พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 35.1 : ค่ำคืนฝนกระหน่ำหนัก

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 35.1 : ค่ำคืนฝนกระหน่ำหนัก

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

สองอาหลานยังนั่งอยู่ในความเงียบงันด้วยกันตรงนั้นอีกเป็นนาน ดวงหน้าของยังเชนดูเคร่งขรึม เพราะสิ่งที่เธอตัดสินใจลงไปในครั้งนี้ อาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เขาเข้าใจยังเชนดี

อาจจะดีกว่าใครทั้งหมดด้วยซ้ำ

เพราะเขาเลี้ยงหลานคนนี้มาแต่อ้อนแต่ออก

ญาติผู้พี่ของเขา เชโม ทินเลย์ ผู้มีหน้าที่พิทักษ์พัลเดน เสียชีวิตลงกะทันหัน จากเหตุการณ์ปะทะกับคนของ Linn Plant ที่ส่งมาสืบข่าวเรื่องดอกอุทุมพรและมังกร นั่นทำให้เชวังจำต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงหัวใจของตัวเอง เพื่อกลับมาทำหน้าที่แทนพี่ชาย โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้อัญญาวีร์รู้ได้

จะบอกอย่างไร

บอกว่า อัญ…ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้แล้ว เพราะผมต้องกลับไปพิทักษ์มังกรตัวสุดท้ายของโลก…อย่างนั้นหรือ

ไม่มีใครเข้าใจหรอก

และเขารู้จักอัญญาวีร์ดีว่า หญิงสาวคนนั้นจะต้องติดตามเขามาที่ภูฏาน จนกว่าจะได้เห็นมังกรตัวนั้นกับตาตัวเอง เธอถึงจะยอมเชื่อ

ไม่เพียงแต่ทิ้งอัญญาวีร์ให้อยู่ในความสับสน เขาจำเป็นต้องทิ้งอาชีพที่ตัวเองรัก ด้วยการใช้ทุนและลาออกจากการเป็นแพทย์ ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคนที่โรงพยาบาล อาจารย์ที่เป็นคนให้ทุนเขาไปเรียนต่อโกรธเชวังมากถึงกับตัดเป็นตัดตาย เพราะแทนที่เรียนจบแล้วจะได้กลับมาช่วยเหลือคนป่วย เขากลับลาออกไปเสียเฉยๆ

ตอนแรกเชวังก็อยากจะหาสมดุลระหว่างอาชีพการงานและหน้าที่รับผิดชอบ หากทว่าได้ลองดูแล้ว เชวังพบว่าไม่อาจทำควบคู่กันได้จริงๆ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทล่าพรรณพืชและสัตว์หายากอย่าง Linn Plant เริ่มระแคะระคาย และเริ่มลงมือค้นหาพัลเดนอีกครั้ง

ดวงตาของเชวังมองเหม่อไปไกลกว่าเส้นขอบฟ้าตรงหน้า

เขาถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพในอดีตที่ผานไปนานหลายสิบปีกลับคืนมาอีกครั้ง

วันนั้นเขาไม่รู้เลยว่า การแอบสะกดรอยตามพ่อไปยังหุบเขาเลือดมังกร จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นพ่อ เชวังพบว่ามีกลุ่มคนจำนวนนับสิบรออยู่แล้วที่หุบเขาพร้อมอาวุธครบมือ พวกมันตามมาถึงที่นี่ได้เพราะสัญลักษณ์และร่องรอยใน ‘พยับฟ้าโพยมดิน’

ก่อนหน้านี้พวกมันไปที่อารามเก่าแก่ประจำเมือง เขาอยู่ที่นั่นกับแม่พอดี เชวังจำได้ว่าฝรั่งหนุ่มที่ชื่ออังเดร ขออนุญาตท่านครุเข้าไปชมผ้าทังกาโกราณ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง จึงให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่มีใครรู้ว่าที่จริงแล้วอังเดรและพวกมีวัตถุประสงค์แอบแฝง หัวหน้าทีมของเขาต้องการจะไปสืบหาดอกอุทุมพรต่างหาก และพวกเขาได้ร่องรอยจากผ้าโบราณผืนนั้น…ผืนที่ลวดลายปักคือแผนที่บันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในซัมเซ

จากดอกอุทุมพร นำพวกคนร้ายไปสู่การค้นพบเดมา…แม่มังกร และพัลเดน…ลูกของมัน

พ่อของเขาได้รับข้อมูลจากเพื่อน จึงรู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกมัน พ่อรีบตามไปขัดขวางพวกมัน แต่พ่อแค่คนเดียวสู้กับพวกมันไม่ไหว

ด้วยเหตุนี้เดมา จึงออกมา…

และนั่นคือสิ่งที่พวกมันรอคอย…

เชวังยังจำบรรยากาศในวันนันได้แม่นยำ เมฆฝนบนฟ้าดำทะมึน สายฝนกระหน่ำหนักจนมองแทบไม่เห็นอะไร เสียงคนจาก Linn Plant หัวเราะราวบ้าคลั่ง พวกเขาระดมยิงเดมาด้วยอาวุธหนักจำนวนมาก ที่จริงเดมาสามารถบินหนีไปพร้อมกับลูกของมันได้ แต่เพราะเห็นพ่อกำลังเสียเปรียบ มันจึงพยายามจะเข้าช่วย

