ชีวิตที่ไม่ยังไม่ถึงตอนจบ #1
โดย : เด็กหญิงเจ้าสำราญ
When We Met โดย เด็กหญิงเจ้าสำราญ คอลัมน์ที่บอกเล่าเรื่องราวหลากรส ของผู้คนอันหลากหลาย ที่เราได้มีโอกาสพบปะเจอะเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นความเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ หรืออาจขมบ้างเป็นบางเวลา ที่พร้อมแบ่งปันให้ผู้อ่านได้จดจำนึกถึงและสุขสำราญไปด้วยกัน
ในช่วงเวลาที่ชีวิตต้องเจอกับความทุกข์ ความเศร้าหรืออุปสรรคยากๆ ที่ต่างก็พร้อมใจกดบัตรคิวเรียงรายกันมาเป็นด่านเคราะห์ให้ผ่าน คุณเคยคิดกันเล่นๆ ไหมว่า บางครั้งชีวิตมันก็น้ำเน่ายิ่งกว่าละคร หรือซีรีส์เรื่องไหนๆ แบบที่เขาเรียกกันว่าสู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับนั้นมันมีอยู่จริง
ถ้าถามว่าตลอดชีวิตของ ‘น้ำมนต์’ ช่วงไหนเป็นช่วงที่เธอมีความสุขที่สุด คำตอบก็คือ ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับแม่ ขณะเดียวกันถ้าถามว่าช่วงไหนที่เป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ที่สุด ก็คงเป็นช่วงที่ได้อยู่กับแม่ด้วยเช่นเดียวกัน บรรดาลุงป้าที่เป็นพี่น้องของแม่ มักเล่าให้เธอฟังเสมอๆ ว่า ในวันที่เธอเกิด แม่มีความสุขมากกับการมีลูกสาว แม่ชอบอุ้มกอดพาเธอไปเดินเล่นไปมาในซอยบ้าน โดยแทบไม่ยอมให้ใครอุ้ม เพราะแม่เป็นพวกขี้หวง และไม่ไว้ใจใคร กลัวมือไม้คนอื่นจะทำให้เธอเจ็บ
เวลาเธอร้อง หรือเจ็บป่วยแม่ก็จะเดินไปร้านขายยาแถวบ้านแล้วถามอาม่าที่ช่วยลูกชายขายยาในร้านว่าต้องทำยังไง ต้องให้กินอะไร ประหนึ่งอาม่าเป็นหมอเด็กประจำตัว เธอไม่รู้หรอกว่าแม่มีความสุข หรือรักเธอแค่ไหน เพราะเธอยังไม่ได้โตพอที่จะรับรู้ความรู้สึกนั้นของแม่ แต่พอโตพอที่จะรู้สึกอ้อมกอดและความรักของแม่ก็ไม่ได้เป็นของเธอคนเดียวอีกต่อไป
ตอนน้ำมนต์ 7 ขวบ พ่อก็จากไปด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เธอคิดว่านั่นน่าจุดเริ่มต้นของละครชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมของเธอ จากคนที่เคยอยู่บ้านดูแลเธอ แม่ต้องออกไปรับจ้างทำงานเพื่อให้มีรายได้ ทั้งรับจ้างซักรีดเสื้อผ้า ทำความสะอาดบ้าน แล้วเอาเธอไปทิ้งไว้ให้ย่าเลี้ยง นานๆ ครั้งถึงจะแวะมาหา ซื้อขนมซื้อของเล่นมาให้สักที ทั้งๆ ที่บ้านแม่กับบ้านย่าอยู่ห่างกันแค่คนละซอย แต่เธอกลับได้เจอแม่แบบนับนิ้วได้ อยู่กับย่าไปได้ปีกว่าเธอก็ได้ยินย่าพูดว่าแม่เขามีแฟนใหม่แล้ว
ช่วงประถม 4 แม่มาขอเธอคืนจากย่า บอกให้เก็บของกลับไปอยู่บ้านด้วยกัน เธอจำได้ว่าแม่กับย่าทะเลาะและขึ้นเสียงใส่กันอยู่นาน สุดท้ายแม่ก็ชนะ เธอยังจำความรู้สึกดีใจของตัวเอง ในวันที่แม่จูงมือเธอเดินออกมาจากซอยบ้านย่า เพื่อกลับบ้านตัวเองในวันนั้นได้จนถึงทุกวันนี้ มันเป็นความลิงโลดดีใจที่แลกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังเสียใจ เพราะที่แม่พาเธอออกมาจากบ้านย่า ก็เพื่อให้เธอออกจากโรงเรียน มาช่วยเลี้ยงน้องชายต่างพ่อที่กำลังจะเกิดเพราะไม่ไว้ใจให้คนอื่นเลี้ยง
