พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 20.1 : พรมสีแดง
โดย : พงศกร
พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้
ก่อนที่ทุกคนจะเดินเข้าไปในถ้ำหมายเลขสาม เชวังและเยชิชวนคินซาและลูกหาบทั้งสาม ทำทีเป็นเดินเข้าเดินออกถ้ำหมายเลขหนึ่งและสองกันอยู่พักใหญ่
ลิ่วลมสังเกตเห็นรอยเท้ามากมายย่ำไปย่ำมา สร้างความสับสนให้ไม่น้อย เป็นแผนของเชวังที่ตั้งใจทำให้พวก Linn Plant ซึ่งกำลังติดตามมา เกิดความไม่แน่ใจว่าพวกของเชวังไปทางไหนกันแน่
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นายแพทย์หนุ่มก็ยืนกอดอกมองผลงาน และพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนที่เขาจะบอกให้ทุกคนออกเดินทางต่อได้
เยชิเดินนำหน้า ตามด้วยคินซา และแขกชาวไทยทั้งสาม เรียงลำดับการเดินเหมือนเดิม
เชวังและลูกหาบทั้งสามช่วยกันตรวจสอบบริเวณที่พวกเขานั่งพักผ่อนอีกครั้ง จนแน่ใจว่าไม่มีหลักฐานใดหลงเหลืออยู่ แล้วจึงเดินตามมา ปิดท้ายขบวน
ทางเดินในช่วงที่สองนี้ยังคงมืดสนิท ต้องใช้แท่งฟลูออเรสเซนต์ส่องนำทาง พื้นที่ของทางเดินกว้างขวางกว่าช่วงแรก จนสามารถเดินจับกลุ่มกันไปได้สบายๆ แต่กระนั้นเยชิยังบอกให้ทุกคนเดินเรียงเดี่ยว เขาย้ำว่าห้ามแตะต้องอะไรทั้งนั้น
ตลอดทางที่เดินไป สายลมยังคงพัดผ่านมารวยริน พาให้รู้สึกเย็นสบายและไม่เหนื่อยจนเกินไป และคราวนี้มีกลิ่นหอมหวานของอะไรบางอย่างเจือมาด้วย ลิ่วลมรู้สึกเหมือนกับกลิ่นของขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ แต่กลิ่นบางเสียจนเขาไม่แน่ใจ
ผนังทั้งสองข้างบัดนี้เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ได้ส่องประกายระยิบระยับเหมือนทางเดินช่วงแรก หากกลายเป็นผนังหินเรียบๆ ชื้นเย็น มีมอสและตะไคร่ขึ้น พร้อมกับกลิ่นหอมเหมือนขนมปังที่แรงขึ้นทุกที
พื้นทางเดินค่อนข้างเรียบเช่นกัน ลิ่วลมไม่เห็นมีหินงอกหรือหินย้อยเหมือนช่วงที่ผ่านมา การเดินทางในช่วงนี้ออกจะราบเรียบเหมือนที่แผนที่ในพยับฟ้าโพยมดินบอกเอาไว้
ราบเรียบ ราบรื่นจนแทบไม่น่าเชื่อ
ระหว่างนั้นไม่มีใครคุยอะไรกันมากนัก ต่างคนต่างซึมซับกับบรรยากาศรอบตัว ภายในถ้ำมีแต่ความเงียบสงบ มีเพียงเสียงฝีเท้าของคนที่สะท้อนกลับไปกลับมาเท่านั้น
เดินต่อกันไปอีกพักใหญ่ก็เห็นมีแสงสว่างที่ปลายทางด้านหน้า เยชิที่เดินนำเป็นคนแรกหยุดชะงักลง ก่อนจะหันกลับมาพร้อมสายตาตื่นเต้น พอลิ่วลม อัญญาวีร์ และนารีญาเดินไปจนทันหัวหน้าคณะ ทุกคนก็พลอยตื่นเต้นไม่แพ้กัน
พวกเขากำลังยืนอยู่สุดทางเดิน ตรงหน้าเป็นหุบเขาขนาดย่อม เบื้องบนเป็นโพรงขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นท้องฟ้า ก้อนเมฆ และแสงอาทิตย์ยามบ่ายสีส้มอมทองที่ส่องผ่านเข้ามา
มีสะพานสร้างจากเถาวัลย์ข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ลิ่วลมเห็นปากถ้ำขนาดใหญ่ นั่นคงเป็นทางเดินในช่วงถัดจากนี้ไป
แต่สะพานแขวนไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เยชิและทุกคนต้องอ้าปากค้าง
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงก็คือพรมสีแดงสดที่ปรากฏอยู่ในหุบเขามากกว่า
ไม่ใช่พรม…
ลิ่วลมเขม้นมองและพบว่ามันคือเห็ดดอกเล็กๆ สีแดงสดราวกับสีเลือดที่ขึ้นเบียดเสียดกันจนแน่นขนัด เมื่อมองดูเผินๆ ราวกับมีคนเอาพรมกำมะหยี่สีแดงมาปูเอาไว้
ในหุบเขาเต็มไปด้วยเห็ดประหลาด
ไม่มีพืชพรรณอื่นๆ ขึ้นอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลยแม้แต่ต้นเดียว
