มีแต่เพื่อนแท้เท่านั้นที่อยู่เหนือกาลเวลา
โดย : นกอัญชันหางดำ
กลั่นเกลาเล่าเพลิน โดย นกอัญชันหางดำ คอลัมน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกวรรณกรรมที่มีตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในใจนักอ่าน และมีเรื่องราวให้กล่าวถึงได้
เคยมีคนกล่าวว่า “We don’t lose friends, we just learn who the real ones are.” เมื่อเติบโตขึ้นจึงได้เข้าใจว่าบางครั้งคนเราก็ไม่ได้สูญเสียเพื่อนไปหรอก เราแค่ได้เรียนรู้ว่าคนไหนคือเพื่อนแท้ของเราต่างหาก
ทุกคนมีเพื่อนในแต่ละช่วงวัย หากคนที่โชคดีก็คือคนที่ยังมีเพื่อนคนเดิมอยู่ในทุกช่วงของชีวิต เพื่อนทั่วไปอาจจะได้รับรู้และร่วมแสดงความรู้สึกกับเราในเรื่องราวต่างๆ แต่สำหรับเพื่อนแท้นั้นก็คือคนที่อยู่กับเราในทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ เป็นคนที่พร้อมจะช่วยเหลือกันเสมอ ถึงช่วยทำไม่ได้ก็ยังคอยช่วยปลุกปลอบใจแทน หรือถ้าหาคำพูดไม่ได้ก็จะคอยอยู่เคียงข้างเงียบๆ เพื่อให้เราได้รู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว ในชั่วชีวิตหนึ่งหากได้มีเพื่อนแท้สักคนที่เป็นเหมือน รอน วีสลีย์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หรือเนวิลล์ ลองบัตท่อม แค่คนใดคนหนึ่งก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
แฮร์รี่เริ่มต้นมิตรภาพกับรอนและครอบครัวด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยและเอื้อเฟื้อแบ่งปันกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันอย่างถูกคอ หลังจากนั้นการได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันในเหตุการณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้นตามจำนวนปีที่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วก็ใช่ว่าจะไม่เคยทะเลาะหรือขัดใจกัน เพราะความเป็นเพื่อนไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องกันทุกเรื่อง ขอเพียงเข้าใจและยอมรับกันและกันก็สามารถไปต่อด้วยกันได้ แม้ว่าบางครั้งเรื่องที่ขัดแย้งกันอาจจะดูรุนแรงมาก อย่างเช่นตอนที่รอนคิดเหมือนคนทั้งโรงเรียนว่าแฮร์รี่แอบไปสมัครเข้าประลองเวทไตรภาคีเพราะอยากเด่นดัง แม้แต่เพื่อนที่สนิทที่สุดก็ไม่เชื่อคำพูดของเราในช่วงเวลาย่ำแย่ที่ต้องการให้คนเข้าใจมากที่สุดเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและคาดไม่ถึง แต่คงเป็นเพราะแฮร์รี่ยังรับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากใจในส่วนลึกของรอน อย่างเช่นเมื่อเห็นว่าหายไปจากหอนอนก็ยังนึกห่วงและลุกมาตามหา แฮร์รี่จึงให้อภัยและกลับมาคืนดีกับรอนโดยง่ายหลังจากจบภารกิจฝ่าด่านแม่มังกร โดยที่ไม่รอให้รอนเอ่ยขอโทษจนจบประโยคด้วยซ้ำ