ตอนนั้นเธอร้องไห้ขอแม่กลับไปเรียน แต่แม่ก็ไม่เคยสนใจ บอกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนอะไรให้เยอะแยะ แม่เลี้ยงเธอได้ แค่ออกมาเลี้ยงน้องมันจะอะไรหนักหนา เธอเคยหนีกลับไปบ้านย่า แม่ก็ไปลากเธอกลับมาพร้อมตีซ้ำ ทุกครั้งที่เธอขัดใจแม่ แม่ก็จะโวยวายเสียงดังและทำโทษเธอด้วยการตี พร้อมข้อกล่าวหาว่าเธอไม่เชื่อฟัง นานวันเข้าเธอก็กลายเป็นคนที่ยอมแม่ในทุกๆ เรื่อง ไม่กล้าแม้แต่จะเถียง แม่สั่งให้ทำอะไรเธอก็ก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่ปริปากบ่น เพราะถ้าไม่มีแม่เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก
แม่กับสามีใหม่มีลูกด้วยกัน 2 คน ทั้งคู่มีแผงขายอาหารเล็กๆ ในตลาด เรื่องดีของแม่ที่น้ำมนต์จำได้คือ ก่อนออกจากบ้านทุกเช้าแม่จะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้ให้เธอและน้องชนิดที่เรียกว่าพร้อมสรรพ ไม่เคยปล่อยให้ลูกต้องอด และหน้าที่เดียวที่น้ำมนต์มีคืออยู่บ้าน ดูแลน้องให้ดี เพื่อรอแม่กลับมาตอนเย็น พอน้องเริ่มโต แม่ก็ให้เธอออกไปช่วยขายของ เธอจึงได้รู้ว่าแม่กับสามีใหม่ไม่ได้ออกจากบ้านไปขายของทุกวัน อาทิตย์นึงต้องมีสัก 3-4 วันที่ทั้งคู่พาไปสนามม้า แน่นอนว่าแม่เริ่มติดการพนันตามคำชวนของพ่อเลี้ยง นานวันเข้าก็มีเจ้าหนี้นอกระบบมาทวงหนี้ที่บ้าน หนี้เก่า หนี้ใหม่ที่แม่กับพ่อเลี้ยงสร้างทับถมกลายมาเป็นภาระที่น้ำมนต์ต้องช่วยแบกรับ โดยที่แม่ไม่เคยอนาทรร้อนใจ หรือคิดจะเลิกเล่นการพนัน เพราะถือว่าเงินที่เล่นพนันก็เป็นเงินที่ตัวเองหามาได้
นอกจากช่วยแม่ขายของ ในวันที่แม่ขลุกตัวอยู่ในสนามม้า หรือบ่อนพนันแล้ว แม่ก็จะให้น้ำมนต์ไปของานง่ายๆ จากคนในละแวกบ้านตามกำลังเด็กวัย 14-15 ทำไปด้วย เช่น ไปรับจ้างล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ซึ่งเงินที่ได้แม่ก็จะให้น้ำมนต์เก็บไว้เอง พอน้องเริ่มไปโรงเรียน แม่ก็ใส่ใจเธอน้อยลง เธอเห็นน้องไปเรียน เธอก็ออกไปสมัครเรียน กศน.ใกล้บ้านบ้าง โดยไม่สนคำบ่นของแม่ ขณะที่พ่อเลี้ยงก็เริ่มมีพฤติกรรมและท่าทีกับเธอเกินฐานะพ่อเลี้ยง-ลูกเลี้ยง ด้วยความกลัวและไม่กล้าที่จะเล่าให้แม่ฟัง เพราะถ้าพูดไปแล้วแม่ไม่เชื่อ ไม่แคล้วว่าเธอคงโดนแม่ตี ทำให้น้ำมนต์ตัดสินใจหนีไปอยู่บ้านย่า แม้แม่จะสงสัยและไปตามให้กลับบ้าน ครั้งนี้น้ำมนต์โตพอที่ยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะอยู่กับย่า และอ้างว่าย่าแก่แล้วต้องมีคนช่วยดูแล
