องหลังโรงพยาบาล เรื่องสั้นโดย สำสา คุณหมอผู้ชื่นชอบการสื่อสารเเละถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตเเละธรรมชาติออกมาเป็นงานศิลปะ และครั้งแรกของเขากับงานเขียนในรูปแบบเรื่องสั้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านกัน เรื่องราวของ ‘หมอบุญเสก’ เพื่อนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับและการตายที่อาจมีเงื่อนงำ
น้อยหน่าคือนักเรียนทันตเเพทย์ตัวเล็กๆ ที่เคยเรียนชั้นปีเดียวกันกับพวกเราซึ่งเป็นนักเรียนแพทย์ในช่วง ปี 1 ปี 2 เรามักจะมีการแชร์คลาสเรียนวิชาเกี่ยวกับพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือมีการร่วมกิจกรรมอะไรต่อมิอะไรกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งโอกาสนั้นเองทำให้นักเรียนต่างคณะได้มีโอกาสพบหน้าพบตา มีสังคมและบางคนก็สร้างสัมพันธ์กันเป็นคู่รักในเวลาต่อมา ไม่ทันที่ผมจะรับรู้ว่าบุญเสกไปรู้จักคบหากับน้อยหน่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็พบว่าทั้งสองคนเดินไปไหนมาไหนด้วยกันและนั่งอ่านหนังสือด้วยกันใต้ตึกเรียนในช่วงเย็นหรือช่วงค่ำจนเป็นประจำไปเเล้ว
สังคมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด โดยเฉพาะในช่วงยุคกว่ายี่สิบปีก่อน เป็นสังคมเล็กๆ แคบๆ แม้มิได้มีสื่อสังคมออนไลน์ แต่เรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ การคบหาของใครต่อใคร มักจะถูกพบเจอและพูดถึงกันราวกับว่าเรื่องราวเหล่านั้นถูกประกาศอยู่ในกระดานหน้าห้องเรียนก่อนเข้าเรียน
น้อยหน่าบนภาพจำของผมในสมัยเรียนหนังสือคือสาวหมวยตัวเล็กในชุดเสื้อขาวกระโปรงยาวกลีบสีดำ กับน้อยหน่าที่ผมพบเห็นในงานศพวันนี้ดูไม่แตกต่างกันนัก
พวกเราเพื่อนร่วมชั้นเรียนแพทย์ 4-5 คน นัดหมายกันมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพของเพื่อนในคืนสุดท้าย ซึ่งเป็นคืนวันศุกร์ พวกเราส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดใกล้ๆ
บุญเสกมีเชื้อสายจีน และก็เฉกเช่นคนจีนหลายครอบครัว ที่จะมีประเพณีการทำพิธีกงเต๊กในคืนสุดท้ายของการสวดอภิธรรมที่วัด ซึ่งเป็นพิธีแบบผสมผสาน น้อยหน่าในชุดเสื้อกระสอบแบบที่ใช้กันในพิธีกงเต๊กของคนจีนยืนอยู่ข้างๆ บริเวณพิธี โดยมีพี่น้องและญาติสายตรงของบุญเสกเดินไปมาขึ้นลงสะพานไม้จำลอง พร้อมกับเสียงเครื่องดนตรีที่มีปี่จีนนำ สลับกับเสียงสวดเป็นภาษาจีนของพระจีน
คุณแม่ของบุญเสกอายุมากแล้ว ทราบจากน้องๆ ว่ามีอาการความจำเสื่อม และมีโรคทางสมอง ทำให้ครอบครัวไม่สามารถแจ้งข่าวการเสียชีวิตนี้ให้กับคุณแม่ทราบ คุณแม่ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านและไม่ได้รับรู้ถึงการจากไปของลูกชาย ผู้เพิ่งจะเรียนจบรับราชการเป็นแพทย์ที่อำเภอในจังหวัดบ้านเกิดได้ไม่ถึงปี
เราเพิ่งได้รับข่าวและการ์ดเชิญ เพื่อให้มาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนเเพทย์คนนี้กับเพื่อนสาว ซึ่งคือเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และพวกเราส่วนก็มักจะมาร่วมงานมงคลไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะยังคงวุ่นวายอยู่กับหน้าที่การงานที่แต่ละคนกำลังไปเริ่มต้นในฐานะแพทย์ใหม่ กระจัดกระจายกันอยู่ในพื้นที่หลายแห่งทั่วประเทศ
น้อยหน่าจึงมีฐานะเป็นเจ้าสาวหมาดๆ และกลายเป็นภรรยาหม้ายในเวลาที่ห่างกันไปเพียงไม่กี่เดือน สิ่งหนึ่งที่ผมคิดในใจแต่ก็ไม่ได้ถามกับใคร หรือกระทั่งเพื่อนสนิทที่เดินทางมาร่วมงานศพด้วยกัน คือตอนนี้น้อยหน่าตั้งท้องอยู่ด้วยหรือเปล่า
นอกจากกลุ่มพวกเราที่เป็นเพื่อนแพทย์ 4-5 คน และกลุ่มญาติๆ ของผู้ตาย และใครๆ อีกสักไม่กี่คน ทำให้สังเกตได้ว่าพิธีศพในคืนนี้แม้จะเป็นคืนสุดท้าย ผู้ตายมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอ แต่กลับมีผู้คนมาร่วมงานไม่มาก ผมมองเห็นพวงหรีดไม่กี่พวง อันหนึ่งเป็นของโรงพยาบาล อีกอันหนึ่งเป็นของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ในกลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาร่วมงานศพ 4-5 คน ผมเป็นคนที่อยากรู้เกี่ยวกับสาเหตุการตายของบุญเสกมากที่สุด ข่าวที่บอกว่าเพื่อนโดนไฟชอร์ต ทำให้ผมฉงนสงสัยและอยากรู้จริงๆ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ด้วยความรู้สึกว่าคงไม่เหมาะสม หากไปสอบถามเรื่องนี้กับน้อยหน่าหรือกับญาติคนอื่นๆ ของบุญเสก ผมจึงพยายามมองหาคนที่คาดว่าจะเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลอีกรอบนึง แต่ก็ไม่พบใครจริงๆ
ความสงสัยและคำถามที่อยากจะถามว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นได้อย่างไรและเป็นแบบไหนนั้น ก็จบลงไปนับตั้งแต่คืนนั้น…