พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.1 : Linn Plant Company

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.1 : Linn Plant Company

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

คันโดมา…

ชื่อที่เชวังเอ่ยนั้นดูมีมนตร์ขลัง

ลิ่วลมเห็นทุกคนในที่นั้นนิ่งไปนิดหนึ่ง

“คันโดมามีอยู่จริง” เชวังเล่าต่อ

“ไม่อยากเชื่อเลย” เยชิส่ายหน้า เขาจ้องมองเชวังด้วยสายตาลังเล “คันโดมามีแต่ในเรื่องเล่าเท่านั้น ไม่มีอยู่จริงสักหน่อย”

“มีสิ” เชวังยังคงยืนยัน “คันโดมามีอยู่จริง…พ่อของฉันเคยใช้เส้นทางนี้มาแล้ว”

“เป็นไปได้หรือ” คินซาส่ายหน้า ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เชวังเล่า

“โปรดเชื่อเถอะว่าคันโดมาไม่ใช่แค่เรื่องเล่า แต่เป็นเรื่องจริง” เชวังยังยืนยัน สีหน้าและน้ำเสียงของเขาหนักแน่นจริงจัง

“ตอนนั้น ฉันยังเด็กมาก แต่จำได้แม่น…พ่อเดินทางไปทิมพูเพื่อไปเอายามารักษาคนป่วย ขากลับเกิดพายุ ถนนขาด พ่อเลยต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางเดียวกันกับเรา ก็ปรากฏว่าเกิดหินถล่มลงมา เดินทางต่อไม่ได้ แถมพายุยังแรงขึ้นเรื่อยๆ พ่อกับเพื่อนเข้าไปหลบในถ้ำแถวๆ นี้ แล้วเกิดหลงทางเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ พ่อเริ่มกังวลว่าคนป่วยกำลังรอยาอยู่ ตอนนั้นเองที่พ่อเห็นพระรูปหนึ่ง…พ่อพยายามจะเดินไปหาท่าน แต่เดินเท่าไรก็เดินไม่ทันท่านสักที”

“ไม่ใช่พระธรรมดาแล้วละมัง” ลิ่วลมพึมพำ และเชวังก็พยักหน้า

“ตอนนั้นพ่อของผมก็แน่ใจแล้วว่าท่านไม่น่าใช่พระธรรมดา” เขาเล่าต่อ “แต่คงเป็นครุท่านใดท่านหนึ่งที่มาโปรด…พ่อกับเพื่อนพยายามเดินตามท่านอยู่เป็นวัน…สุดท้ายก็เห็นแสงสว่าง และพระรูปนั้นก็หายไป พ่อเดินตามแสงสว่างไปและพบว่าตัวเองไปโผล่ที่ถ้ำรังเซ เน…รวมใช้เวลาเดินแค่สามวันเท่านั้น”

“เป็นไปได้อย่างไร” เยชิพึมพำ “ระยะทางเดินเท้าจากสถานีป่าไม้ที่สองไปถึงซัมเซ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งสัปดาห์”

“เพราะคันโดมาคือเส้นทางลัด” เชวังพยักหน้า

“ถ้ำใต้ดินหลายแห่งมีทางติดต่อกันจริงๆ” เยชิหันไปพึมพำกับคินซา ขณะที่เชวังหันไปเล่าเรื่องของ ‘คันโดมา’ ให้ชาวไทยทั้งสามฟังโดยละเอียด

“ในหมู่ของคนซัมเซ เรามีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ภายในถ้ำใต้ภูเขาแถวนี้ มีเส้นทางทะลุถึงกันหมด เวลาเดินไปเรื่อยๆ เราอาจจะไปโผล่ที่ไหนก็ได้ และมีอยู่เส้นหนึ่งที่พาเราไปถึงถ้ำรังเซ เน ซึ่งเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ครุปัทมสัมภวะ ปฏิบัติธรรมอยู่จนบรรลุมรรคผล ซึ่งก็คือคันโดมาที่ผมพูดถึงนั่นเอง”

“คุณกำลังจะชวนให้พวกเราใช้เส้นทางนั้นหรือ” อัญญาวีร์ถามเสียงเรียบ

“ใช่” เชวังพยักหน้า “เราจำเป็นแล้วละ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบอกให้รู้ว่าพวกเราไม่ปลอดภัย หากเดินทางไปตามแผนเดิม…เราอาจไปไม่ถึงซัมเซ”

