
Our Times ฝันเหนือกาลเวลา
โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
นั่งหน้าจอ คอลัมน์ที่ ปิยะพร ศักดิ์เกษม เล่าถึงเรื่องราวที่ตรึงให้นั่งติดอยู่หน้าจอ ทั้งภาพยนตร์และภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ เล่าแบบไม่มียั้ง!! เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่กลัวการรู้เนื้อเรื่องล่วงหน้า นอกจากจะเขียนเล่าเรื่องแล้ว ยังเขียนเล่าความคิดความเห็นและความรู้สึกเมื่อได้ดู ดังนั้นผู้เขียนจะพาออกทะเลไปบ้างอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ ปี 2021 (36 ตอนจบ)
ผู้กำกับ Liu Chang
ผู้แสดงนำ Leo Wu, Hou Ming Hao, Mao Xiao Hui, Xiang Han Zhi, Wang Xin Jun
ถ้าหากจะค้นหาเรื่องนี้ด้วยชื่อเรื่องภาษาอังกฤษพวกเราต้องระวังนิดนึงนะคะ ต้องดูว่าเป็นเรื่องที่มีวงเล็บ 2021 ต่อท้าย เพราะในจีน มีหนังเรื่อง Our Times ชื่อเดียวกับภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ด้วยค่ะ ดังนั้นเครื่องมือค้นหาจึงอาจพาเราไปผิดเรื่องได้
Our Times ฝันเหนือกาลเวลา สนุก เข้มข้น เป็นบันทึกพัฒนาการทางสังคม วิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจของจีน เรื่องเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1991 เป็นยุคที่จีนยังยากจน คนในยุคปัจจุบันเห็นความเจริญก้าวหน้า ความเข้มแข็ง และประชากรที่มีชนชั้นกลางเปอร์เซ็นต์สูงระดับ ‘ป่องกลาง’ ของจีนวันนี้แล้ว อาจนึกภาพไม่ออกว่าในช่วงสามสิบสี่สิบปีที่แล้ว เขายากจนถึงขั้นต้องปันส่วนอาหาร และพวกพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองไทยนี่แหละที่คอยส่งทั้งเสื้อผ้า อาหาร เงิน รถจักรยาน ทีวี วิทยุไปให้ญาติๆ ชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่

หนังเล่าเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ของจีนผ่านหนุ่มน้อยในสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยในปักกิ่งสองคน ‘เซียวฉ่วง’ กับ ‘เผยซิ่งหัว’
เซียวฉ่วงเป็นเด็กหนุ่มที่กล้าหาญ พลิกแพลง ใจกว้าง เขาเอาผลงานการคิดค้นพัฒนาการ์ดอักขระภาษาจีนเพื่อใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เผยซิ่งหัวทำวิจัยไว้ในสถาบันฯ มาผลิตขาย มันขายดิบขายดีและทำเงินให้เซียวฉ่วงกับพรรคพวกมากมาย เมื่อได้เงินมา ทั้งหมดก็หารแบ่งกันตามจำนวนคน ตอนนั้นเองที่มีหนึ่งในสมาชิกถามว่า ต้องแบ่งให้ ‘เขา’ ด้วยไหม เซียวฉ่วงตอบอย่างเด็ดขาดว่า “ต้องแบ่งให้ด้วย เพราะเผยซิ่งหัวเป็นคนคิดงานวิจัย จัดเงินใส่ซองแล้วเอาไปใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานให้เขา”… เขาคิดว่านี่คือคุณธรรมน้ำมิตรที่ลูกผู้ชายควรมี

การลักลอบเอางานวิจัยของสถาบันออกมาผลิตขาย ถูกร้องเรียน เซียวฉ่วงออกหน้ารับโทษคนเดียว แต่ไม่คาดคิดว่าซองเงินที่เอาไปใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเผยซิ่งหัวจะกลายเป็นหลักฐานทำให้ฝ่ายนั้นพลอยถูกกล่าวโทษไปด้วย ทั้งคู่ถูกไล่ออกจากสถาบันฯ แม้ว่าเซียวฉ่วงจะยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้เป็นเขาทำคนเดียวก็ไม่มีใครยอมเชื่อ
โชคดีที่หัวหน้าของพวกเขาได้โอกาสในการแยกตัวจากมหาวิทยาลัยมาตั้งบริษัทเพื่อทำการค้าและศึกษาเรื่องคอมพิวเตอร์อย่างอิสระเป็นเอกเทศไม่ต้องอิงกับสถาบันฯ และสถานศึกษาอีกต่อไป ท่านหัวหน้าผู้รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพชรเม็ดงามจึงดึงตัวทั้งเซียวฉ่วงและเผยซิ่งหัวมาร่วมงานด้วย
ในยุคนั้นจีนมีแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น บริษัทที่ท่านหัวหน้าก่อตั้งโดยมีสองหนุ่มเป็นแกนหลัก ทำหน้าที่ขาย ศึกษา วางระบบ พัฒนา เพื่อก้าวไปสู่การคิดค้นและผลิตให้ได้เอง…นอกจากนั่งหน้าจอดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ยังได้อ่านพบว่าเรื่องของเซียวฉ่วงกับเผยซิ่งหัว อันที่จริงได้รับแรงบันดาลใจมาจากสองผู้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ Lenovo ของจีนค่ะ

