ล้านนากับประเพณีสิบสองเดือนตามความเชื่อ

ล้านนากับประเพณีสิบสองเดือนตามความเชื่อ

โดย : ต้องแต้ม

Loading

ซะป๊ะเรื่องเล่าหมู่เฮาคนเมือง คอลัมน์โดย ต้องแต้ม ชาวเชียงใหม่ ผู้หลงใหลในเรื่องราวของล้านนา เกิดในครอบครัวที่สืบสานงานวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีมาแต่โบราณ แต่ไปเติบโตในเมืองกรุง พอกลับมาอยู่บ้านถึงได้รู้ว่า “มีเรื่องเล่าดีๆ ของบ้านเราที่อยากเล่าให้ฟัง”

ด้วยเอกลักษณ์และความต่างทางความเชื่อ ทางวัฒนธรรมประเพณี ประเพณีสิบสองเดือนของแต่ละภูมิภาคจึงมีความแตกต่างกัน บ้างก็คล้ายๆ กัน บ้างก็แปลกใหม่ตามความเชื่อของท้องถิ่นนั้นๆ

ในวัยเด็กฉันมักจะคุ้นชินกับประเพณีความเชื่อต่างๆ ที่มีมาแต่โบราณ ทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกอะไร จนไปอยู่กรุงเทพฯ อ้าว… ไม่เหมือนกันหรอกรึ หลายประเพณีก็จะมีความห่างหาย เลือนหายไปบ้างตามกาลเวลา ตามการพัฒนาปรับเปลี่ยนสังคม แต่… ก็ยังมีอีกหลายประเพณีความเชื่อที่ยังคงอยู่

ประเพณีสิบสองเดือนในรูปแบบโบราณแต่เก่าก่อน จะเริ่มจากเดือนเกี๋ยงเหนือ ที่ทางล้านนาจะเริ่มนับเดือนแตกต่างจากทางสยาม คือทางล้านนาจะเริ่มนับหนึ่ง หรือเดือนเกี๋ยงเหนือ ในเดือนตุลาคม เพราะในสมัยโบราณจะยึดเรื่องฝนฟ้าที่ตกลงมา เดือนขึ้นเดือนลง หรือเดือนข้างขึ้นข้างแรมตามแบบใหม่ การนับระบบวันตามระบบปักขทืนที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร การปลูกพืชผัก การปลูกข้าว ประเพณีสิบสองเดือนของทางล้านนาจึงเริ่มขึ้นเร็วกว่าทางสยาม เพราะฝนฟ้าจะตกให้ความสมบูรณ์ทางการเกษตรทางเหนือเร็วกว่าทางภาคกลางประมาณสองเดือน

แม้ว่าปัจจุบันอะไรหลายอย่างจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ทางล้านนาก็ยังคงรักษาประเพณีเก่าแก่สืบต่อมาหลายอย่าง ที่ฉันได้เห็นหรือทราบข่าวมา อย่างเช่น

ในเดือนยี่ หรือเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีประเพณี ‘ยี่เป็ง’ หรือวันเพ็ญในเดือนสองเหนือ หรือขึ้นสิบห้าค่ำในเดือนพฤศจิกายนนั้น จะมีการลอยโขมด หรือลอยกระทง เพื่อเป็นการลอยเคราะห์ให้ออกไป เพื่อสักการะบูชาแก่พระแม่คงคา เดิมทีทางล้านนาเรียกว่าการลอยโขมด เพราะคำว่าโขมด เป็นชื่อผีป่า ผีโขมดที่ชอบออกหากินในเวลากลางคืน หากยืนดูไกลๆ กระทงที่จุดเทียนปล่อยลงในน้ำไกลๆ คล้ายแสงพะเนียงไฟผีโขมด ทางล้านนาโบราณจึงเรียกลอยกระทงว่า ‘ลอยโขมด’ และเอกลักษณ์ที่เด่นที่ฉันเห็นคือ ในวันยี่เป็งทางล้านนาจะมีการจุดผางประทีป ประดับประดาตามบ้านเรือนเพื่อบูชาตามความเชื่อโบราณ แต่ยุคปัจจุบันมักเป็นการประดับประดาเพื่อความสวยงาม แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอย่างไรก็ตาม มันทำให้ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีในวันยี่เป็ง

ยิ่งไปกว่านั้นประเพณีที่ยังคงสืบทอดกันมายังยุคปัจจุบันคือการตั้งธรรมหลวง หรือการฟังเทศน์กัณฑ์มหาชาติ ที่ยังคงจัดเตรียมงานมีให้เห็นเป็นประจำทุกปี ธรรมหลวงที่นิยมมากคือ มหาเวสสันดรชาดก

เดือน 3 เหนือ หรือเดือนธันวาคม โบราณนานมาจะมีประเพณีเกี่ยวข้าว สู่ขวัญข้าว เมื่อก่อนไม่ว่าจะชาวล้านนา หรือชาวสยาม ล้วนแต่เป็นเมืองเกษตรกรรม จะบูชาพระแม่โพสพเพื่อให้ได้ผลิตผลที่ดี เป็นประเพณีที่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว

