ซ่อนรัก บทที่ 29 : ย้ายมาอยู่ด้วยกัน

ซ่อนรัก บทที่ 29 : ย้ายมาอยู่ด้วยกัน

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

จิรานุชรู้สึกตัวเย็นวาบไปชั่วขณะ

มองจ้องผู้หญิงวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ วิศว์ และมองท่าทางกิริยาฝ่ายชายที่อ่อนโยนมาก

เธอ…เธอ…จริงๆ หรือ?

โสภา…โสภา…แม้ผ่านมายี่สิบกว่าปี ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงคนตรงหน้า อายุอานามก็คงราวห้าสิบ ห้าสิบเอ็ด ยังสวยไม่เปลี่ยนเลย

จิรานุอ่อนกว่าเกือบรอบ แต่ก็ยังดูไว้ใกล้เคียง

ตนไม่เคยลืมโสภา ไม่ลืม…

โสภากับวิศว์เป็นอะไรกัน?

สุภาพ กิริยา ท่าทาง รวมทั้งหน้าตา…หรือจะเป็น แม่ลูก!

โสภาสวยมาก วิศว์ก็หล่อมาก และหน้าตาคล้ายโสภาเหลือเกิน

ตั้งใจจะทักวิศว์ แต่เพราะผู้หญิงอีกคน ทำให้จิรานุชต้องเปลี่ยนใจไม่ทัก และไม่อยากให้ฝ่ายนั้นเห็นด้วยซ้ำ ได้แต่จ้องมองแอบมองตลอดเวลา

จิรานุชถามตัวเอง…จะทำอย่างไกับการพบโสภากระทันหันเช่นนี้ แถมยังรู้จักกับวิศว์อีก

ต่อไป…จะทำอย่างไร

โสภากับวิศว์เป็นอะไรกัน?

ไม่น่าถามโง่ๆ เลย ภาพก็เห็นแล้วว่าฝ่ายชายดูแลฝ่ายหญิงอย่างนุ่มนวล

ตั้งใจจะเฝ้ามองแต่ไม่ได้ เพราะตนต้องเข้าห้องตรวจแล้ว และพอออกมาจากห้องก็ไม่เห็นวิศว์กับโสภาอีก เพราะวิศว์ หลังจากพาโสภาเจาะเลือด ระหว่างรอผลเลือดก็พาป้าโสภากับน้านงไปทานอาหารในร้านอาหารโรงพยาบาล ซึ่งมีหลายร้านให้เลือก

จิรานุชมองหาพวกเขาไม่เจอ แม้พยายามจะสลัดภาพออก…แต่ก็ไม่อาจสลัดหลุด

 

วิศว์รอวันนี้มานาน…ถือว่านานหรือ ตั้งแต่จากกันที่ฝรั่งเศส และเขาบินกลับไทยก่อน

รอให้ปารีสดูแลบิดาที่ผ่าตัดหัวใจจนปลอดภัย

คนอย่างวิศว์มีเหตุผล แล้วเขาก็ได้อยู่กับเธอ

ชายหนุ่มวางกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ แค่ย้ายมาอยู่กับเธอก็พอใจแล้ว

วางแล้วก็โอบกอดที่ด้านหลังของหญิงสาว

ปารีสกำลังจะบอกว่าอะไรในคอนโดอยู่ที่ไหนบ้าง แต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะร่างที่แนบอยู่ด้านหลัง

“อุ๊ย”

“ผมคิดถึงคุณมากเหลือเกิน”

และเขาเริ่มจะซุกซน ซุกจมูกปากที่ซอกคอของหญิงสาว

“อย่าเพิ่งค่ะ…อย่า”

“ผมจะทนไม่ไหว”

“คุณเพิ่งย้ายเข้ามา”

“ผมรอวันนี้ เวลานี้ นับวันรอ”

“อย่านะคะ”

“ผมพร้อม…” และซุกซนหนักขึ้นทั้งจมูก ปาก และมือ แต่เธอก็ดิ้นมากเหลือเกิน

“ยังเช้าอยู่ เดี๋ยวเพื่อนๆ จะแวะมาดูว่าคุณย้ายเข้ามาเรียบร้อยหรือไม่”

