พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 33.1 : โลกนี้มีสิ่งเหนือฝัน

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 33.1 : โลกนี้มีสิ่งเหนือฝัน

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

เสียงลมพัดแรง เรือนผมของเขาปลิวกระจาย อากาศเย็นกำลังดี ไม่ถึงกับหนาว ลิ่วลมเคยได้ยินตำนานและเทพนิยายมามากมาย แต่ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะ…มังกร

มังกรที่เคยได้ยินในนิทานสมัยเด็กๆ

ใครจะเชื่อว่าตอนนี้เขากำลังอยู่บนหลังมังกร…ตัวเป็นๆ

แผ่นหลังของ ‘ไอ้ตัวเล็ก’ นั้นกว้างพอที่คนสองคนจะนั่งได้อย่างสบายๆ โดยมีอีกหนึ่งคนนั่งอยู่บริเวณลำคอ ล่องเมฆบอกเขาว่าเธอชื่อยังเชน หญิงสาวที่พาล่องเมฆไปทำวิจัย

ยังเชนแต่งกายทะมัดทะแมง ท่าทางประเปรียว ดวงตาคู่คมของหญิงสาวมองไปข้างหน้า เธอสวมหมวกและแว่นคล้ายกับนักบิน

ลิ่วลมเห็นบางจังหวะยังเชนจะก้มลงไปกระซิบอะไรบางอย่างกับมังกร แล้วมังกรก็จะส่งเสียงร้องเบาๆ พร้อมกับพ่นเปลวไฟออกมาทางจมูก

ดูจากท่าทางแล้ว ลิ่วลมบอกได้ว่าทั้งสอง…คนและมังกร มีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง พัลเดนเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ตัวหนึ่งของยังเชน หาใช่มังกรตัวใหญ่ยักษ์ไม่

ถึงตรงนี้ อาการอ่อนล้าเริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาอีกวาระ

ลิ่วลมรู้สึกปวดหน้าอกทุกครั้งที่ขยับตัว กระเทือน หรือไอ ยังเคราะห์ดีที่แผลบนศีรษะนั้น เลือดหยุดไหลแล้ว

เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ทว่าพัลเดนยังคงกระพือปีกคล่องแคล่ว ยังเชนบังคับให้มังกรร่อนลงบนภูเขานอกเมือง เพราะถ้ามีคนเห็นมังกรบินร่อนอยู่บนท้องฟ้า จะพากันแตกตื่นไปเสียเปล่าๆ

และถ้าเกิดมีใครบังเอิญถ่ายภาพได้ จะยิ่งเกิดความวุ่นวายไปกันใหญ่

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีคนเห็น ล่องเมฆจึงหลับตา รวบรวมสมาธิสร้างกลุ่มเมฆหนาหนักขึ้นมารายล้อมอยู่รอบกายพวกเขา พัลเดนพาทุกคนร่อนลงมาที่เนินเขาด้วยความราบรื่น ล่องเมฆประคองพี่ชายของเขาลงมาจากหลังมังกร ขณะที่ยังเชนลูบหัวของพัลเดนพร้อมกับเอ่ยชมเชย ลิ่วลมเห็นมันใช้หัวถูกับมือของหญิงสาวไปมาราวกับเป็นลูกสุนัขตัวน้อยๆ

“ไม่อยากเชื่อเลย…ว่าฉันจะได้ขี่มังกร” ลิ่วลมยังพึมพำ ดวงตาจ้องมองมังกรตัวยาวด้วยความสนใจ

“รีบไปเถอะ” ล่องเมฆรู้ว่ายังเชนคงไม่อยากให้พัลเดนอยู่แถวนี้นานเกินไป เขาหันไปทางหญิงสาวแล้วเอ่ยเสียงหนักแน่นว่า “ขอบใจมากนะยังเชน”

“ไม่ต้องขอบใจฉัน” เสียงของยังเชนแฝงร่อยรอยหงุดหงิด “คุณก่อเรื่องไว้เยอะ…พอพี่ชายของคุณปลอดภัยแล้ว…คุณกับฉันต้องมาเคลียร์กันอีกหลายเรื่อง”

