พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.2 : ภาพนิมิต

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.2 : ภาพนิมิต

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“เดี๋ยวก่อนนะ” อัญญาวีร์ส่ายหน้า “พูดผิดหรือเปล่า…พวกคุณต่างหากที่ไม่ยอมให้ฝรั่งพวกนั้นเอาอุทุมพรไป…เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วยคะ พวกเราแค่มาตามหาน้องชายของลิ่วลมเท่านั้น ถ้าพบตัวล่องเมฆ พวกเราก็จะกลับเมืองไทย”

“รอให้ถึงซัมเซก่อน…แล้วพวกคุณก็จะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะบอก” เชวังพูดเสียงแผ่วต่ำ “ฝรั่งพวกนั้นกำลังทำเรื่องร้ายแรงมาก และพวกมันจะไม่ปล่อยให้คนที่รู้เรื่องรอดไปได้”

 

เชวัง ทินเลย์ทอดสายตามองลิ่วลมแน่วนิ่ง เขาเม้มริมฝีปากแน่น แล้วเปลี่ยนเรื่องสนทนารวดเร็ว

“เยชิ คินซา พวกคุณเตรียมตัวให้พร้อม เราจะเปลี่ยนเส้นทาง และควรออกเดินทางกันเสียแต่ตอนนี้เลย รีบไปก่อนที่พวกมันจะทันไหวตัว ไปกันเถอะ”

“เดี๋ยวก่อนสิครับ” ลิ่วลมเอื้อมมือไปจับแขนของเชวัง “ผมยังมีเรื่องที่อยากถามคุณหลายเรื่องเลย…ผม…โอ๊ะ…”

ทันทีที่มือของเขาแตะถูกเชวัง กระแสไหลวนราวไฟฟ้าแรงสูงก็พุ่งปะทะลิ่วลมอย่างรุนแรง จนชายหนุ่มกระเด็นหงายหลัง พร้อมกับส่งเสียงร้องอุทานดังลั่น

เกิดภาพมากมายปรากฏขึ้นพร้อมๆ กันในหัวของเขา

ลิ่วลมเห็นภาพเชวังตกลงมาจากที่สูง…

เสียงปืน

เลือด…

เสียงระเบิดผสานกับเสียงกรีดร้องของผู้คน

เขาเห็นแม้กระทั่งกลีบสีขาวบริสุทธิ์ของอุทุมพรกระจุยกระจาย ด้วยกระแสลมที่รุนแรงราวพายุ ต้นไม้ใบหญ้าในบริเวณนั้นไหวเอนราวจะถอนรากถอนโคน

ได้ยินเสียงกรีดร้องของอัญญาวีร์

เห็นนารีญากระเด็นกลิ้งไปไกล

ภาพที่ปรากฏในหัวของลิ่วลมเต็มไปด้วยความอึงอลสับสน มืดเสียจนมองแทบไม่เห็นสิ่งใด ลิ่วลมไม่รู้จักว่าสถานที่นั้นคือที่ใดกันแน่

รู้แต่ว่าตนเองกำลังอยู่ในหุบเขาลึกที่รายล้อมไปด้วยยอดเขาสูงเสียดฟ้า และหน้าผาสูงชัน สายฟ้าแลบแปลบปลาบ และสายฝนที่กระหน่ำหนัก

ลิ่วลมสัมผัสได้แม้กระทั่งความยะเยือกเย็นที่เสียดลึกไปถึงกระดูก…

แต่ที่ทำให้ลิ่วลมรู้สึกใจหาย…เขาเห็นทุกคน

ยกเว้นล่องเมฆ

ไม่มีน้องชายฝาแฝดของเขาปรากฏในภาพนิมิตที่เกิดขึ้นโดยกะทันหัน!

“ลิ่วลม” นารีญาเขย่าแขนเขาแรงๆ และนั่นทำให้ภาพนิมิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นหายวับไป “เป็นอะไรอีกแล้ว”

“ผม…ผม…” ลิ่วลมสั่นไปทั้งร่าง มือไม้ของเขาเย็นเฉียบ หัวใจยังเต้นระรัวเร็วกับภาพที่ปรากฏในหัว

มีอันตรายกำลังรออยู่ข้างหน้า

และมันจะเกิดขึ้นแน่ๆ

นิมิตของเขาไม่เคยผิดพลาด…

“ไปเตรียมตัวกันได้แล้ว” เชวังไม่ได้สนใจกับอาการประหลาดของชายหนุ่มชาวไทย เขากวักมือเรียกเยชิและคินซา จากนั้นทั้งสามคนรวมถึงลูกหาบอีกสามคนก็ปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะเดินกลับมาหาชาวไทยทั้งสามแล้วถามขึ้นว่า

