พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 32.2 : ไอ้ตัวเล็ก

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 32.2 : ไอ้ตัวเล็ก

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“โอย…” ลิ่วลมเพิ่งได้สติ ไม่รู้เขาสลบไปนานแค่ไหน

เขาปวดหัวหนึบๆ พยายามยกมือขึ้นแตะแผลที่ศีรษะ พร้อมกันนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยละลิ่วไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

ใช่ อยู่ในอากาศ เหมือนนั่งเครื่องบิน

แต่เป็นเครื่องบินที่ประหลาดที่สุด เพราะไม่มีที่นั่ง ไม่มีผนัง เหมือนนั่งพรมวิเศษในการ์ตูนเรื่องอาละดินมากกว่า

…นี่เขาฝันไปหรือเปล่า…

“เมฆ”

ที่กำลังประคองเขาอยู่คือน้องชายที่กำลังตามหา

“เมฆจริงๆ ด้วย”

แม้จะอ่อนระโหย ทว่าดวงตาของลิ่วลมเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เขาบีบมืออุ่นๆ ของน้องชายเอาไว้แน่น และล่องเมฆก็บีบมือเขาตอบ

“นายมาได้ยังไง”

“อะไรนะ” เสียงลมรอบกายดังเสียจนล่องเมฆแทบไม่ได้ยินที่ลิ่วลมพูด

“นายมาได้ยังไง” ลิ่วลมตะโกนแข่งกับเสียงลมอื้ออึง

“เรื่องยาว” ล่องเมฆตอบสั้นๆ “เอาไว้จะเล่าให้ฟัง”

“นี่ที่ไหน…” ลมแรงปะทะใบหน้า ลิ่วลมพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเองบ้าง

เขาถูกน้ำพัดเข้าไปในโพรงถ้ำ ศีรษะกระแทกเข้ากับหินจนเกิดแผลฉกรรจ์ ทั้งที่มีชูชีพ แต่เขาเกือบจะดิ่งจมลงไปในน้ำแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนารีญาประคองเอาไว้

“แล้วคนอื่นๆ…”

“คนอื่นๆ ปลอดภัยดี” ล่องเมฆตอบ

“แล้ว…” ลิ่วลมกำลังจะถามอีก

“นี่ใช่ไหม” ล่องเมฆยกกระบอกโลหะให้พี่ชายดู

“เฮ้อ” ลิ่วลมถอนใจยาว เมื่อเห็นว่ามันยังอยู่ดี

“มันคืออะไร” ล่องเมฆถามพี่ชาย

“เรื่องยาว” ลิ่วลมตอบแบบเดียวกัน “เอาไว้จะเล่าให้ฟัง”

“เป็นไงบ้าง” ล่องเมฆเป็นห่วง “ยังเจ็บไหม”

“เจ็บ” ลิ่วลมว่า “นึกว่าจะตายไปแล้ว”

“นายมันกระดูกเหล็ก” ล่องเมฆว่า “ไม่ตายง่ายๆ หรอก”

“อย่าประมาทนะ” ลิ่วลมหมายความเช่นนั้นจริงๆ “ความตายไม่ได้ไกลตัวเราเลยสักนิด ต้องมีสติตลอดเวลา”

“เดี๋ยวก็โอเคแล้ว” ล่องเมฆว่า “เรากำลังพานายไปโรงพยาบาล”

“ไปโรงพยาบาล” ลิ่วลมนอนอยู่บนตักของน้องชาย

เขาพยายามผงกศีรษะขึ้นมองไปรอบๆ แล้วก็พบด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าตนเองกำลังพุ่งผ่านเมฆไปก้อนแล้วก้อนเล่า สายลมเย็นๆ พัดผ่านหน้า เส้นผมของเขาปลิวกระจาย เสื้อผ้าที่ก่อนหน้านี้เปียกน้ำจนชุ่ม แห้งสนิทแล้ว

“อย่าเพิ่งลุก” ล่องเมฆกดพี่ชายเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนนะ…นี่มัน” ลิ่วลมเห็นแล้ว

เขาถึงกับอ้าปากค้าง

“ไม่นะ…ฉันกำลังฝันอยู่ใช่ไหม” ลิ่วลมเสียงสั่น แทบจะลืมอาการป่วยของตนเองไปในตอนนั้น

“เปล่า” ล่องเมฆว่า “นายไม่ได้ฝัน…มันคือเรื่องจริง”

“กรรรรรร”

สัตว์ตัวใหญ่ส่งเสียงคำรามทักทาย

เสียงของมันกึกก้องราวเสียงฟ้าร้อง

ลิ่วลมรู้สึกว่าตนเองกำลังแหวกไปในอากาศอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งจะรู้สึกในตอนนั้นเองว่า ตนเองกำลังอยู่บนหลังสัตว์ตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องบิน เสียงลมแรงที่ดังหวีดหวิวอยู่รอบกาย แท้จริงแล้วเกิดจากสัตว์ตัวนั้นกำลังกระพือปีกบิน

“กรรรรรร” เสียงของมันยังร้องดังลั่น

“มะ…มัง…มังกร”

ลิ่วลมเสียงสั่น

เขาเห็นสิ่งที่ตนเองกำลังขี่อยู่บนหลังชัดแล้ว…หน้าตาของมันดูน่ารักและน่ากลัวระคนกัน

ดวงตาของมันกลมใหญ่ มีหนวดยาวโค้ง จมูกมีควันพ่นออกมาเป็นจังหวะตามลมหายใจ ริมฝีปากหนาแลเห็นเขี้ยวสีขาวสะอาด

และมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ลำคอของมังกร

มือของเธอถือเชือกที่มีลักษณะคล้ายบังเหียนควบคุมทิศทาง

“พัลเดน – Palden”

หญิงสาวผู้นั้นหันมาตะโกนบอก

“ขอแนะนำให้รู้จักกับ…พัลเดน ไอ้ตัวเล็กแห่งหุบเขาเลือดมังกร…”



Don`t copy text!