ยิ่งพวกมันขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ยิ่งดูงดงาม สีแดงของมันสะท้อนกับแสงแดดลำสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ทำให้ดูเหมือนกับภาพเขียน
“สวยจัง” นารีญาส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด และยกมือถือขึ้นมากดบันทึกภาพรัวๆ “เห็ดอะไรคะเนี่ย เหมือนในหนังสือเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์เลย”
“เห็ดอะไรก็ไม่รู้” เสียงของเชวังเต็มไปด้วยความระแวดระวัง “เดินป่ามาตั้งหลายปี…ผมไม่เคยเห็น”
“ผมก็ไม่เคย” เยชิส่ายหน้า
“มีในแผนที่นี่ครับ” ลิ่วลมจำได้ว่ามีสัญลักษณ์รูปเห็ดสีแดงปรากฏในพยับฟ้าโพยมดิน ไม่น่าเชื่อว่าคนปักลวดลายจะสามารถเก็บรายละเอียดของเส้นทางแต่ละสายเอาไว้ได้ครบถ้วน
“หอม…” นารีญาสูดลมหายใจ “กลิ่นเหมือนขนมปังอบใหม่ๆ เลย มีใครมาอบขนมปังแถวนี้”
จริงดังที่นารีญาว่า กลิ่นที่อวลอยู่รอบกาย ทำให้ลิ่วลมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในร้านเบเกอรี
“ไม่ใช่หรอกค่ะ น่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากเห็ดพวกนั้นมากกว่า” คินซาชี้ให้ดูกลุ่มควันอ่อนจางที่ลอยเรี่ยอยู่ในระดับเดียวกับดอกเห็ด
“แปลก” เชวังพึมพำ
“แปลกอะไรคะ” อัญญาวีร์เผลอตัวถามออกมา ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะพูดคุยกับเชวังให้น้อยที่สุด
เชวังไม่ตอบ หากทิ้งกายนอนราบลงกับพื้น เขาหยิบเอากล้องส่องทางไกลออกมาเพื่อสำรวจรายละเอียดของเห็ดประหลาดพวกนั้น
เชวังเห็นจุดสีขาวบนหมวกเห็ดสีแดงสด มองเผินๆ เหมือนกับเป็นอับสปอร์ของเห็ดป่า แต่ครั้นพอใช้กล้องส่องทางไกลขยายดูโดยละเอียดแล้ว เชวังพบว่ามันคือของเหลวที่เห็ดขับออกมา ลักษณะดูเหนียวคล้ายกับยางสีขาวขุ่น ที่กระจายอยู่ทั่วไปบนหมวกของเห็ดแต่ละต้น
กลิ่นหอมน่าจะมีที่มาจากยางของเห็ดประหลาดนั่นเอง
กลิ่นหอมไม่ได้เย้ายวนใจแต่มนุษย์ ทว่าดึงดูดใจให้พวกแมลงเข้ามารุมตอมด้วย
เชวังเห็นแมลงตัวหนึ่งบินเข้ามาเกาะที่เห็ดดอกที่ใกล้ที่สุด ขาของมันติดเข้ากับยางเหนียวหนืดสีขาว แล้วเลยบินไปไหนไม่ได้ มันดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหมดแรงไปในที่สุด ขณะที่คนอื่นสนใจกับความงามของเห็ด เขากลับเห็นความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับแมลงตัวนั้น
เห็ดสีแดงสดขับน้ำยางสีขาวขุ่นออกมามากขึ้น จนท่วมมิดตัวแมลงในที่สุด…
“หอมแบบนี้…หิวเลยนะคะเนี่ย” นารีญากลืนน้ำลายลงคอ ท้องร้องเบาๆ เพราะเลยเวลาอาหารมานานแล้ว
“เอาไงดีคะคุณหมอเชวัง” คินซาหันไปถาม “ดูเหมือนทุกคนจะหิว”
“หิวและเหนื่อย” อัญญาวีร์หลุดปากบ่นออกมา ทั้งที่ปกติเธอเป็นคนอดทน
“ผมมึนๆ ยังไงไม่รู้” ลิ่วลมพึมพำ เขารู้สึกหัวไม่แล่น สมองไม่ปลอดโปร่งมาพักใหญ่แล้ว จะคิดอะไรเหมือนจะคิดไม่ออก คิดช้าไปหมด
“ผมก็หิว” หนึ่งในลูกหาบพึมพำ
“กินเห็ดกันไหมคะ” คินซาเสนอ ดวงตาของเธอที่จ้องมองเห็ดสีแดงสดเต็มไปด้วยความสนอกสนใจ
“ทุกคนอดทนไว้ก่อน” เชวังพูดเสียงเข้ม เขาชี้มือไปยังปากถ้ำฝั่งตรงข้าม “เราจะข้ามไปฝั่งโน่น จากนั้นค่อยหยุดพักกินอาหารกัน”
“หอมมาก สวยมาก” นารีญายังพึมพำ เธอทำท่าเหมือนจะไต่ลงไปยังหุบด้านล่าง
“จะไปไหนรีญา” อัญญาวีร์เรียกหลานสาว “กลับมา”
“หนูอยากลงไปดูเห็ดค่ะ” นารีญาว่า “อยากถ่ายรูปในดงเห็ด…ท่าทางคงจะสวยมาก แล้วก็อยากรู้ด้วยว่ากลิ่นหอมเหมือนขนมปังมาจากเห็ดพวกนี้จริงๆ หรือเปล่า”
“ไปไม่ได้นะครับ” เชวังรั้งนารีญาเอาไว้ “อันตราย”
“อันตรายตรงไหนคะ” นารีญาโคลงศีรษะ “สีสวยออกจะตายไป”
“ลองดูนี่ก่อนสิครับ” เชวัง ทินเลย์แค่นเสียง ก่อนจะโยนกระติกน้ำที่ทำมาจากหนังแกะลงไปในดงเห็ดตรงหน้า…
