ขอบฟ้าจรดขอบน้ำ บทที่ 5 : การรักการเรียน

ขอบฟ้าจรดขอบน้ำ บทที่ 5 : การรักการเรียน

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

ขอบฟ้าจรดขอบน้ำ บทสรุปของความรักที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ของสมุทรไทและบนฟ้าจากปลายปากกาของกฤษณา อโศกสิน ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ได้จบลงแล้ว คุณผู้อ่านสามารถสั่งซื้อได้จาก 2 ช่องทางคือ ทางเว็บไซต์ของ GROOVE > http://groovepublishing.lnwshop.com และ  ทางกล่องข้อความ GROOVE > m.me/read.groove.publishing

***************************

– 5 –

 

ปันเป็น ‘ตี๋’ ค่อนข้างมีบุคลิกผึ่งผายมากกว่าใคร ได้แก่เรือนร่างสูงใหญ่ บ่าหนา รูปหน้าสี่เหลี่ยมแลเห็นชัดด้วยผมตัดเกรียน ปุญคนรองผู้ยืนเกาะบ่าบนฟ้าอยู่ข้างหลัง…ที่เขาแลเห็นแวบหนึ่งเมื่อครู่ วินาทีเดียวก็รู้ว่าคือน้องชาย เพียงแต่เตี้ยกว่าบางกว่า

ทุกคนคล้ายคลึงกันทั้งปู่ย่าพ่อแม่ หลานชาย

เว้นหลานสาวหนึ่งเดียวผู้ลุกขึ้นสวมกอดพี่ทั้งสองพลางอ้อนเชิงฟ้อง

“เพื่อนพี่ปันเขาคงของขึ้นชั่วคราว เลยยังมาไม่ถึง” น้องของพวกพี่ๆเจรจา “เขาคงติดตังอยู่ที่บาร์เซซักสองวันละมัง หรือไม่ก็…อือ…หนูก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาคิดยังไง…ก็คือเขาแยกตัวไปตั้งแต่ขึ้นบกแล้วละ”

ขณะที่ฟังน้องเล่า พี่ชายก็เอาแต่ขมวดคิ้วนิดๆเพราะนึกไม่ออกว่าเกิดผิดคิวอันใด

“ถ้างั้น…พี่ไปทำงานละนะ…ปันไปก่อนนะฮะปู่ย่า เดี๋ยวต้องเข้าประชุมแล้ว” ดังนั้นพี่คนโตจึงตัดบทเนื่องจากชักนึกรู้ว่าเรื่องคงยาว

ปู่ของเขาก็เลยพยักหน้า

ชีวิตนี้ไม่มีสิ่งใดหนักหนาเท่า ‘เข้าประชุม’ กับ ‘ต้อนรับลูกค้า’ เพื่อก้าวไกลและก้าวทันทุกเหลี่ยมคูของทุกเทคโนโลยีที่กำลังไหลบ่าเข้ามาอย่างท้าทาย โดยต้องบริหารคำว่า ‘รุ่งเรือง’ ให้ไร้คำว่า ‘พลาดพลั้ง’

คนทั้งสี่ออกไปแล้ว ปู่จึงหันมาทางสมุทรไท

“ไม่ต้องไปกลัวอะไรมันหรอกนะไทนะ…ปันน่ะ…มันก็งั้นเอง…คือเราเป็นคนค้าขาย…มันก็แค่พี่ชายคิดแทนน้องสาว…มันก็แค่นั้น…เอ้า…กินให้จบๆจะได้คุยต่อ”

“จริงของปู่” สาวสวยเคียงข้างเอาใจ พลางเอนใบหน้าเข้ามาอิงไหล่เขาอย่างฉอเลาะ “พี่ไทไม่ต้องเลยนะ…ไม่ต้องกลัวอะไรพี่ปันเลย…ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนนี้…”

พลางเจ้าตัวก็หมุนนิ้วหัวแม่มือให้หันเข้าหาทรวงอกพร้อมบิดริมฝีปากเด็ดเดี่ยว

แต่ยังไม่ทันไร เสียงมือถือของชายหนุ่มก็ดัง

“มาอีกแล้ว” คราวนี้น้องบนส่งเสียง “สงสัยจะแม่ยาเยียอะไรนั่นแน่ๆ…แต่ตานี้หนูไม่ยอมแล้วนะ…”

หากเมื่อทำท่าจะคว้าเครื่องมือของเขา ปู่กับย่าก็ปรามขึ้นเกือบพร้อมกัน

“หนู…ไม่เอานะลูก…ไม่ทำแบบนี้…” คำของปู่เคร่งขรึม

“นั่นน่ะซี…อย่าเลยลูก…พี่เขาจะเบื่อหนูซะเปล่าๆ”

เท่านั้นเอง ‘หนู’ ของปู่ย่าก็น้ำตาคลอ…สมกับที่ใจคอไม่ดีมาสองวัน

สมุทรไทก็เลยต้องขอโทษคนปลายสาย

“เดี๋ยวพี่ค่อยโทร.กลับนะฮะ”