เดือน 4 เหนือ หรือเดือนมกราคม เดือน 4 เพ็ง หรือเดือนสี่เพ็ญ เพ็งปุด หรือเดือนเพ็ญในฤกษ์ปุษยะ แต่ครั้งก่อนนั้นมีประเพณีทานข้าวใหม่-ทานหลัวหิงไฟพระเจ้า หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะมีการนำข้าวใหม่มาใส่ยังบาตรพระที่ตั้งไว้บนเสื่อ ชาวบ้านต่างเอาข้าวเปลือกข้าวสารมาเทจนล้นบาตร บ้างก็เรียก ‘ข้าวล้นบาตร’ หรือดอยข้าวบ้าง เสร็จแล้วจะนิมนต์พระสงฆ์มารับการถวายข้าว อีกทั้งสมัยก่อนอากาศหนาวเย็นกว่าปัจจุบันมาก การทำทานถวายฟืนเพื่อเอาไว้จุดยามหนาวแก่พระสงฆ์ หลัวหมายถึงฟืน หิงหมายถึงพิง ภาษาเหนือหิงไฟ คือการผิงไฟ เป็นเพราะสมัยก่อนอากาศหนาวเย็นมากกว่าปัจจุบันมาก ประเพณีนี้ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน

เดือน 5 เหนือ (เดือนกุมภาพันธ์) มีวันพระใหญ่คือวันมาฆบูชา ทางล้านนาจะมีประเพณีวันขึ้นพระธาตุในสำคัญทางศาสนา เช่นวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา (เดือน 8 เหนือ) ประชาชนจะไปนมัสการบูชาพระธาตุสำคัญๆ เช่นชาวเชียงใหม่นิยมไปกราบไหว้พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุจอมทอง ชาวลำพูนก็จะไปกราบไหว้พระธาตุหริภุญไชย แต่จะมีเยอะสุดในวันวิสาขบูชาในเดือน 8 เหนือ

เดือน 6 เหนือ (เดือนมีนาคม) มีประเพณีปอยน้อย หรือบวชเณร จะบวชเมื่ออายุประมาณ 7 ขวบขึ้นไป ปอยน้อยจะจัดเป็นงานเล็กๆ ปอยน้อยจะมีในเดือน 6-เดือน 8 เหนือ ทางไทใหญ่หรือทางภาคเหนือตอนบน เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีประเพณีที่เรียกว่า ‘ปอยส่างลอง’ ที่เชียงใหม่ฉันเคยไปร่วมงานปอยน้อย ที่ อ.เวียงแหง บรรยากาศสนุกสนานรื่นเริงมาก

เดือน 7 เหนือ (เดือนเมษายน) มีประเพณีที่สำคัญมากประเพณีหนึ่ง นั่นก็คือประเพณีสงกรานต์ หรือปีใหม่ในสมัยก่อน ทุกท่านอาจจะประหลาดใจว่า ในเมื่อเดือนนี้เป็นเดือนที่ถือว่าเป็นปีใหม่ของทางล้านนา หรือแม้แต่ทางสยาม ทำไมไม่นับเดือนนี้เป็นเดือนที่หนึ่ง แม้แต่ทางสยามยังนับเดือนธันวาคมที่ปัจจุบันยึดถือตามปฏิทินสากล เป็นเดือนที่สิบสอง ทางสยามยังนับเดือนธันวาคมเป็นเดือนอ้าย ฉันได้สอบถามผู้รู้ ท่านตอบมาว่าคนล้านนาสมัยก่อนนั้นจะดูดวงดาว ดูเดือน ข้างขึ้นข้างแรม เรื่องฝนฟ้าในการเกษตรกรรมเป็นหลัก ยึดทางจันทรคติเป็นหลักจึงนับเดือน 7 เหนือ หรือเดือนตุลาคมเป็นเดือนแรก

เรื่องราวที่น่าสนใจในเดือน 7 เหนือ และเดือนอื่นๆ มีมากมาย จึงจะขอยกยอดการเล่าไปในตอนหน้านะคะ ขอส่งท้ายตอนนี้ด้วยสรุปสั้นๆ สิบสองเดือนของประเพณีล้านนาค่ะ

เดือนที่ 1 เดือนเกี๋ยง (ตุลาคม) มีประเพณีออกพรรษา สลากภัต (ตานก๋วยสลาก)

เดือนที่ 2 เดือนยี่ (พฤศจิกายน) มีประเพณีลอยกระทง (ยี่เป็ง) ทอดผ้าป่า ตั้งธรรมหลวงหรือเทศน์มหาชาติ

เดือนที่ 3 เดือนอ้าย (ธันวาคม) มีประเพณีเทศน์มหาชาติ แต่งงาน ฮ้องขวัญข้าว

เดือนที่ 4 เดือนสี่ (มกราคม) มีประเพณีทานข้าวใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ทานหลัวพระเจ้า

เดือนที่ 5 เดือนห้า (กุมภาพันธ์) มีประเพณีปอยหลวง ตั้งชานหลวง

เดือนที่ 6 เดือนหก (มีนาคม) มีประเพณีทำบุญปอยน้อย บวชเณร ขึ้นพระธาตุ สมโภชน์พระพุทธรูป

เดือนที่ 7 เดือนเจ็ด (เมษายน) มีประเพณีปี๋ใหม่เมืองหรือสงกรานต์ ประเพณีดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ บวชลูกแก้ว เลี้ยงผีปู่ย่า พิธีสู่ขวัญ สืบชะตาบ้านเมือง

เดือนที่ 8 เดือนแปด (พฤษภาคม) มีประเพณีบวชเณร วิสาขบูชา ไหว้พระธาตุ เข้าอินทขิล

เดือนที่ 9 เดือนเก้า (มิถุนายน) มีประเพณีไหว้พระธาตุ

เดือนที่ 10 เดือนสิบ (กรกฏาคม) มีประเพณีเข้าพรรษา

เดือนที่ 11 เดือนสิบเอ็ด (สิงหาคม) มีประเพณีตานข้าวคนเฒ่าจำศีล

เดือนที่ 12 เดือนสิบสอง (กันยายน) มีประเพณีตานสลากภัตจาคะข้าว (อุทิศถึงผู้ตาย)

Don`t copy text!