“ถ้าคุณคิดว่าพวกเราไม่ปลอดภัย ก็กรุณาเล่ารายละเอียดทุกอย่างออกมาได้แล้ว” อัญญาวีร์พูดในสิ่งที่ลิ่วลมเองก็อยากพูดอยู่พอดี “เราลงเรือลำเดียวกัน ต้องเดินทางไปด้วยกันต่ออีกหลายวัน แทนที่จะเอาแต่บอกว่าพวกเราไม่ปลอดภัย ก็เล่าออกมาสิคะว่าไม่ปลอดภัยอะไร พวกเราสามคนมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ข้อมูลทุกอย่าง เท่าๆ กับที่พวกคุณรู้”

“Linn plant company” หลังจากนิ่งไปนาน…เชวังก็พึมพำออกมาในที่สุด

“ชื่อบริษัทที่อยู่ข้างอุปกรณ์ในรถคันนั้นนี่คะน้าอัญ” นารีญาทำตาโต นึกถึงภาพที่โซนัม ลูกน้องของเยชิแอบถ่ายมาได้

“ใช่ ฝรั่งพวกนั้นเป็นคนของ Linn Plant” เชวังว่า “บริษัทลินน์แพลนต์ คือบริษัทล่าพันธุ์ไม้หายาก ไม่เพียงแต่ล่าพันธุ์ไม้…พวกมันตามล่าหาสิ่งมีชีวิตที่หายาก สิ่งมีชีวิตในตำนาน เพื่อเอาไปขายให้กับนักสะสม”

“สิ่งมีชีวิตในตำนาน” ลิ่วลมนึกไปถึงเพื่อนตัวยักษ์ของเชวัง “เยติ…”

“ใช่” เชวังพยักหน้า “เยติในหิมาลัย…เนสซี ในทะเลสาบล็อกเนสส์…นางเงือกในทะเลเอเดรียติก…ยูนิคอร์นในป่าสกอตแลนด์ และอีกมากมาย”

“บ้าไปแล้ว” ลิ่วลมขมวดคิ้ว

“ไม่บ้าหรอกครับ มีบริษัทแบบนี้อยู่จริงๆ” เชวังหัวเราะเสียงแผ่ว มีร่องรอยความขมขื่นในสุ้มเสียงแผ่วต่ำของเขา “ที่พ่อของผมมาเสียชีวิตไป ก็เพราะต้องการจะปกป้องสิ่งสำคัญที่ซัมเซเอาไว้จากพวกมัน”

“อุทุมพร…พวกนั้นต้องการดอกอุทุมพรใช่ไหม”

อัญญาวีร์นึกออกแล้วว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหน

หลายปีก่อนตอนเล่าเรื่องพ่อของเขาให้ฟัง เชวังหลุดชื่อ Linn Plant company ออกมาสองสามครั้ง แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจมากนัก รู้แค่ว่าพ่อของเขาเสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะกับฝรั่งจากบริษัทลินน์แพลนต์ ที่พยายามจะมาขโมยเอาอะไรบางอย่างไปจากซัมเซ

“พวกมันได้ไปแล้วนี่” นารีญานึกถึงคลิปดอกอุทุมพรแช่อยู่ในน้ำยา ที่โซนัมถ่ายและเอาให้ดู

“พวกมันอยากได้ของจริง…เอาไปปลูก” เชวังว่า

“พืชแต่ละชนิด เหมาะกับสภาพแวดล้อมแต่ละที่เท่านั้น ไม่ใช่ว่าเอาไปปลูกที่ไหนจะขึ้นได้เหมือนกันสักหน่อย” อัญญาวีร์พึมพำ

แน่ละ เธอยังหงุดหงิดเรื่องของตัวเองกับเชวังอยู่ แต่ตอนนี้มีปัญหาใหญ่กว่าให้ต้องขบคิด อัญญาวีร์เลยตัดสินใจวางเรื่องส่วนตัวลงชั่วคราว

“โดยเฉพาะดอกอุทุมพร” เชวังถอนใจ “ตามตำนานที่เล่าสืบกันมา…อุทุมพรไม่ใช่จะขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์สะอาดเท่านั้น แต่จะขึ้นได้ในดินแดนที่ผู้คนเป็นคนดี ต่อให้พวกมันพบแล้วเอาไปได้ อุทุมพรก็ไม่สามารถขึ้นในเมืองที่ผู้คนเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาได้หรอก”

“ตกลงพวกนั้นมาตามหาอุทุมพร” อัญญาวีร์สรุป “แล้วพวกนั้นทำอันตรายพวกเราทำไม”

เชวังถอนใจลึกยาว ก่อนจะตอบคำถามของอัญญาวีร์ว่า

“เพราะพวกเราจะไม่ยอมให้พวกเขาทำอย่างนั้นน่ะสิ”



Don`t copy text!