นั่นไง…บนฟ้าได้ยินคำเขาเต็มสองหู

หากเมื่อเขากดปิดมือถือหันมา แลเห็นน้ำเต็มตาน้องบน ก็เลยบอกเรียบๆ

“ที่จริง เขาก็เป็นน้องเพื่อนเหมือนน้องนี่แหละ จริงไหมครับคุณปู่”

“ก็ใช่อยู่แล้วไท…ถึงไงก็ต้องเห็นแก่โย” ผู้อาวุโสบอกเนือยๆอย่างเริ่มกลุ้ม

หนุ่มดีดีหายาก…ประธานนึกในใจ…เพียงแต่เจอเข้าคนก็เลยลนลานแย่งกัน

แม้แต่ย่าเองก็อึ้งอั้น ฝ่ายปรายกำลังคิดหนัก นั่นก็เนื่องด้วยลงทุนชักเชิดแล้วเชียวนา

หมายใจจะนำน้ำไปจรดกับฟ้า แต่มิทันสมปรารถนาก็เกิดเหตุ

เป็นเหตุที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไป

ดังนั้นจึงบอกกล่าวเพื่อนรัก ต่อหน้าคนทั้งสามให้รู้แล้วรู้รอด เนื่องด้วยเป็นคนไม่ชอบลับลมคมใน

“ไท…เอางี้ดีกว่าไหม…มึงยังไม่ต้องตัดสินใจก็ได้ว่าผู้หญิงสองคน มึงชอบคนไหนแน่…เพราะน้องกูเอง ถึงรักแสนรักกูก็ไม่การันตี เดี๋ยวจะหาว่ากูกันท่า เก็บมึงไว้ให้น้อง…”

เพียงแต่หลานพูดถึงตรงนี้ ทั้งปู่ย่า สมุทรไท บนฟ้า ต่างก็ขำขันคำของเขา

“พี่ปรายก็ตล๊กตลก” หญิงสาวว่า อารมณ์พลอยดีขึ้น ขณะที่สมุทรไทยิ้มๆอย่างสนุกตามกันไป

“ปรายดีอย่างครับคุณปู่คุณย่า…พอจะเกิดวิกฤตเขาก็มักจะพลิกให้เป็นโอกาสได้เรื่อยๆ”

“ก็กูเป็นนักธุรกิจสปอร์ต ไม่เอาเปรียบมึงไง…ไม่ดีเหรอ…ให้เวลามึงเลือก…เลือกนานหน่อยก็ได้ กูไม่ว่า” พี่ชายของน้องสาวก็เลยบอกยิ้มๆ “ดูจนมึงแน่ใจ จะได้ไม่เอามาส่งคืนวันหลัง”

ย่าฟังแล้วหัวเราะกิ๊ก

“กูไม่กลัวอะไรเท่ากลัวมึงเอาน้องมาคืน” ครั้นแล้วนักธุรกิจสปอร์ตก็พยักพเยิด “มึงโทร.หาหนูเยียได้…น้องบนอย่ายุ่งกับไท หนูเยียก็เป็นน้องเพื่อนพี่เหมือนกัน”

น้ำขอบตาที่แห้งไปเมื่อกี้ กลับวิ่งรี่ขึ้นมาใหม่

“เขาไม่มีสิทธิ์คุยกับไทหรอกหรือน้อง ขืนไปหวงเจ้านี่ไว้ ก็ใช่ว่าถึงบ้านแล้วมันจะไม่โทร.ไป” ปรายถามไถ่ต่อหน้า “ไงๆก็ให้มันคุยกันตรงนี้แหละ…คุยไปเลย ไท…ดีไม่ดี…ชวนกันไปอิตาลีก็ยังได้ จะได้ไปคุยต่อ”

แต่น้องบนน่ะหรือจะทนได้ หล่อนก็เลยเดินไปซบหน้าอยู่กับบ่าย่า ใช้เสื้อย่าเช็ดน้ำตา

“ถึงไงก็ห้ามมึงหลงตัวเองนะ” เพื่อนของเขาประกาศ ทำท่าเด็ดขาด หากแววตาก็ยังยิ้ม “ถ้าหลง…คงรู้กัน”

สมุทรไทจึงเอ่ยชม

“ยกนิ้วให้มึงเลยปราย…ไหนจะคิดงานใหญ่ให้บริษัท ไหนจะเจียดเวลามาสนใจเรื่องเบาๆเขย่าลูกคอ” ว่าพลางเขาก็มองข้ามไปยังดวงหน้าบนบ่าผู้สูงวัย “คุณปู่คุณย่าก็อย่าเชื่อปรายมากเลยฮะ…ผมกับน้องบนก็ยังไม่รู้ใครหมู่ใครจ่า”