“พวกคุณพร้อมไหม…หนทางจากนี้ไปจะยิ่งลำบากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า”

“ฉันพร้อม”

“ฉันก็พร้อม”

อัญญาวีร์และนารีญาพยักหน้าพร้อมกัน ขณะที่ลิ่วลมเม้มริมฝีปากแน่น เขาส่ายหน้า และตัดสินใจเอ่ยออกมาว่า

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว…อาจารย์กับรีญาไม่ต้องไปหรอกครับ”

“อ้าว ได้ยังไง มาถึงขนาดนี้แล้ว” อัญญาวีร์นิ่วหน้า

“นั่นสิ” นารีญาหน้าบึ้ง “ป๊อดเหรอ”

“ไม่ได้ปอด” ลิ่วลมส่ายหน้า ไม่ยอมเล่าสิ่งที่เขาเห็นในนิมิตให้อาจารย์ของเขาและหลานสาวฟัง “แต่ผมคิดว่าหนทางจากนี้ไปมันอันตราย เท่าที่อาจารย์กับรีญามาเป็นเพื่อนจนถึงนี่ ก็มากเกินไปแล้วละครับ อาจารย์กลับเมืองไทยไปเถอะ อย่าเสี่ยงต่อไปอีกเลยครับ ปล่อยให้เป็นเรื่องของผมคนเดียวจะดีกว่า ล่องเมฆเป็นน้องชายของผม ผมจะไปตามหาเขาด้วยตัวเอง ไม่ขอรบกวนอาจารย์กับรีญาแล้ว…คุณเชวัง”

ประโยคหลังเขาหันไปทางนายแพทย์ชาวภูฏาน

“ให้คนไปส่งอาจารย์อัญญาวีร์กับนารีญากลับทิมพูได้ไหมครับ จากนี้ไปพวกเราไปต่อกันเอง ไม่ต้องให้สองคนนี้ไปด้วย”

“ได้” เชวัง ทินเลย์พยักหน้า “ผมเห็นด้วย พวกคุณกลับไปเถอะ อย่าเสี่ยงอันตรายเลย”

“ไม่” อัญญาวีร์ส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “ฉันจะไปกับลิ่วลม”

“หนูก็จะไปกับน้าอัญ” นารีญาว่า

“แต่…” ลิ่วลมพยายามจะแย้ง แม้เขาจะไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนิมิตที่เกิดขึ้นได้มาก่อน แต่ลิ่วลมก็อยากจะลอง

ถ้าหาทางให้อัญญาวีร์และนารีญากลับไปเมืองไทย สิ่งที่เขาเห็นอาจจะไม่เกิดขึ้น

“แต่มันอันตรายมากนะครับอาจารย์”

“ครั้งหนึ่งเคยมีคนสัญญากับครูว่า เขาจะไม่ทิ้งครู…ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข เขาจะไม่ทิ้งครูไปไหน แต่แล้วเขาก็ลืมคำสัญญานั้น และทิ้งครูไป”

น้ำเสียงของอัญญาวีร์หนักแน่น จริงจัง และคำพูดประโยคนั้นของเธอทำให้เชวัง ทินเลย์ และลิ่วลมถึงกับนิ่งอึ้ง

ลิ่วลมและนารีญาหันไปมองนายแพทย์ชาวภูฏาน เพราะรู้ว่าเขาคือ ‘ใครคนนั้น’ ที่อัญญาวีร์เอ่ยถึง

เชวัง ทินเลย์ขบกรามและกำหมัดแน่น ดวงหน้าคร้ามคมสันของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาคู่เข้มเหมือนจะหม่นแสงลงไป หากแต่ปรากฏให้เห็นเพียงชั่วขณะ ก่อนที่เชวัง ทินเลย์จะกลับมาสงบนิ่งดุจหินผาดังเดิม

“เขาปล่อยครูไว้กับความสงสัย และทำให้ครูบอกกับตัวเองว่า เมื่อให้สัญญาอะไรกับใครสักคน ไม่ว่าสัญญานั้นจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาคำมั่นสัญญานั้นเอาไว้…”

อัญญาวีร์หันไปจ้องเชวัง ทินเลย์แน่วนิ่ง ขณะเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มั่นคง

“ครูเคยให้สัญญากับลมว่าจะช่วยตามหาล่องเมฆให้พบ ครูก็จะทำตามคำสัญญานั้น ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากอย่างไร ครูจะรักษาสัญญานั้นเอาไว้…นั่นหมายความว่า ครูจะไปกับเธอ…ลิ่วลม ถ้าเราจะกลับเมืองไทย เราทุกคนต้องกลับด้วยกัน…”

 



Don`t copy text!