เบลเลอโรฟอน : บินสูงได้ก็ตกลงมาได้เช่นกัน

เบลเลอโรฟอน : บินสูงได้ก็ตกลงมาได้เช่นกัน

โดย : นกอัญชันหางดำ

Loading

กลั่นเกลาเล่าเพลิน โดย นกอัญชันหางดำ คอลัมน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกวรรณกรรมที่มีตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในใจนักอ่าน และมีเรื่องราวให้กล่าวถึงได้เสมอ คอลัมน์นี้จึงขอชวนทุกท่านมาเพลิดเพลินกับการรีวิวตัวละคร ทั้งตัวเอก ตัวร้าย และตัวประกอบ ในมุมมองเชิงเปรียบเทียบกับโลกปัจจุบัน พร้อมสอดแทรกข้อชวนคิดไว้เบาๆ

ตามตำนานกรีกมีคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่อยู่หลายคนจากการที่กล้าเผชิญหน้าและสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดดุร้ายที่มาสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนได้ อย่างเช่นธีซุส ผู้ปราบไมโนทัวร์ ลูกครึ่งคนครึ่งวัวที่ถูกเลี้ยงมาให้ชอบกินเนื้อคน หรือเฮอร์คิวลิส ซึ่งเป็นเพื่อนกับธีซุส และเป็นที่รู้จักกันดีในภาพลักษณ์ของผู้มีพละกำลังมหาศาล แข็งแกร่งจนพิชิตภารกิจสุดหินสิบสองประการที่ยากลำบากได้สำเร็จ โดยในบรรดาภารกิจทั้งหมดก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจับสัตว์ร้ายตามเมืองต่าง ๆ เสียครึ่งหนึ่ง เช่น ม้ากินคน หมูป่า สิงโต และฆ่าไฮดรา อสรพิษหลายหัว เป็นต้น แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่ก็ไม่ได้ปิดฉากอย่างสวยงามได้เสมอไป

เบลเลอโรฟอนเองเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับการเล่าขานถึงวีรกรรมกล้าหาญที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ในตำนานกรีกถึงสองชนิด หนึ่งคือเพกาซัส ม้ามีปีกที่มีรูปร่างสง่างาม และสองคือไคมีรา สัตว์ประหลาดที่มีส่วนหัวเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ และส่วนท้ายเป็นหางมังกรหรืองู บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ที่มีสามหัวในตัวเดียว คือหัวสิงห์ หัวมังกร และหัวแพะ ซึ่งรูปร่างลักษณะอาจบรรยายได้ไม่ตรงกันนัก เพราะคนที่เคยเห็นไคมีราอย่างใกล้ชิดคงไม่มีโอกาสกลับมาบอกเล่ารายละเอียดในภายหลัง แต่ที่บอกไว้ตรงกันแน่ๆ คือ เป็นสัตว์ดุร้ายที่แข็งแรงว่องไว และสามารถพ่นไฟได้

เบลเลอโรฟอนเป็นชายหนุ่มรูปงามและมีความเก่งกล้าสามารถโดดเด่น เดิมทีเขาอยู่ที่เมืองกอรินธ์ เป็นบุตรคนหนึ่งของเจ้าเมือง แต่มีเหตุให้ต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะมีคดีติดตัวเรื่องฆ่าน้องชาย (หนังสือบางเล่มบอกว่าพลั้งมือฆ่าเองจริง แต่บางเล่มก็บอกว่าถูกกล่าวหาใส่ความ) เขาจึงออกเดินทางไกลและได้มาอยู่กับราชาโพรตัสแห่งเมืองอาร์กอส ซึ่งเมตตาเอ็นดูเขาที่มีบุคลิกลักษณะและการพูดจาแบบผู้ที่ได้รับการอบรมมาดี ปัญหาคือเขาไม่ได้เป็นที่ถูกใจของโพรตัสคนเดียว นางอันติยา ชายาของโพรตัสก็เกิดหลงใหลในตัวชายหนุ่มขึ้นมาด้วย แม้ว่าเบลเลอโรฟอนจะปฏิเสธและรักษาระยะห่าง แต่นางอันติยาที่รู้สึกผิดหวังและแค้นใจที่เสียหน้า ได้ไปแต่งเรื่องใส่ร้ายว่าเขาเป็นคนทรยศ แอบคิดทำการร้ายแรง ซึ่งทีแรกโพรตัสไม่ได้เชื่อนาง แต่พอโดนเป่าหูบ่อยเข้าก็คล้อยตามในที่สุด จึงคิดจะกำจัดเบลเลอโรฟอนเสีย

