พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 39.2 : ปะทะ

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 39.2 : ปะทะ

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

แต่บางครั้ง แผนบางอย่างที่วางเอาไว้ดีแล้วก็อาจจะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะหนึ่งในคนร้ายหันมาเห็นกลุ่มของเชวังเข้าเสียก่อน

ปัง

เปรี้ยง

พวกมันกระหน่ำยิงใส่ผู้มาใหม่โดยไม่มีสัญญาณเตือน อังเดรที่กำลังเดินตรวจตราเพื่อหาตัวลิ่วลมหันกลับมา เขาหยิบระเบิดออกมาจากเป้ จุดชนวนแล้วขว้างใส่พวกของเชวังทันที

ครืนนนน

โครมมมม

บึ้มมมมม

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และล่องเมฆสัมผัสได้ถึงผืนดินที่สะเทือนเลื่อนลั่น

ดอกอุทุมพรที่ขึ้นอยู่ในทุ่งกว้างถูกแรงระเบิดจนกลีบกระจัดกระจาย ดอกสีขาวทรงระฆังค่อยๆ ทยอยกันเหี่ยวเฉาลง ก้านดอกสีเขียวสดพับหักลงทันใด

สงคราม การทำลายล้าง ความโลภ จิตใจที่มืดบอดของมนุษย์ คือพิษร้ายที่ทำให้ดอกไม้ทิพย์เหี่ยวเฉา

ครืนนนน

โครมมมม

บึ้มมมมม

ระเบิดลูกที่สองถูกโยนตามมา และมันตกลงห่างจากกลุ่มของเชวังไปนิดเดียว

“กรี๊ด” เสียงอัญญาวีร์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อสะเก็ดระเบิดกระเด็นใส่แขนของเธอจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์

เลือดสดๆ ไหลซึมออกมาอย่างรวดเร็ว อัญญาวีร์พยายามกัดฟันอดทนและยกมือขึ้นกดเลือดห้ามเอาไว้ ขณะที่นารีญาถูกแรงระเบิดจนเสียหลักล้มกลิ้ง ร่างโปร่งบางของเธอกลิ้งหลุนๆ ลงมาจากเนินเขา

“รีญา” ยังเชนตะโกน และกระโดดตามลงไปอย่างรวดเร็ว เธอพุ่งตัวไปและพยายามเอื้อมมือไปคว้านารีญาหากไม่ทัน และตัวยังเชนเองก็พลอยเสียหลักกลิ้งตามลงไปอีกคน

พวกคนร้ายเห็นดังนั้น ก็วิ่งตรงมากลุ้มรุมจับตัวนารีญาและยังเชนเอาไว้

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” นารีญากรีดร้องเมื่อหนึ่งในนั้นลากตัวเธอถูลู่ถูกังไป ขณะที่อีกสองคนช่วยกันหิ้วปีกยังเชนตามไป

“อยากตายหรือไง” ฝรั่งคนที่จับนารีญาตวาด “หุบปาก…โอ๊ย…”

มันร้องลั่นเมื่อนารีญากัดแขนของมันสุดแรง

“เก่งนักเหรอ นี่แน่ะ” มันตบหญิงสาวจนกระเด็นล้มลง และอัญญาวีร์ส่งเสียงกรีดร้อง เมื่อเห็นหลานสาวถูกทำร้าย

ยังเชนเองก็ไม่ยอมแพ้ เธอใช้พละกำลังสะบัดคนร้ายที่จับเธอจนคนหนึ่งกระเด็นไปอีกทาง ขณะที่อีกคนชกเข้าที่ท้องของหญิงสาวเต็มแรง

“อั้ก…” ยังเชนจุดจนพูดอะไรไม่ออก ขาสองข้างอ่อนแรงทรุดฮวบลง

ล่องเมฆเห็นดังนั้นก็แทบจะพุ่งตามลงไปด้วยความเจ็บใจ แต่ชายหนุ่มบอกตัวเองให้ใจเย็น พวกมันยังมีอาวุธอีกหลายอย่างรวมทั้งระเบิด  ถ้าไม่วางแผนให้ดีนอกจากช่วยหญิงสาวทั้งสองไม่ได้แล้ว ที่เหลือก็จะพากันตายหมดทุกคน