เดมาใช้ปีกของมันปัดลูกกระสุนให้พ่อ จนปีกของมันบาดเจ็บ เดมาเสียหลักและคราวนี้ฝรั่งพวกนั้นเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พัลเดนแทน

สัญชาตญาณความเป็นแม่ ทำให้เดมาสู้ขาดใจ

มันจะไม่ยอมให้ใครพรากเอาลูกไปได้

ตอนนั้นพ่อของเขาถูกยิงบาดเจ็บแล้ว แขนข้างหนึ่งของพ่อห้อยร่องแร่ง พ่อคงเห็นแล้วว่าลำพังแค่คนเดียวสู้พวกมันไม่ได้แน่ ดังนั้น พ่อจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือหยิบระเบิดออกมาจากเป้สะพายหลัง จุดชนวนแล้ววิ่งเข้าใส่พวก Linn Plant

ตูม…

เสียงระเบิดดังลั่น ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา เชวังแยกไม่ออกว่า รอยเปียกปอนบนดวงหน้าของเขา คือคราบน้ำตาหรือสายฝนกันแน่

เสียงสะอื้นของเชวัง ทำให้อังเดรและฝรั่งที่ยังรอดชีวิตจากแรงระเบิดหันมาเห็นเข้า และเดมาก็เห็นเขาเช่นกัน

‘หนีไป…หนีไป’

เด็กชายพยายามยึดกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้ตัวจนแน่น หากไม่อาจทานพละกำลังของกระแสลมได้ มือสองข้างถูกหนามเกี่ยวจนเกิดบาดแผลเลือดไหลซิบ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ แผดเสียงตะโกนแข่งกันเสียงพายุ

‘หนีไป…พาลูกของเจ้าหนีไป’

ตุ้บ…โครม

หูของเด็กชายอื้อไปในทันทีที่มือหนาๆ ของชายร่างสูงล่ำสันตบลงมาที่ใบหน้าของเขาสุดแรง

‘ไอ้เด็กบ้า…ไล่มันไปทำไม…เรียกมันกลับมาเดี๋ยวนี้’

‘ไม่…หนีไป หนีไป’ เขายังตะโกนจนสุดเสียง เมื่อเห็นเงาขนาดใหญ่ยังบินวนเวียนไม่ห่าง

กรรรรรร…

เสียงของมันโหยหวน ปีกข้างหนึ่งโอบลูกน้อยเอาไว้ราวจะปกป้อง

‘หนี…ไป’ เด็กชายตะโกนสุดเสียง

ฝรั่งพวกนั้นไม่พอใจที่เขาไล่ให้เดมาหนีไป มันตบเขาจนล้มกลิ้ง และหนึ่งในนั้นยกปืนขึ้นจ่อหัวเชวัง เพราะรู้ว่าเดมาจะต้องบินกลับมาช่วย

แล้วแม่มังกรก็บินกลับมาจริงๆ

กลับมาทั้งที่มันพาลูกหนีไปได้

และเพื่อจะช่วยเหลือให้เขารอด มันจึงพุ่งโจมตีฝรั่งที่เหลือ เชวังเห็นหลายคนกระเด็นตกลงไปในเหว ตัวหัวหน้าที่ชื่ออังเดรกระเด็นไปฟาดกับโขดหิน เชวังได้ยินเสียงกร๊อกดังลั่น เมื่อขาข้างหนึ่งของอังเดรหักร่องแร่ง ขณะที่ฝรั่งอีกคนยกปืนขึ้นประทับบ่าแล้วเล็งมาที่เขา

เชวังรู้ว่าตนเองคือจุดอ่อนของเดมา เขาพยายามบอกให้เดมาหนีไป หากไม่เป็นผล

เขาและมังกรมีความผูกพันกันมาทั้งชีวิต

มังกรคือเพื่อนแท้ ที่จะไม่ทิ้งเขาไปไหน

ฝรั่งจาก Linn Plant…พวกมันรู้แล้วว่าจับเป็นแม่มังกรไม่ได้แน่ จึงตั้งใจจะจับตายเพื่อเอาซากมังกรกลับไปที่ Linn Plant

เสียงร้องดังแจ๊ก…เมื่อแม่มังกรรวบรวมพละกำลังครั้งสุดท้าย จู่โจมใส่ฝรั่งร่างสูงคนนั้น ปีกที่โดนยิงจนห้อยร่องแร่งกวาดชายฉกรรจ์จนเสียหลัก เดมาใช้ปีกกวาดเอาร่างนั้นพุ่งดิ่งลงไปในหุบเหวลึกตรงหน้าด้วยกัน

เปรี้ยง…

ตูม…

เสียงอาวุธสงครามที่ชายผู้นั้นแบกเอาไว้ ดังสะท้อนก้องไปทั่วทั้งผืนป่า เด็กชายตะเกียกตะกายไปจนถึงขอบเหว

‘เดมา…เดมา…’

เขากรีดเสียงร้องด้วยใจแหลกสลาย

เช่นเดียวกับเสียงพัลเดนร้องโหยหวนหาแม่…

นับจากวินาทีนั้นเป็นต้นมา…เชวังสาบานกับตัวเองว่า เขาจะดูแลพัลเดนให้ดีที่สุด…ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในชีวิต!



Don`t copy text!