ปู่กับย่าฟังแล้วได้แต่ยิ้มกว้าง

แต่ยังไม่ทันไร มือถือของปรายก็ดัง เจ้าตัวผู้กำลังทำท่าใหญ่จึงฮัลโหล

“ว่าไงน้องเยีย”

ผู้กำลังซบอยู่กับบ่าย่า เงยหน้าขึ้นทันควัน

เราว่าเราก็แน่คนหนึ่งแล้ว ยังมีที่แน่กว่า…มันจะได้ยังไง

นึกพลางจึงนั่งตัวตรง เงี่ยหูฟัง

สมุทรไทมองแล้วก็เอ็นดู

น้องบนแก่กว่ายาเยียสี่ปี แต่ทีท่าที่แสดงเหมือนอ่อนกว่า

เด็กคนนั้นวาจาแหลมคม ท่าทางจะรอบจัดไม่ใช่เล่น คงเป็นก้างขวางคอตัวร้ายมิให้พ่อมีเมียใหม่ ซึ่งพ่อก็คงตามใจ

แต่จะแอบกินในที่ลับหรืออย่างไรก็อีกเรื่อง

“พี่กำลังทำงานหรือทานข้าวคะ…”

“ทานข้าวเพิ่งเสร็จครับ…น้องมีอะไรด่วนอ๊ะป่าว” อีกฝ่ายลากเสียงพลางหลิ่วตากับสมุทรไท

“พี่ว่างไหมล่ะคะวันนี้”

“ไม่ว่างได้ไง…ดีแค่ไหนแล้วที่ตื่นได้…ว่าแต่น้องเถอะ เหตุไฉนไม่หลับไม่นอน กะจะตะลอนไปไหนอีก”

“พี่โยไปทำงานแล้วค่ะ หมดวันลาพอดี นี่น้องยังอยู่บ้าน เพิ่งทานข้าวเสร็จ แต่พ่อออกไปแล้ว” ปลายเสียงพลอยตวัดหน่อยๆเมื่อเอ่ยต่อ “สงสัยคงมีนัด เอาของฝากไปให้ใครบางคน”

“หนูน่า-า-า” ปรายก็เลยปราม “ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพ่อก็ได้นี่นา…พ่อก็รักหนูออก…”

“แล้วนี่หนูมาหาพี่ได้ป่าว มีใครอยู่มั่งตอนนี้”

“ก็มี…ปู่ย่า น้องบน นายไท…”

“หนูนึกแล้ว-ว-ว” อีกฝ่ายลากเสียงยาว พลางนิ่งคำนึง ครั้นแล้วจึงบอก “งั้นหนูมาหาพี่เดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ”

“ได้ซี…ทำไมถึงจะไม่ได้ ว่าแต่ว่ามาถูกไหมเท่านั้นแหละ”

“พี่โยบอกแล้ว…บ้านพี่หายากงั้นหรือคะ” เด็กสาวย้อนถาม

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ยาเยียก็เข้ามาปรากฏตัวในห้องอาหารที่ทุกคนยังนั่งคุยกัน กะใช้ครึ่งวันบ่ายทอดอารมณ์สบายภายหลังเดินทางไกล

“สวัสดีค่ะคุณปู่คุณย่า พี่ไท พี่บน” ผู้มาใหม่ตรงเข้าไปกราบถึงตักบุพการีของปรายด้วยท่าทางที่ผู้มองไม่คาดฝัน ครั้นแล้วจึงหันไปไหว้อีกสามคน ต่อจากนั้นจึงนั่งลงถัดจากสมุทรไท ทำไม่รู้ไม่ชี้กับสีหน้าเริ่มบึ้งของหญิงสาวผู้ยังนั่งเบียดอยู่กับย่า “พอดีหนูมีเรื่องอยากปรึกษาพี่ๆน่ะค่ะ…”

“เรื่องการเรียนหรือการรักล่ะ” ปรายก็เลยถามหลังจากนั่งลงข้างปู่

เจ้าตัวได้แต่หัวเราะชอบใจ…นัยน์ตาโตสุกใสเป็นประกายฉายรับรอยสำรวล

“แหม-ม…” สาวน้อยลากเสียง “ถ้าปรึกษาแบบนี้ก็ต้องการเรียนซีพี่”

“แล้วการรักล่ะ ตั้งใจปรึกษาใคร” ปรายทำท่ารุกไล่อย่างสนุก

ปู่กับย่าจึงเพลินฟังเพลินดู

อยากรู้เหมือนกันว่าคนรุ่นใหม่นี่อย่างไรกันแน่…ลำพังน้องบนคนเดียวก็เอาใจกันแทบแย่ทุกวัน…รุ่นใหม่อื่นจะขนาดไหน คล้ายหลานหรือยิ่งกว่า

ท่าทางน้องของโยธีนี่ก็ดูไม่จืด

“พี่อยากให้ปรึกษาพี่ไหมล่ะคะ”

นั่นไง…ย่านึกในใจ…มันปล่อยลูกกระสุนออกมาแล้ว

 



Don`t copy text!