แต่ถ้าต้องเป็นคนลงมือเอง โพรตัสก็เกรงจะเป็นที่ครหาว่าทำผิดธรรมเนียมประเพณีที่จู่ๆ ลุกขึ้นมาฆ่าฟันแขกผู้มาขอพักอาศัย เลยคิดจะยืมมือผู้อื่นแทน จึงจัดแจงไหว้วานให้เบลเลอโรฟอนช่วยถือสารลับไปหาพ่อของนางอันติยา คือไอโอบาเตส เจ้าเมืองลีเซีย ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปคนละแว่นแคว้น เบลเลอโรฟอนสามารถดั้นด้นไปจนถึงเมืองลีเซียได้สำเร็จ โดยที่ไม่รู้เลยว่าข้อความลับในจดหมายคือคำสั่งให้ฆ่าผู้ถือสารนั้นเอง

ถึงแม้ว่าเบลเลอโรฟอนจะไม่ได้เจอพระฤๅษีมาช่วยแปลงสารในระหว่างทางเหมือนตอนที่พระรถไปหานางเมรี แต่ไอโอบาเตสเองกลับไม่เต็มใจที่จะทำตามคำขอของลูกเขย อยู่ดีๆ ส่งคนมาให้ฆ่าทั้งที่ไม่เคยเป็นศัตรูหรือมีเรื่องบาดหมางกัน แถมยังเป็นเรื่องที่ผิดธรรมเนียมประเพณีอีก (งงกับโพรตัสเหมือนกัน ตัวเองไม่กล้าทำเพราะกลัวโดนตำหนิติเตียน แต่กลับส่งเขาไปเป็นแขกเมืองอื่นแล้วแอบบอกให้ช่วยฆ่าหน่อย ไม่คิดว่าพ่อตาจะลำบากใจหรือถูกติฉินนินทาบ้างหรือ… เป็นอุทาหรณ์ให้เห็นเลย ไม่ว่าจะคบหากันนานหรือแม้แต่นับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว คนที่เห็นแก่ตัวชอบเอาเปรียบโดยไม่เกรงใจและไม่นึกถึงความเดือดร้อนของผู้อื่นแบบนี้มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ใครเกี่ยวข้องด้วยก็ต้องหาวิธีรับมือกันไปตามสถานการณ์ มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นคนลำบากแทนเสียเอง)

ไอโอบาเตสหาทางหลีกเลี่ยงโดยขอให้เบลเลอโรฟอนไปทำภารกิจเสี่ยงอันตรายแทนคือ ให้ช่วยไปกำจัดไคมีรา เพราะหากเบลเลอโรฟอนทำได้ ชาวเมืองก็จะปลอดภัย หรือถ้าไม่สำเร็จก็เท่ากับได้ทำตามคำขอของโพรตัสโดยที่ไม่ต้องลงมือเอง ไอโอบาเตสคงคิดแล้วว่าตัวเขาเองได้ประโยชน์ทั้งสองทางจึงเลือกใช้วิธีนี้ และอย่างน้อยถ้าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนมีฝีมือจริงก็ยังมีโอกาสได้ต่อสู้เอาตัวรอดบ้าง

เบลเลอโรฟอนคงไม่ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังแต่ก็ยอมรับปากทำภารกิจเพื่อตอบแทนที่ไอโอบาเตสต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ในการไปสู้กับไคมีรานั้นจำเป็นต้องมีพาหนะที่แข็งแรงและคล่องตัวมากพอที่จะพาหลบหลีกหัวทั้งสามให้ได้ทันท่วงที และต้องหนีให้พ้นเปลวไฟที่พ่นมาด้วย จึงจะมีโอกาสเอาชนะได้ เขาไปปรึกษาหารือวิธีการกับผู้พยากรณ์คนหนึ่งที่ชื่อโพลิไอดัส ซึ่งแนะนำว่าคุณสมบัติแบบนี้ก็ต้องอาศัยเพกาซัสเท่านั้นเลย เป็นม้าให้ขี่ไปบุกโจมตีได้และยังมีปีกพาบินหลบได้อย่างแคล่วคล่องว่องไวด้วย แต่ของดีก็ต้องได้มายากหน่อย จึงให้เขาไปทำการบูชาขอคำชี้แนะถึงวิธีการจับเพกาซัสที่วิหารของเทพีมิเนอร์วา (หรืออะธีนา ตามชื่อกรีก) ซึ่งเขาก็ได้รับบังเหียนทองคำมาเป็นอุปกรณ์ช่วยจับ จึงได้ตัวเพกาซัสมาในที่สุด