เซียวฉ่วงกับเผยซิ่งหัว คือคนหนุ่มที่มีภูมิหลังและนิสัยใจคอแตกต่างกันสุดขั้วแต่กลับสอดประสานกันเต็มขั้น คนหนึ่งพลิกแพลง กล้าได้กล้าเสีย ทะเยอทะยาน มุ่งมั่นจะเป็นเรือที่ลอยอยู่บนยอดคลื่น อีกคนซื่อตรง สุขุม ช่างคิด เขาไม่อยากเป็นเรือ แต่ปรารถนาจะเป็นโขดหินที่ไม่ว่าจะมีพายุหรือไม่ก็จะตั้งอยู่ตรงนั้น…ชอบบทสนทนาของสองหนุ่มตรงนี้ที่สุดค่ะ บอกถึงความแตกต่างที่ลงตัว
เส้นทางของสองหนุ่มตลอดสามสิบหกตอนมีแต่ความยากลำบากและอันตรายรอบด้าน สถานการณ์พลิกผันตลอดเวลา แต่ทุกวินาทีก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและซาบซึ้ง มีความรัก มีมิตรภาพระหว่างเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้อง มีการทำงานสร้างตัว ฉายภาพให้เห็นความสำเร็จความผิดพลาด การล้มแล้วลุกขึ้นใหม่อย่างทรหดอดทน สอดแทรกด้วยการทำงานสร้างชาติ (จีน) ของเขา ต้องชมเชยบทและเนื้อเรื่องที่สร้างตัวละครออกมาได้เข้มข้น ทุกตัวส่งเสริมซึ่งกันและกัน

ภาพในเรื่องสวยแบบย้อนยุคทุกฉาก การเดินเรื่องสนุก ใครที่เกิดทันหรือสนใจยุค 1990 น่าจะชอบนะคะ…ดูแล้วนึกย้อนถึงสมัยนั้นค่ะ มาเต็มทุกอย่าง เช่น ลีลาของเพลงประกอบเรื่อง เสื้อผ้า หน้าผม อิทธิพลของหนังฮ่องกงซึ่งก็คือดาราดังอย่างโจวเหวินฟะ เครื่องเล่นวิดีโอ วีซีดี เลเซอร์ดิสก์ เพจเจอร์ โทรศัพท์มือถือ เตารีด ฯลฯ มีมาให้ดูให้ฟังครบ

ผู้รับบทเป็นเผยซิ่งหัวคือโหวหมิงฮ่าว (Hou Ming Hao) หรือ Neo Hou ค่ะ เขาเหมาะกับบทมากๆ และแสดงได้ดีจนต้องไปหาเรื่องอื่นๆ ที่เขานำแสดงมาดู ส่วนผู้ที่รับบทเซียวฉ่วง คืออู๋เหล่ย (Wu Lei) หรือ Leo Wu ผู้แทบไม่ต้องพูดถึงความสามารถทางการแสดงที่หลายๆ ฉากของเซียวฉ่วงทำให้คนนั่งหน้าจอต้องน้ำตาตกและเอาใจช่วยแบบใจหายใจคว่ำ… อู๋เหล่ยคร่ำหวอดอยู่ในวงการมาตั้งแต่อายุสามขวบ จึงเป็นเรื่องที่ทั้งน่าทึ่งและน่านับถือ โดยทั่วไปเราจะไม่ค่อยได้เห็นดาราเด็กเติบโตยืนหยัดอยู่ได้นานนักไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือฮอลลีวูด ดาราเด็กส่วนมากจะเดินผิดทางเพราะชื่อเสียงและเงินทองที่หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไม่ใช่อู๋เหล่ยที่ยืนหยัดยาวนานและเป็นที่รักมากว่ายี่สิบปีด้วยความมุ่งมั่นและวินัยสูงอย่างน่าทึ่งของเขา
นั่งหน้าจอดูหนังดูละครแล้วย้อนดู (ชาติ) ตัวเองค่ะ จากความลำบากยากจนในวันนั้น จีนใช้เวลาแค่สามสิบสี่สิบปีสร้างชาติขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทุกด้าน… ถึงวันนี้เขาอยู่แถวหน้า แม้กระทั่งหนังกับละครทีวีที่เมื่อสามสิบปีก่อนต้องพึ่งพาฮ่องกง… เขาทำได้เพราะวิสัยทัศน์และความเที่ยงตรงของผู้นำของเขา รวมเข้ากับทัศนคติและความขยันหมั่นเพียรสู้งานหนักของเยาวชนของเขา
แล้วเราล่ะ? ประเทศชาติของเรากำลังเดินมุ่งหน้าไปทิศทางใดบนโลกใบนี้…
- READ Our Times ฝันเหนือกาลเวลา
- READ The Wild Robot หุ่นยนต์ผจญภัยในป่ากว้าง
- READ Yesterday
- READ My Journey to you เหนือเมฆาชะตาลิขิต
- READ Creation of the Gods I : Kingdom of Storms
- READ Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์
- READ Coda หัวใจไม่ไร้เสียง
- READ Up Coming Summer ร้อนหน้า…ไว้มารักกัน
- READ Meet Yourself ณที่สายลมรักพัดผ่าน
- READ The Crown
- READ Grey’s Anatomy
- READ Authur The King
- READ The Knockout
- READ Reset ลูปย้อนชะตา
- READ Love Like The Galaxy ดาราจักรรักลำนำใจ
- READ Once Upon A Time in Hollywood