ซ่อนรัก บทที่ 8 : เหตุผล

ซ่อนรัก บทที่ 8 : เหตุผล

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

 

วิศว์ตื่นเช้าและลงมาทานอาหารเช้าในโรงแรม

อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ เขาเลือกกาแฟ ขนมปังปิ้งทาแยมกับเนย แฮม เบคอน และไข่กวน

ตรงข้ามนั้น ปารีสก็มาทานอาหารเช้าด้วย ของปารีสเป็นแค่นมสดแก้วหนึ่งกับขนมปังปิ้ง

หญิงสาวทานน้อยมาก มากจนไม่ใช่ปารีสคนเดิมที่กินเก่งมากทั้งที่ตัวเล็กนิดเดียว

เงียบกันนาน

เมื่อคืนต่างคนต่างได้นอนทบทวนความสัมพันธ์

ความคิดต่างกันแน่นอน และต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง

“คุณพูดอะไรบ้างสิคะ” ปารีสทนความเงียบไม่ไหว ในขณะที่ชายหนุ่มทานอาหารเงียบๆ

เขาเงยหน้าเลิกคิ้ว

“คุณควรเป็นฝ่ายพูด”

“ฉัน?”

“คุณต้องมีเรื่องพูดมากกว่าผม”

“ใช่ค่ะ…ใช่…ค่ะ…ค่ะ…ค่ะ” ลงท้าย “คะ?”

“ผมฟังอยู่”

“ฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรให้ถูกใจคุณ อย่างไรก็บอกความจริงกับคุณพ่อไม่ได้เด็ดขาด ถึงคุณจะโกรธฉันก็ไม่ขอแก้ตัว พ่อต้องผ่าตัด”

“ถึงท่านไม่ผ่าตัด คุณก็จะไม่พูดความจริงอยู่ดี”

“เอ้อ…คือว่า…พ่อยังปลื้มอุเทนอยู่ ฉันต้องถนอมจิตใจท่าน”

“แล้วผม?”

“คุณต้องรับให้ได้นะคะ”

วิศว์พยักหน้าช้าๆ

“คุณคิดว่าผมเป็นคนใจแคบเรอะ”

ประโยคนี้ทำให้หญิงสาวต้องเลิกคิ้ว

“คุณ?”

ชายหนุ่มถอนหายใจยาว

“ผมคิดมาทั้งคืน และเข้าใจเหตุผลของคุณ ผมไม่ใช่คนเอาแต่ใจ บอกตามตรง กลับกัน ถ้าเป็นผม ผมก็อาจทำแบบคุณ”

ปารีสยกมือทาบอก

“ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมคะ”

“เอาเป็นว่าผมเข้าใจคุณ ถึงผมจะรู้สึกส่วนลึก แต่ผมต้องยอมรับการตัดสินใจของคุณให้ได้”

หญิงสาวถอนใจยาว

“คุณทำให้ฉันกังวลแทบตาย เมื่อคืนนอนไม่หลับ”

“ผมก็ไม่แพ้คุณหรอก”

“จริงๆ แล้ว เรามีเรื่องคุยกันมากมายนะคะ เพราะเราแต่งงานกันเร็วไป และแต่งกันแบบรวบรัด แค่แลกแหวน”

“คุณไม่พอใจใช่ไหม ที่ไม่ได้เป็นเจ้าสาว แต่งชุดเจ้าสาวหรู และมีภาพแขกมาร่วมงาน มาร่วมยินดีกับเรา หรือมีทะเบียนสมรส ผมยอมรับและจะจัดชดเชยให้คุณในภายหลัง”

ปารีสปล่อยใจระลึกถึงวันนั้น ที่เวนิส

แลกแหวนแต่งงาน

สำหรับหญิงสาวคือความสมบูรณ์แบบแล้ว ถือว่าศักดิ์สิทธิ์แล้วกับชีวิตคู่ แต่…แต่…

“ฉันไม่ใช่คนติดหรูหรา หรือต้องการอะไรที่เป็นภาพลวงตา ภาพที่คนอื่นเห็น ฉันมองแค่คนสองคน เข้าใจกันก็พอ แต่…แต่…”