“ปล่อยฉัน ปล่อยยังเชนเดี๋ยวนี้นะ” นารีญายังกรีดร้อง

“รีญา…” อัญญาวีร์หันไปทางเชวัง “เชวัง ช่วยรีญาด้วย”

“ใจเย็นก่อนนะ” เขาว่า “คุณเป็นยังไงบ้าง”

เลือดที่แขนของอัญญาวีร์ยังไหลซึม จนผ้าที่ใช้กดแผลเปียกชุ่มไปด้วยเลือด

“ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง คุณไปเถอะ”

เชวังหันไปมองอัญญาวีร์ด้วยอาการละล้าละลัง หญิงสาวย้ำด้วยการโบกมือให้เขาเป็นทำนองว่าไม่ต้องห่วง เชวังเห็นดังนั้นจึงส่งสัญญาณให้เยชิ คินซา และลูกหาบที่เหลือแยกย้ายกระจายกำลังออกเป็นวงกว้าง ค่อยๆ ขยับหาเป้าหมายตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง

“เรียกมังกรออกมา”

อังเดรตะโกนก้อง ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจจะเอาลิ่วลมเป็นตัวประกันแล้ว ได้ผู้หญิงสองคนนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ อังเดรใช้ปืนจ่อหัวนารีญาเอาไว้ ขณะที่ทิมโมธีใช้ปืนจ่อหัวยังเชน

“หรือจะให้ผู้หญิงสองคนนี้ตาย”

เขาลดมือลงและยิงปืนลงไปบนพื้นดินตรงหน้า กระสุนเฉียดปลายเท้าของนารีญาไปนิดเดียว

“กรี๊ด” หญิงสาวร้องดังลั่นด้วยความตกใจ

ลิ่วลมหลบอยู่ไม่ไกลจากนั้น เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

ภาพที่ปรากฏตรงหน้า เหมือนในนิมิตไม่มีผิด

สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้

เสียงปืน กลิ่นคาวเลือด

เสียงกรีดร้องของอัญญาวีร์ และนารีญาที่กลิ้งกระเด็น…

ต่างกันตรงที่เชวัง เขายังไม่เห็นเชวังตกลงมาจากที่สูง…

ชายหนุ่มนึกเป็นห่วงนารีญาจับใจ เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวด้วยความยากลำบาก เพราะเจ็บหน้าอกที่ถูกอังเดรเตะ ซี่โครงของเขาหักบริเวณนั้นพอดี และอังเดรก็เตะเขาจนสุดแรง  แต่ความเป็นห่วงนารีญาทำให้ลิ่วลมอดทนและค่อยๆ ขยับไปทางด้านหลังของพวกมันช้าๆ อังเดรและพวกมัวแต่จ้องมองเชวังจนไม่ทันสังเกตทางด้านหลัง

จังหวะเดียวกันนั้นเอง ที่ล่องเมฆตัดสินใจหลบออกไปจากกลุ่ม เขายกมือขึ้นเหนือศีรษะ รวบรวมสมาธิ พยายามสร้างเมฆฝนขึ้น

แม้จะมีความสามารถพิเศษ สร้างลม สร้างฝนได้ แต่ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่างตามใจต้องการ หากมันยังขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมในตอนนั้นด้วย การจะสร้างเมฆฝน อากาศในบริเวณนั้นต้องมีไอน้ำในบรรยากาศ มีความชื้นสัมพัทธ์มากพอ

เขาพยายามจนเหงื่อผุดพรายขึ้นบนหน้าผาก หากไม่สามารถก่อเมฆได้สำเร็จตามที่ต้องการ

แต่แล้วจู่ๆ ล่องเมฆก็เห็นก้อนเมฆดำทะมึนเคลื่อนตัวมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเมฆฝนก็แผ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อากาศยังปลอดโปร่ง ท้องฟ้ายังกระจ่างใส

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องกึกก้องกัมปนาท

สายลมพัดแรงราวกับพายุ

และล่องเมฆได้แต่เหลือบมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ

เพราะพายุนี้…เขาไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้น…

 



Don`t copy text!