พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.1 : ความทรงจำเหมือนม่านหมอก

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.1 : ความทรงจำเหมือนม่านหมอก

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“เชวัง…รอฉันด้วย” อัญญาวีร์พยายามวิ่งสวนกับผู้คนที่เบียดเสียดเพื่อเข้ามาคารวะรูปปั้นท่านคุรุ พอหลุดออกมาได้ก็ไม่พบชายผู้นั้นแล้ว

แดดสุดท้ายของวันทอดแสงลำสุดท้ายลงมาตกต้องยอดอนุสรณ์สถาน อีกไม่นานราตรีก็จะแผ่ปกคลุมรอบบริเวณ หัวใจของอัญญาวีร์ยะเยือกเย็นหมือนกับบรรยากาศโดยรอบ

“น้าอัญกำลังมองหาใครอยู่หรือคะ” นารีญาเดินกลับมาพอดี เห็นท่าทางของน้าสาวแล้วอดจะประหลาดใจมิได้

“เอ้อ…”

อัญญาวีร์ชะงักไปนิดหนึ่ง ไม่รู้จะอธิบายเรื่องของผู้ชายที่เธอคิดว่าเป็น ‘เชวัง ทินเลย์’ ให้หลานสาวฟังอย่างไร

“น้าเจอผู้ชายคนหนึ่งในอนุสรณ์สถาน คงจะจำคนผิดน่ะ”

“อ้อ” นารีญาพยักหน้า แล้วก็หมดความสนใจไปเพียงเท่านั้น

ลิ่วลมเดินตามมาสมทบ ชายหนุ่มมองคนนั้นทีคนนี้ที สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย หากทั้งอัญญาวีร์และนารีญาไม่ได้เล่าอะไรให้เขาฟัง คินซาเดินกลับมาพอดี เธอชวนทุกคนเดินทางกลับโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารมื้อเย็น

ร้านอาหารในทิมพูมีไม่มากนัก เพราะคนภูฏานไม่นิยมกินข้าวนอกบ้าน ส่วนมากแล้วพอเลิกงานทุกคนจะกลับไปกินข้าวกับครอบครัวมากกว่า

ส่งลูกทัวร์เสร็จเรียบร้อย คินซาก็ขอตัวแยกกลับไป พร้อมกับนัดหมายเวลาที่จะมารับวันรุ่งขึ้น ไกด์สาวบอกว่าจะพาไปซื้อข้าวของที่จำเป็นก่อนจะออกเดินทางไปซัมเซ

“ฉันขอเช็ครายละเอียดการเดินทางอีกทีนะคะ” สีหน้าคินซาดูเป็นกังวล “พรุ่งนี้จะคุยรายละเอียดให้ฟัง เราอาจจะต้องปรับแผนนิดหน่อย”

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ลิ่วลมถาม

“เมื่อสักครู่ เพื่อนของฉันส่งข่าวมาว่า คืนก่อนที่พวกคุณจะมาถึง มีหินถล่มลงมา ถนนเสียหายใช้การไม่ได้ เราอาจจะต้องเปลี่ยนเส้นทาง” คินซาพึมพำ

“เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิคะ” นารีญาว่า “ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“เป็นค่ะ” คินซาถอนใจ “มีอีกหนึ่งเส้นทางที่เราจะไปซัมเซได้ แต่เส้นทางจะอ้อมกว่าเดิม นั่นหมายถึงว่าเราต้องใช้เวลามากขึ้นเกือบหนึ่งสัปดาห์”

“หนึ่งสัปดาห์ก็หนึ่งสัปดาห์” นารีญาว่า “สนุกดีออก”

“ดูคุณเป็นกังวลจังเลยนะคินซา” อัญญาวีร์กลับไม่คิดเหมือนหลานสาว “มีอะไรก็บอกเราตรงๆ ได้นะ”

“ถ้าจะรอให้ซ่อมถนนเสร็จ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน เพราะฤดูกาลนี้จะก่อสร้างอะไรค่อนข้างลำบาก”

แม้จะพ้นฤดูหนาวไปแล้ว แต่บ่อยครั้งก็เกิดมีพายุหนักโดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนมาก่อน การก่อสร้างอะไรก็ตาม จึงมักจะต้องรอให้ถึงฤดูร้อนที่แน่ใจแล้วจริงๆ ว่าจะไม่เจอฝน

“ครั้นจะเปลี่ยนเส้นทาง…เราต้องเดินผ่าน Nyalalum – นยาลาลัม…ป่าใหญ่ที่น่ากลัว”