และบางทีอาจเป็นเพราะรอนเป็นเพื่อนคนแรกในชีวิตของแฮร์รี่ก็เป็นได้ เพื่อนที่จริงใจต่อกัน เพื่อนที่เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไปแล้ว (และเป็นครอบครัวที่ปฏิบัติต่อแฮร์รี่ดีกว่าคนในสายเลือดเดียวกันอย่างลุงกับป้าและดัดลีย์เสียอีก) ทำให้แฮร์รี่มีพื้นที่พิเศษสำหรับรอนและกลับมาคืนดีกันได้เสมอ
ในกรณีของเฮอร์ไมโอนี่นั้นอาจจะเริ่มต้นกันได้ไม่ดีนัก แต่การได้เผชิญอุปสรรคด้วยกัน (สู้กับโทรลล์) ได้แสดงน้ำใจต่อกันไม่ทิ้งเพื่อนในยามคับขัน ทำให้สามคนนี้กลายมาเป็นเพื่อนรักกันได้ในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่จัดเป็นเพื่อนระดับหัวกะทิ เก่งทั้งในและนอกห้องเรียน และกล้าที่จะตักเตือนเพื่อนทุกครั้งที่เห็นว่าทำไม่ถูก และเมื่อต้องเกลี้ยกล่อมก็รู้ว่าเพื่อนกำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหนและต้องใช้คำพูดอย่างไรจึงจะฟัง เคยยอมแม้กระทั่งข่มความกลัวแล้วเอ่ยชื่อจอมมารออกจากปากตัวเองเป็นครั้งแรกเพื่อช่วยแฮร์รี่ให้สงบสติอารมณ์ก็ทำมาแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีไหวพริบช่วยเพื่อนให้รอดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตได้หลายครั้งหลายหน ตั้งแต่เรื่องปกติอย่างช่วยติวสอบและสอนการบ้านเพื่อให้ส่งงานได้ทันกำหนด ไปจนถึงเรื่องร้ายแรงอย่างตอนที่โดนอัมบริดจ์จับตัวได้เมื่อแอบมาใช้เตาผิงเพื่อลอบติดต่อกับซีเรียส หรือตอนที่หนีผู้เสพความตายออกมาจากงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ หรือตอนที่หนีออกมาจากบ้านพ่อของลูน่า เลิฟกู๊ด และเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย ถ้าจะพูดว่าหากไม่ใช่เพราะมีเฮอร์ไมโอนี่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือและเตือนสติแล้วแฮร์รี่คงทำภารกิจตามคำสั่งดัมเบิลดอร์ไม่สำเร็จ ก็คงไม่เกินจริง
ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ น้อยครั้งที่คนเจ้าหลักการอย่างเฮอร์ไมโอนี่ยอมละเมิดกฎระเบียบของโรงเรียน แสดงให้ว่าเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับความเป็นความตายของผู้คนก็ยังรู้จักลำดับความสำคัญและยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ตรงหน้าได้
เห็นมีอยู่ครั้งเดียวที่เฮอร์ไมโอนี่ยอมใช้เล่ห์เหลี่ยมตุกติกในเรื่องส่วนตัวคือตอนที่ใช้คาถางงงันกับคนอื่นเพื่อช่วยให้รอนมีโอกาสแสดงความสามารถได้เต็มที่ในการคัดตัวเข้าทีมควิดดิชบ้านกริฟฟินดอร์ แต่ก็นั่นแหละส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเฮอร์ไมโอนี่มองออกว่าคนๆ นั้นนิสัยแย่อย่างไร ถ้าเข้ามาทีมคงปั่นป่วนแน่ ตอนที่รอนบาดเจ็บจนลงแข่งไม่ได้แล้วคนๆ นั้นได้มาเป็นตัวสำรองทำหน้าที่แทนก็ได้เห็นกันแล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่คิดถูก คนที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองมัวแต่ไปยุ่งวุ่นวายวิจารณ์เรื่องงานคนอื่น และทำให้ทีมแพ้ในนัดนั้น ดังนั้นการไม่ให้ตัวป่วนแบบนี้เข้ามาเป็นตัวจริงตั้งแต่ต้นถือเป็นการช่วยแฮร์รี่และสมาชิกคนอื่นของทีมด้วยเหมือนกัน ถ้าได้มาอยู่จริงกริฟฟินดอร์คงเสียแชมป์ในปีนั้นอย่างแน่นอน