ยังมีเหตุผลและเงื่อนไขบางอย่างค้างคาในใจ

วิทย์โบกมือ

“เอาเป็นว่าผมจะเลิกน้อยใจคุณ ยอมรับเหตุผลของคุณก็แล้วกัน ผมไม่อยากให้ในช่วงที่เราแต่งงานกันมีอะไรมาขวางกั้น ทำให้พวกเราไม่มีความสุข ที่ผ่านมาหลายวัน ผมมีความสุขมากและอยากให้คุณมีความสุขด้วยเช่นกัน”

คำพูดของเขาควรทำให้หญิงสาวยิ้มได้ หากแค่โล่งใจได้ในระดับหนึ่ง แต่อีกแล้ว มันไม่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น

หากว่าอย่างน้อย ก็ขอให้ผ่านความรู้สึกตึงเครียดไปก่อน

ผ่อนคลาย…อย่างที่เขาอยากให้เธอเป็น

“เป็นตัวของตัวเองครับ”

“ค่ะ…ค่ะ”

“มันอาจยาก แต่คุณทำได้ เพราะที่ผ่านมาคุณทำให้ผมเห็นแล้ว”

“ฉันจะพยายามต่อไป”

คำว่า ‘พยายาม’ อาจจะสะดุดใจในความรู้สึกของชายหนุ่ม เขาพยายามเช่นกันจะไม่คิดมาก

ในเมื่อ ‘รัก’ แล้วก็ทุ่มเทกับรักเต็มที่

“ไปตักอาหารเพิ่มสิครับ”

“เอ้อ…”

“ผมรู้ว่าแค่นี้คุณไม่อิ่ม แล้วคุณทานน้อยผมไม่สบายใจ”

ปารีสฝืนยิ้มและลุกไปตักอาหารเพิ่มสำหรับมื้อเช้า

เร่งรีบมาหาเขาที่โรงแรมแต่เช้า แม้มารดาจะรั้งตัวไว้ให้ทานอาหารก่อนออก เธอก็ยังปฏิเสธมารดา และบอกว่าไม่ต้องรอจะกลับดึกมาก จะไปเดินเล่นในเมือง

ปารีส…เมืองใหญ่

ปารีส…ชื่อของเธอเอง

มีคนชมเสมอว่าชื่อเธอเก๋มาก เหมาะกับผู้หญิงสวยและเก๋ๆ อย่างหญิงสาว

หลังอาหารเช้า วิศว์กับปารีสไปเดินเล่นผ่านศูนย์การค้า ที่มีร้านค้าใหญ่ๆ

“คุณอยากซื้อแบรนด์ไหนไหมบ้างครับ”

ปารีสโคลงศีรษะ

“ไม่ละค่ะ แค่อยากซื้ออะไรเล็กๆ กระเป๋าใบเล็กๆ ใส่สตางค์ไปฝากเพื่อนรัก…ยัยวดีกับยัยทัย สองสาวที่คุณเห็นที่สนามบิน”

“ดีครับ เห็นเธอสองคนห่วงคุณขนาดนั้น”

“เราสามคนรักกันมาก และอยู่ห้องพักเดียวกัน”

“งั้นถ้าเรากลับเมืองไทย คุณจะย้ายออกยังไงครับ”

“คอนโดที่พวกเราอยู่ อยู่ใกล้ที่ทำงานมาก ตอนซื้อฉันซื้อเผื่อไว้แล้วอีกสองห้องค่ะ อยู่ชั้นเดียวกัน

“คุณซื้ออีกสองห้องเลยเรอะ”

“ห้องติดกันค่ะ และให้ช่างทำช่องเปิดถึงกันได้ ตอนซื้อตั้งใจว่า อีกห้องจะเผื่อแม่กับพ่อเวลามาพักที่เมืองไทย พ่อกับแม่ชอบความเป็นส่วนตัวเลยต้องเผื่ออีกห้องไว้ก่อน”

“คุณจะให้ผมย้ายไปอยู่กับคุณ?”