“ผมยอมทุกอย่าง” ล่องเมฆพูดอย่างจริงใจ “ที่หนีออกมาก็เพราะจะช่วยลิ่วลม ถ้าเขาปลอดภัยแล้ว…ผมจะยอมทำทุกอย่างที่คุณต้องการ”

“เอาไว้ค่อยว่ากัน” ยังเชนกระโดดขึ้นหลัง ‘ไอ้ตัวเล็ก’

ล่องเมฆยกมือขึ้นโบกเหนือศีรษะ สร้างกลุ่มเมฆให้คลุมอยู่รอบกายมังกร เมื่อห่อหุ้มไอ้ตัวเล็กเรียบร้อย ยังเชนก็พามันบินกลับไป

“พัลเดนเป็นมังกรที่สวยมาก” ลิ่วลมพึมพำ

“พัลเดนเป็นภาษาภูฏาน…แปลว่าไอ้ตัวเล็ก” ล่องเมฆอธิบาย “พัลเดนเป็นมังกรตัวสุดท้ายของภูฏาน…อาจจะตัวสุดท้ายของโลกก็ว่าได้ ครอบครัวของทินเลย์จึงช่วยกันปกป้องมันเอาไว้จากโลกภายนอก”

“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม” ลิ่วลมเข้าใจทุกอย่างในตอนนั้น “ที่นายจำเป็นต้อง ‘หายตัว’ ไป”

“ใช่” ล่องเมฆพยักหน้า “ตอนไปเก็บตัวอย่างสมุนไพร นอกจากพบดอกอุทุมพรแล้ว ฉันยังพบกับพัลเดนโดยบังเอิญ พอยังเชนรู้เข้า…เธอเลยขอให้ฉันอยู่ที่นี่”

“แล้วทำไมนายไม่บอกฉัน” ลิ่วลมถาม

“ไม่มีโอกาส” ล่องเมฆตอบสั้นๆ “ยังเชนให้ฉันสวมหมวกใบหนึ่ง และพลังจิตของฉันถูกควบคุมเอาไว้ด้วยหมวกใบนั้น”

“แล้วที่ยังเชนพามันออกมาวันนี้…” ลิ่วลมพึมพำ “เสี่ยงมากนะ”

“ใช่ เสี่ยงมาก…ยังเชนไม่เคยพาพัลเดนออกมาปรากฏตัวแบบนี้มาก่อน เพราะถ้ามีคนมาเห็นเข้า อาจเกิดเรื่องวุ่นวาย” ล่องเมฆถอนใจ

“แต่นายก็สร้างเมฆคลุมตัวมันเอาไว้” ลิ่วลมเงยหน้ามองฟ้า มีก้อนเมฆสีขาวสะอาดก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง กำลังลอยสวนทิศทางลมไปอย่างน่าอัศจรรย์

“ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนสังเกตหรือเปล่าว่ามันไม่ใช่เมฆปกติ…” นัยน์ตาของล่องเมฆฉายความกังวล

“หวังว่าจะไม่มี” ลิ่วลมพึมพำ ทว่าใจนั้นก็อดจะกังวลไปถึงคนจาก Linn Plant Company ไม่ได้

พวกมันมาที่นี่เพราะดอกอุทุมพรเท่านั้นหรือ…

“ฉันนับถือน้ำใจของยังเชนเลยนะ…เพราะถ้าไม่ใช้วิธีนี้ นายคงเดินลงมาที่ซัมเซไม่ไหวและอาจจะตายไปเสียก่อนระหว่างทาง” ล่องเมฆว่า ขณะที่ลิ่วลมเริ่มรู้สึกปวดหัวและปวดเนื้อตัวมากขึ้น ตัวของเขาร้อนจัดเพราะไข้ขึ้นสูง

“มีรายละเอียดเรื่องนี้เยอะมาก…ตอนนี้ไปหาหมอกันก่อน…เอาไว้ฉันจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง”



Don`t copy text!