เมื่อมีเพกาซัส เบลเลอโรฟอนก็สามารถต่อกรกับหัวทั้งสามของไคมีราได้และทำภารกิจจนลุล่วง ไอโอบาเตสยินดีมากที่แก้ปัญหาเรื่องไคมีราได้เสียที และเห็นว่าเบลเลอโรฟอนมีความสามารถเหนือคนธรรมดา ทั้งปราบสัตว์ร้ายได้ และยังได้ครอบครองสัตว์วิเศษอย่างม้ามีปีก คงมีเทพช่วยเหลือคุ้มครองอยู่ เช่นนี้คงจะไม่ใช่คนร้ายอย่างที่ลูกเขยบอก ดังนั้นเมื่อลองมอบหมายงานอีกสองครั้งให้เบลเลอโรฟอนไปร่วมปราบกลุ่มโจรและพวกคนป่าแล้วเห็นว่าเขาก็ทำสำเร็จทุกครั้ง ไอโอบาเตสจึงยกลูกสาวให้แต่งงานกับเบลเลอโรฟอนเสียเลย

ในเวลาต่อมาเบลเลอโรฟอนจึงได้ครองเมืองต่อจากไอโอบาเตส ชีวิตดูเหมือนจะลงตัวได้ดีมีสุข ไม่ต้องเดินทางย้ายถิ่นไปไหนไกลๆ อีกแล้ว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น อยู่ดีไม่ว่าดี ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขานึกเบื่อความสงบสุขที่มีอยู่ จึงคิดอยากลองไปที่ยอดเขาโอลิมปัสอันเป็นที่สถิตของเหล่าเทพ เขาขึ้นขี่เพกาซัสแล้วมุ่งหน้าไปตามที่ตั้งใจ แต่ทว่าบินไปได้ไม่นานม้าก็สลัดเขาตกลงมาแล้วบินจากไป เบลเลอโรฟอนไม่ตายแต่ก็บาดเจ็บจนพิการ เขาเกิดความละอายใจในเรื่องที่เกิดขึ้นจนไม่ยอมกลับบ้าน ไม่กล้าสู้หน้าใคร ได้แต่ใช้ชีวิตพเนจรไปในป่าตามลำพังจนสิ้นอายุขัย ส่วนเพกาซัสนั้นมหาเทพจูปิเตอร์ (หรือซีอุส ตามชื่อกรีก) ได้รับเลี้ยงเอาไว้ที่วัง

หนังสือบางเล่มบอกว่าพอเพกาซัสทิ้งเบลเลอโรฟอนแล้วก็กลับไปอยู่ในถิ่นเดิมซึ่งจากมานาน การที่สลัดคนหล่นก็เพราะสะดุ้งเจ็บที่มีตัวเหลือบมากัด เนื่องจากมหาเทพต้องการสั่งสอนเบลเลอโรฟอนที่ลืมตัวคิดกำเริบเสิบสาน ทำอะไรเกินตัว ชีวิตของเบลเลอโรฟอนมีความพลิกผันไปมา แต่ถ้าเทียบกับหลายคนแล้วถือว่ายังโชคดีที่ได้รับความเมตตาจากผู้อื่นอยู่บ้าง ตอนที่เขาถูกใส่ร้ายทั้งที่ไม่ได้ทำผิดนั้นน่าเห็นใจ แต่ยังดีที่ไม่ได้ถึงกับอับจนไร้หนทางไปต่อ เขายังสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้โดยได้รับการชี้แนะและช่วยเหลือทั้งจากมนุษย์และเทพ ได้มาอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่คนหูเบาใจแคบหรือทำอะไรตามใจชอบ ไม่ด่วนตัดสิน แต่ให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเอง และเป็นผู้ที่ส่งเสริมจนเขาได้ดีมีชีวิตที่มั่นคงและเป็นสุข น่าเสียดายที่เขาไม่อาจรักษาสิ่งดีๆ เอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง

ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งหรือคนดีเพียงใด หากประมาทลืมตัว ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ก็มีสิทธิ์สูญเสียตัวตนได้ทั้งนั้น เปรียบเหมือนคนที่มีชีวิตสุขสบายดีอยู่แล้ว มีสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวพร้อมหน้า มีชื่อเสียงหรือเงินทองมากมาย แต่ก็ประมาท ยังคงแสวงหาความตื่นเต้นหรือความสุขอย่างอื่นมาใส่ตัวแบบไม่รู้จักพอ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งดีๆ ที่มีอยู่กับตัว สุดท้ายก็ต้องมาเสียใจโหยหาสิ่งที่เคยมีในวันที่ไม่อาจเรียกคืนได้แล้ว

 

อ้างอิงจาก :

  • เทวดาฝรั่ง กรีก-โรมัน โดย อ. สายสุวรรณ
  • เหตุแห่งอีเลียด กับตำนานปรัมปรากรีก โดย นายตำรา ณ เมืองใต้
  • เทพนิยายและตำนานกรีกโบราณ โดย ดารณี เมืองมา

Don`t copy text!