“คุณมีที่พักหรือคะ สำหรับเราสองคน” เธอย้อนถาม

วิศว์พยักหน้า

“ก็ถูกของคุณนะ ผมมีบ้านอยู่กับป้า แต่ไกลที่ทำงาน เลยพักกับบรม หุ้นส่วนและเพื่อนรัก สงสัยว่ากลับเมืองไทยครั้งนี้ต้องมองหาบ้านแล้วสำหรับเราสองคน”

“เราแยกกันอยู่ก็ได้นะคะ”

“ไม่ครับ ไม่…ผมจะไปอยู่คอนโดของคุณก่อน”

กล่าวพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มเล็กน้อย

เขาสามารถทำให้หญิงสาวหน้าร้อนผ่าวได้ ดีกว่าเธอจะไม่รู้สึกอย่างไรเลย

“เราเพิ่งแต่งงานจะแยกกันแล้วหรือครับ”

“คนที่เมืองไทยยังไม่รู้”

“หรือคุณต้องการพิธีการก่อน”

“คุณยังไม่รู้จักฉันอีกหรือคะ”

“เรารู้กัน…เรามีความสุขกัน ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจ ต้องการอะไร อย่างไรก็บอกผม”

“ค่ะ”

หญิงสาวมอบชีวิตให้เขาแล้ว…พี่ชายแสนดีที่เคยปกป้อง ช่วยชีวิตเธอในอดีต

หลังอาหารเช้า วิศว์กับปารีสเดินเล่นในเมือง

ปารีสเลือกซื้อของฝากเพื่อนรัก

วิศว์ก็เลือกซื้อและดูงานไปด้วย ศิลปะในยุโรปสวยงาม

คืนก่อนเขาได้โทร.คุยกับบรม และทราบว่า บรมรับงานด่วนไว้สำหรับวิศว์ คืองานออกแบบตกแต่งร้านเพชรร้านใหม่ รอให้วิศว์เที่ยวพักผ่อนก่อนจึงกลับมาทำงาน ลูกค้าระบุว่าให้ตกแต่งในรูปแบบยุโรป สวยงาม เข้าทางวิศว์พอดี เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ที่เห็น รวมทั้งสินค้าที่ชอบและสนใจ สั่งซื้อเพื่อเป็นของตกแต่งให้ลูกค้า โดยส่งไปถึงเมืองไทยเลย

วิศว์และปารีสแยกย้ายกันซื้อของ ผ่านไปสองชั่วโมงจึงกลับมาพบกันที่จุดนัดพบ สวนไม้ดอกงดงาม

ปารีสโชว์ของฝากเพื่อน พลางกล่าวว่า

“กระเป๋าใส่เศษสตางค์ใบเล็กๆ ค่ะ ไม่หนักกระเป๋าเดินทาง”

“สวยครับ”

“สีสดสำหรับยัยทัยแสนเปรี้ยว สีดำสำหรับยัยดีผู้เรียบร้อย แล้วคุณซื้ออะไรคะ”

“ส่วนใหญ่ผมจะให้ส่งไปเมืองไทยเลย ทั้งทางเครื่องบินและทางเรือ”

“คุณมาเที่ยวไม่เสียงานเลยนะคะ”

“ไม่เคยเสียงานครับ ครั้งนี้พิเศษที่สุดในชีวิต ได้เมียคนหนึ่งด้วย ชั่วชีวิตจะไม่ลืมการมายุโรปครั้งนี้”

เมีย…

วิศว์ใช้คำแสนธรรมดา การมีเขาอยู่ข้างๆ ทำให้ความรู้สึกของหญิงสาวดีขึ้นมาก ไม่งั้นเธอคงโดดเดี่ยวและเศร้าซึม

ปารีสพูดไม่ออก

วิศว์รอเธอพูดอะไรออกมาบ้าง แต่ก็ไม่พูด

ไม่เป็นไร เขาต้องเข้าใจเธอให้มากที่สุด และต้องเข้าใจทุกเรื่อง ทุกอารมณ์

“อ๋อ…ผมซื้อของที่ระลึกจากปารีสฝากคุณ”

“ค่ะ?”