สำหรับเนวิลล์ จะเรียกว่าเป็นเพื่อนที่มักจะถูกลืมก็ได้ ปีแรกๆ เนวิลล์ไม่เก่งอะไรสักอย่าง เผลอทำผิดพลาดบ่อยๆ และถูกมัลฟอยกับพวกกลั่นแกล้งเป็นประจำจนแฮร์รี่และเพื่อนๆ ต้องคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีความสลักสำคัญ จะมีหรือไม่มีอยู่ในทีมก็ได้ อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่สำคัญของเนวิลล์อาจจะเริ่มจากตอนปีสี่ที่เขาได้เห็นกับตาว่าคำสาปร้ายแรงที่พ่อแม่เขาต้องเผชิญนั้นเป็นอย่างไร และเป็นปีที่พรสวรรค์ด้านสมุนไพรศาสตร์ของเขาเริ่มเป็นที่ประจักษ์มากขึ้นด้วย
ต่อมาในช่วงปีห้าเนวิลล์ที่ได้มาอยู่ในกองทัพดัมเบิลดอร์จึงได้เริ่มฝึกฝนคาถาและการต่อสู้อย่างหนัก ความสามารถก้าวกระโดดจนนับเป็นพรแสวงได้เลย และเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ไปต่อสู้ร่วมเป็นร่วมตายเคียงบ่าเคียงไหล่กับแฮร์รี่ตอนเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้เสพความตายที่กระทรวงเวทมนตร์ รวมทั้งตอนปีหกที่กลุ่มผู้เสพความตายลอบบุกเข้ามาในโรงเรียนได้ เนวิลล์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมต่อสู้ไปพร้อมกับกองกำลังป้องกันโรงเรียนด้วย
ตอนปีเจ็ดในช่วงที่มืดมนที่สุดเมื่อฮอกวอตส์ไม่มีทั้งดัมเบิลดอร์และแฮร์รี่ เนวิลล์กลายมาเป็นผู้นำกองทัพดัมเบิลดอร์ที่ยังเหลืออยู่ในโรงเรียน คอยปลุกขวัญกำลังใจและให้ความหวังกับเพื่อนๆ และพยายามต่อต้านอำนาจมืดจากผู้เสพความตายที่เข้ามาอยู่ในฐานะอาจารย์ทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งเนวิลล์ให้เครดิตว่าเห็นตัวอย่างจากที่แฮร์รี่เคยทำสมัยที่อัมบริดจ์อยู่ การลุกขึ้นมาเป็นผู้นำปลุกใจได้แบบนี้แต่เนวิลล์กลับถ่อมตัวไม่ได้คิดอยากจะมาแทนที่แฮร์รี่ แค่เพียงหวังจะรักษาการรอเวลาแฮร์รี่กลับมาเท่านั้น
จุดที่พีคที่สุดก็คือ เนวิลล์คนที่เคยถูกมองข้ามคนนี้ล่ะที่เป็นคนช่วยแฮร์รี่ทำลายฮอร์ครักซ์อันสุดท้ายได้สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มาจากดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่คิดถูกที่รู้จักให้เพื่อนช่วยแบ่งเบาภาระไปบ้าง ไม่เก็บงำไว้คนเดียวหรือจำกัดแค่ให้เพื่อนรักอย่างรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปทำ ในชั่วขณะที่ทุกคนกำลังตกใจเสียขวัญร้องไห้กันระงมเพราะคิดว่าแฮร์รี่ไม่รอดแล้ว แต่เนวิลล์ก็ไม่ลืมที่แฮร์รี่ฝากฝังไว้แล้วจึงตั้งสติได้รวดเร็ว หักห้ามความรู้สึกทั้งมวลและหาโอกาสทำตามคำสั่งจนสำเร็จ เหมือนในนิทานที่หนูก็สามารถช่วยราชสีห์เป็นการตอบแทนได้ ถ้าเราเคยช่วยใครไว้ วันหนึ่งความช่วยเหลือนั้นก็จะกลับมาที่เราในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเสมอ