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 20.1 : พรมสีแดง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 19.2 : ถ้าเรากลับไปได้
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 19.1 : ศรีวัตสะ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 18.2 : ปรับแผนเดินทาง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 18.1 : สี่เทพผู้พิทักษ์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.2 : ภาพนิมิต
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.1 : Linn Plant Company
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.2 : ผิดแผน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.1 : วันฟ้าหลัว
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.2 : ความทรงจำ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.1 : ไม่ใช่นัมเก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 14.2 : อันตรายที่มองไม่เห็น
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 14.1 : ผู้พิทักษ์ขุนเขา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 13.2 : ผู้ช่วยของนัมเก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 13.1 : นยาลา เดียม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 12.2 : ช่วยด้วย
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 12.1 : นยาลาลัม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 11.2 : ฤดูแห่งดวงดาว
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 11.1 : อ้อมกอดแห่งขุนเขา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 10.2 : วิหารม้าเทวดา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 10.1 : ออกเดินทาง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 9.2 : Orchid Hunter
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 9.1 : เหตุร้าย
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 8.2 : นิมิตของลิ่วลม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 8.1 : พยับฟ้าโพยมดิน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 7.2 : Til the Earth through the Heavens
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 7.1 : เบาะแสของดอกไม้ทิพย์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 6.2 : พิพิธภัณฑ์ผ้าเคซัง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 6.1 : ภัณฑารักษ์จาก The MET
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 5.2 : ท่านครุ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 5.1 : วิหารฟ้าคะนอง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 4.2 : เกาตัน ซับบา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 4.1 : ฝากไว้
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.2 : เธอคือแสงตะวัน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.1 : ความทรงจำเหมือนม่านหมอก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 2.2 : วันฟ้ากระจ่าง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 2.1 : มีเมฆบ้างเป็นบางวัน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 1.2 : ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 1.1 : Udumbara - อุทุมพร ดอกไม้สวรรค์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน : บทนำ