“ไม่ใช่ของราคาแพงอะไรหรอก แต่มันทำให้ผมนึกถึงอดีตที่ประทับใจ”

อดีต…ประทับใจ

วิศว์คิดว่า เธอจะต้องชื่นชอบ ที่เขาตั้งใจเลือกอย่างสวยงามที่สุด คือพวงกุญแจรูปดาวประดับคริสตัล รูปแบบที่เห็นคล้ายกับกิ๊บติดผมเด็กน้อยวัยเจ็ดขวบในขณะนั้น

กิ๊บที่โดดเด่นบนผมของสาวน้อยน่ารัก

จุดเด่นที่เขาเห็นชัด และจดจำจนวันนี้

วิศว์ส่งให้เธอ

ทันทีที่เห็น ดวงตาของปารีสเบิกกว้าง

เบิกกว้าง…ภาพที่วิศว์เห็น หล่อนอาจตื่นเต้น ดีใจ

ไม่ใช่เลย…ไม่ใช่ เบิกกว้างเพราะตกใจ

ปารีสโยนพวงกุญแจทิ้งบนพื้นราวกับเป็นของที่น่าขยะแขยง

โยนทิ้ง!

และเดินหนีไปทันที

วิศว์ไม่เข้าใจ…ไม่เข้าใจจริงๆ เขาหยิบขึ้นมา และรีบเดินตามเธอ พอตามทันก็คว้าต้นแขน

“คุณปา หยุดก่อน คุยกันก่อน”

หล่อนสะบัดอย่างแรงจนหลุด ใบหน้าแดงก่ำ

“ปล่อยฉันนะ”

“คุณเป็นอะไรครับ”

“ไม่…ไม่…ฉันไม่อยากรับรู้แล้ว ไม่…ไม่…อย่าตามมานะ ฉันจะกลับบ้าน!”

“ผมไปส่ง”

“ไม่ค่ะ ฉันจะไปเอง”

“คุณปา!”

“อย่าตามมา!” หล่อนเน้นเสียงแข็ง

มันเกิดอะไรขึ้น

วิศว์ทำตามความต้องการของหญิงสาว ดูจากท่าทางปารีสเจ็บปวด และไม่สบายใจ มันต้องมีเหตุผลสิ แต่เธอคงไม่พร้อมจะอธิบาย จึงปล่อยหล่อนไป โดยเขาตะโกนไล่หลัง

“หวังว่าพรุ่งนี้ คุณจะกลับมาอธิบาย”

 

ปารีสเก็บตัวอยู่ในห้องจนมารดามาเคาะเรียก

“กินอาหารค่ำได้แล้ว…ลูก”

ปารีสลุกจากเก้าอี้อย่างยากเย็น มาเปิดประตูให้มารดา

“แม่คะ ปาไม่หิวเลย”

“เป็นอะไรลูก บอกว่าออกไปแต่เช้า จะไปซื้อของฝากกุลวดีกับหฤทัย กลับมาก็เก็บตัวเงียบ พ่อกับแม่คิดถึงแกมาก อยากคุยด้วย อยากใช้ชีวิตด้วยกัน พ่อ แม่ ลูก”

หญิงสาวเม้มริมฝีปาก

“ขอโทษค่ะ ปารู้สึกเพลียๆ อยากนอนพัก”

“ไม่สบายใจอะไร”

“เปล่าค่ะ”

“ครั้งนี้แกกลับมาไม่เหมือนเดิมนะ หวังว่าจะไม่ได้ทะเลาะรุนแรงกับอุเทนล่ะ”

“นิดหน่อยค่ะ”

“ให้พ่อกับแม่ช่วยแก้ไหม”

“อย่านะคะ ปาเคลียร์กับอุเทนได้ค่ะ”

“อุเทนเป็นคนดีมาก รักแกและรักพ่อกับแม่ด้วย อะไรนิดอะไรหน่อยอภัยให้กันเถอะ อย่ามัวแต่งอน แล้วตัวเองก็ไม่สบายใจ”

“ค่ะแม่…”

“แล้วกับคุณวิศว์นั่นล่ะ เขามีบุญคุณกับครอบครัวเราก็จริง แต่แกอย่าสนิทมากนัก อุเทนรู้ทีหลังอาจเข้าใจผิด ท่าทางอุเทนเป็นคนขี้หึงจะตาย”

“ค่ะแม่”

“คุณวิศว์ตอนเด็กเป็นอย่างไร เขาช่วยแกนะ แต่พอโตเราไม่รู้นิสัยใจคอเขาแล้ว ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ”

“ค่ะ…แม่” และมารดาอาจจะช็อกก็ได้นะ ถ้ารู้ว่าวิศว์เป็นลูกเขยของแม่แล้ว



Don`t copy text!