สรุปได้ว่านอกจากเนวิลล์จะเป็นตัวอย่างที่ดีของการหมั่นเพียรฝึกฝนตัวเองเพื่อก้าวขึ้นไปให้ทัดเทียมผู้อื่นได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีตัดกำลังคู่แข่งอย่างที่พวกสลิธีรินชอบทำ เนวิลล์ยังแสดงให้เห็นถึงการเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และภักดี เป็นเพื่อนตายที่ไม่เคยทิ้งทอดทิ้งใครในยามลำบาก อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างของการรู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดีซึ่งไม่ชักนำไปในทางที่ผิด จึงมีโอกาสซึมซับส่วนที่ดีของเพื่อนมาปรับใช้กับตัวเองได้ ทั้งนี้จะไปได้ไกลเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความพากเพียรพยายามของเจ้าตัวด้วยเช่นกัน
ในชีวิตของแต่ละคนไม่อาจทำอะไรสำเร็จได้โดยลำพัง ต่อให้เป็นอัจฉริยะเก่งกาจเชี่ยวชาญมีความสามารถพิเศษต่างๆ แม้แต่คนที่รับบทเป็นเสาหลักของทีมก็ยังต้องมีคนอีกกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่ในอีกด้านเพื่อให้เสาหลักสามารถไปทำภารกิจสำคัญได้ ในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้มีรายละเอียดมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการบ่มเพาะและเติบโตของมิตรภาพระหว่างพวกเขาทั้งสี่คน หลายเหตุการณ์เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูไม่สำคัญ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะมิตรภาพจะเกิดขึ้นและคงอยู่ได้ไม่ใช่แค่เพราะทำสิ่งยิ่งใหญ่ร่วมกันเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยด้วย
การจะคบกันได้ยาวนานจำเป็นต้องไม่หลงลืมหรือละเลยการดูแลความรู้สึกซึ่งกันและกัน หากในชีวิตจริงใครมีเพื่อนดี ๆ อย่างรอน เฮอร์ไมโอนี่ หรือเนวิลล์ คนที่อยู่ด้วยกันในทุกช่วงสำคัญของชีวิต ขอให้รักษามิตรภาพกันไว้ให้ดีเพราะคนที่เป็นเพื่อนแท้นั้นมีค่าดุจเป็นอัญมณีแห่งชีวิต
- READ ไซคี : ชีวิตคู่ไม่ได้มีกันแค่สองคน
- READ เอนิส : ชีวิตที่ไม่หมดหวังและยังก้าวต่อไป
- READ ยูลิสซิส : เมื่อมีความตั้งใจก็ย่อมหาหนทางไปได้เสมอ
- READ อะกาเมมนอน : ผู้ชนะศึกนอกแต่พ่ายศึกใน
- READ ปารีส : เพราะชะตากรรมหรือทำตัวเอง
- READ หนึ่งมิจ (ฉาชีพ) ชิดใกล้ : เคร้าช์ จูเนียร์
- READ คนที่คุณเองก็จะนึกถึงตลอดไป : ดัมเบิลดอร์กับสเนป
- READ อยู่และเรียนรู้
- READ รวมมิตรที่คิดไม่ถึง : ด๊อบบี้ กับ ครีเชอร์
- READ ทางที่เลือก : แฮร์รี่ vs โวลเดอมอร์
- READ มีแต่เพื่อนแท้เท่านั้นที่อยู่เหนือกาลเวลา
- READ ขมิ้นกับปูน : มัลฟอย
- READ เสาหลักที่แข็งแกร่งมั่นคงและตรงแบบแผน : มักกอนนากัล
- READ มีใครร้ายกาจกว่านี้อีกไหม : อัมบริดจ์
- READ อย่าตัดสินเนื้อหาจากปกหนังสือ : แฮกริด