“นยาลาลัม” อัญญาวีร์นิ่วหน้า

…ครั้งหนึ่ง ใครคนนั้นเคยเล่าถึงป่านี้ให้เธอฟัง…

“ป่าที่มี…” อัญญาวีร์สบตาคินซา พร้อมกับพึมพำเสียงแผ่ว

“ใช่” คินซาพยักหน้า “ป่าที่มีปีศาจร้ายสิงสถิตย์อยู่…หากไม่จำเป็นแล้ว พวกเรา…คนภูฏานก็มักจะหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางผ่านป่าแห่งนั้น”

คิโซเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย หากทว่าคำพูดของไกด์สาวกลับทำให้ทั้งลิ่วลมและนารีญาขนลุกเกรียวด้วยความประหวั่น

“เอาไงดีค่ะ” นารีญาหันไปหาน้าของเธอ

“ฉันขอเช็คข่าวให้ชัวร์ๆ ก่อน” คินซาตัดสินใจแทนทุกคน “ถ้าที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง เราเดินทางด้วยเส้นทางปกติไม่ได้…ฉันจะหาทางที่ปลอดภัยที่สุด พาพวกคุณไปถึงซัมเซให้จงได้”

 

อาหารค่ำที่โรงแรมวันนี้เป็นบุฟเฟต์ หน้าตารสชาติคล้ายกับอาหารอินเดีย ผสมกับอาหารไทย มีแกงคล้ายมัสมั่น รับประทานกับข้าวสวยและโรตี

เพราะอาหารอร่อยประกอบกับความหิวทำให้ทั้งลิ่วลมและนารีญารับประทานกันด้วยความเอร็ดอร่อย ไม่ทันได้สังเกตว่าอัญญาวีร์ดูไม่เจริญอาหารเท่าที่ควร

หลังจากรับประทานเสร็จเรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างก็แยกกันไปพักผ่อนที่ห้องพักของตัวเอง ลิ่วลมนอนเดี่ยวเพราะเป็นผู้ชายคนเดียว ส่วนอัญญาวีร์และนารีญาสองน้าหลานนอนห้องเดียวกัน

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย นารีญาพบว่าน้าของเธอยังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงเก้าอี้ตัวเดิม ผิดปกติวิสัยเป็นอย่างมาก

“น้าอัญโอเคไหมคะ” นารีญาเป็นห่วง

“โอเค” อัญญาวีร์พึมพำ

“ผู้ชายคนนั้นใช่ไหมคะ” นารีญานึกเชื่อมโยงทุกอย่างได้อย่างว่องไว “เชวัง…นามสกุลอะไรนะ”

“ทินเลย์” อัญญาวีร์ถอนใจเบาๆ “เชวัง ทินเลย์”

“เล่ามาเดี๋ยวนี้ เขาคือใคร” นารีญาสั่งอัญญาวีร์

เธอกับน้าสาวสนิทสนมกันมากเสียจนนารีญากล้าจะพูดเล่นด้วยได้

มารีอา มารดาของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่นารีญายังเล็ก อุบัติเหตุครั้งนั้นคร่าชีวิตบิดาของหญิงสาวไปด้วย อัญญาวีร์เป็นคนเลี้ยงดูหลานสาวมาตั้งแต่นารีญาอายุได้สิบสอง ตอนที่น้าสาวออกเดินทางเพื่อไปทำงานวิจัยที่ต่างประเทศ อัญญาวีร์จะพานารีญาไปอยู่กับคุณจันทราผู้เป็นยาย

“เขา…” อัญญาวีร์ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

“ใช่ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่าน้าอัญ” นารีญาเริ่มคุ้นๆ “คนที่ได้ทุนมาเรียนต่อที่เมืองไทย…ยายบอกว่าน้ากับเขาชอบกัน แล้วอยู่ๆ เขาก็หายตัวไปเลย”

“เอ้อ…” อัญญาวีรไม่รู้จะตอบหลานอย่างไร

“ใช่แน่” นารีญาเห็นท่าทางของน้าแล้วยิ่งมั่นใจ “หนูเริ่มนึกออกแล้ว”

“น้าก็แค่แปลกใจ ไม่คิดว่าจะได้พบเขาอีก” อัญญาวีร์หลับตานิ่ง

เชวัง ทินเลย์…

นายแพทย์หนุ่มชาวภูฏาน เขาได้ทุนจากรัฐบาลไปเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางที่เมืองไทย

แต่ก่อนจะเรียนต่อเฉพาะทางได้ เชวังจะต้องเรียนภาษาไทยเสียก่อน ดังนั้น เขากับอัญญาวีร์จึงรู้จักกัน และความทรงจำนั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำของเธอ…

 



Don`t copy text!