ถึงจะอยู่คนละบ้านแต่ทุกเช้าน้ำมนต์ก็ยังออกไปตลาดช่วยแม่ตั้งร้านขายของ และเก็บร้านจนมืดค่ำ เงินที่ได้แม่ก็จะหมุนเก็บไว้ให้น้องใช้จ่าย ไว้เล่นพนัน ใช้หนี้ แล้วก็แบ่งให้เธอบ้างตามแต่จะพอใจ ชีวิตเธอและแม่วนลูปแบบนี้อยู่หลายปี จนวันนึงเธอก็ได้ข่าวว่าพ่อเลี้ยงตายเพราะหัวใจวาย หลังพ่อเลี้ยงจากไปแม่ขอให้เธอกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน และการกลับบ้านครั้งนี้มันทำให้เธอค่อยๆ รู้สึกได้ถึงความดีใจของตัวเอง ไม่ได้ดีใจที่พ่อเลี้ยงตาย แต่ดีใจที่ได้เห็นแม่กลับมาขยันทำมาหากิน แถมยังเลิกเล่นการพนันได้ โดยไม่ต้องให้ใครมาร้องขอ
ถ้าเป็นละคร นี่คงเป็นฉากที่สวยงามฉากหนึ่งในชีวิตที่น้ำมนต์จำได้ เพราะเธอและแม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แม่สอนให้เธอจ่ายตลาด สอนให้เธอทำอาหาร ถึงจะรู้ว่ามันเป็นการสอนเพื่อให้เธอได้มาช่วยทำมาหากิน แต่มันก็เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่เธอได้ใช้มันไปกับแม่ พร้อมๆ กับระลึกอยู่เสมอว่าความรักของแม่ไม่เคยอยู่ที่เธอ แม่ทำทุกอย่างเพื่อหวังให้น้องได้เรียนสูงๆ จบมาเป็นเจ้าคนนายคน ขณะที่น้องก็ไปโรงเรียนแบบขอไปที วันหยุดก็เอาแต่นั่งเล่นกม โดยไม่เคยขยับตัวออกห่างหรือละสายตาจากหน้าจอทีวี ถ้าแม่ไม่เอาข้าวเอาน้ำมาวางไว้ให้ข้างตัว ก็ไม่เคยลุกไปนั่งกินดีๆ เวลาเธอบ่นน้อง แม่ก็จะบ่นเธอ นานวันเข้าเธอก็เลือกที่จะเงียบและเลิกยุ่งกับชีวิตคนอื่น แล้วพยายามทำสิ่งที่ไม่ทำให้แม่ต้องบ่น หรือโวยวายเสียงดัง เพราะเธอค้นพบว่าความเงียบและการได้พูดคุยกันอย่างปกติมันคือความสงบที่สุขที่สุดที่เกิดขึ้นในบ้าน
แต่อย่างที่ใครหลายคนรู้ดี ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน เพราะแค่ปีกว่าๆ แม่ก็มีสามีใหม่อีกคน สามีใหม่ของแม่คนนี้แทบไม่ต่างจากคนที่แล้ว เพราะอบายมุขทุกอย่างมาครบ แถมยังลากแม่กลับไปติดการพนัน หนี้ที่เคยผ่อนชำระจนลดลงเริ่มกลับมาพอกพูน น้ำมนต์ช่วยแม่ทำงานหาเงิน จนรู้สึกว่าตัวเองทำเท่าไหร่ๆ เงินก็พอแค่จ่ายดอก เธอได้แต่เฝ้าดูชีวิตแม่เงียบๆ จนเริ่มหมดหวังที่จะฝันถึงชีวิตที่ดีของตัวเอง
และตอนหน้าเราจะมาเล่าชีวิตของน้ำมนต์ให้ฟังกันต่อว่า สุดท้ายแล้วเธอจะมีความสุขกับชีวิตที่ยังไม่ถึงตอนจบนี้ได้อย่างไรค่ะ
- READ ชีวิตที่ไม่ยังไม่ถึงตอนจบ #1
- READ ชีวิตที่ไม่ยังไม่ถึงตอนจบ #2
- READ แก่แล้วไปไหน?
- READ เป็นบอสมันเหนื่อย
- READ อาชีพเล็กๆ ที่เรียกว่า...ยาม
- READ เราคือมิตร...ที่ไม่ใช่มิจ (ฉาชีพ)
- READ วันดีดี
- READ สวนสนุก
- READ ฉันอยู่ได้เมื่อไม่มีเธอ
- READ วันที่ดอกไม้บาน
- READ ความทรงจำที่หายไป
- READ ก้อนเมฆ
- READ แม็กกี้
- READ กล่องสุ่ม
- READ คำสัญญา
- READ หนังสือของพ่อ