เพื่อนๆ จะแวะมา ทำให้เขาหยุดได้ชั่วขณะ และบ่นพึมพำ

“มาทำไมกัน”

เธอหันมาเผชิญหน้ากับเขา

“ยัยวดีกับยัยทัยรู้ว่าวันนี้คุณย้ายมา วันนี้วันเริ่มต้นชีวิตคู่ เราเคยอยู่คอนโดนี้ และอยู่ชั้นนี้ แต่มุมด้านโน้น เดี๋ยวพวกเธอจะมาค่ะ มาพบคุณด้วย”

วิศว์ทำหน้าผิดหวังสุดๆ

“ผมอยากอยู่กับคุณตามลำพัง”

เธออมยิ้ม

“รู้นะ คิดอะไรอยู่”

“แหม…เราห่างกันมาตั้งนาน”

“สำหรับฉันไม่นานเลยค่ะ”

“สำหรับผมนานมาก…ก…ก…”

“อย่าเกเรสิคะ”

“อะไรกัน ผัวจะอยู่กับเมียตามลำพังสองต่อสองในห้องนอน เรียกว่าเกเรหรือครับ”

“คุณเพิ่งย้ายเข้ามา ทำความรู้จักกันก่อนสิคะ”

“ผมไม่อยากให้เพื่อนคุณแวะมาเลย”

“เพื่อนรัก เพื่อนตายของฉันนะคะ”

“ผมก็มีเพื่อนตาย ไม่เห็นมันอยากมาขัดคอผัวเมียเลย”

“คุณวิศว์”

“แหม…เรียกซะเสียงแข็ง”

“ปล่อยฉันเถอะค่ะ”

แม้เขาจะยอมหยุดซุกซน แต่ยังกอดเธอไว้ กอด…กอด…นัวเนียแต่ไม่จูบ

ฎกอดเมียก็ไม่ได้?”

“ปล่อยสิคะ จะได้คุยสะดวก”

วิศว์ทย์ถอนใจอย่างแสนเสียดาย
“ครับ…ครับ…แต่คืนนี้…” กำลังจะพูดด้วยแววตาแพรวพรายส่อเจตนาชัดเจน ยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

“เพื่อนๆ มากันแล้ว”

รีบเดินไปเปิดรับ กุลวดีก้าวเข้ามาคนแรก ตามด้วยหฤทัย และไม่จบที่คนที่สอง คนที่สามก็ก้าวเข้ามา บรมนั่นเอง

“เฮ้ย! ทำไมแกมาด้วย?” วิศว์ถามอย่างแปลกใจ

“ก็แกย้ายมาวันแรก ตอนแรกกันไม่ว่าง แต่พอดีลูกค้าเลื่อนกระทันหัน กันอยากมาดูบ้านใหม่ของแก แกบอกคร่าวๆ ว่าที่ไหน กันก็เลยมา ออกจากลิฟท์ก็เจอคุณวดีกับคุณทัยพอดีจึงเดินมาด้วยกัน” แล้วหันมาทางปารีสพูดว่า “ยินดีกับการเริ่มต้นสร้างชีวิตคู่ของคุณทั้งสองครับ”

ปารีสยิ้มแห้งๆ ไม่ใช่ว่าเขิน แต่รู้สึกแปลกๆ กับคำว่าชีวิตคู่

“ค่ะ…ขอบคุณค่ะ”

“พวกเราก็ยินดีจ้ะ” กุลวดีพูด “เสียดายว่าไม่มีงานพิธีในเมืองไทย เล่นแต่งกันเองที่เมืองนอก”

หฤทัยโพล่ง โดยที่ปารีสกำลังจะพูด แต่ถูกเพื่อนรักอีกคนแซว

“โอ๊ย…โรแมนติกจะตาย แต่งงานปลายปีที่ยุโรปในช่วงคนกำลังเฉลิมฉลอง บรรยากาศแสนจะสุดสวย อากาศหนาวเย็น หิมะโปรยปราย คิดแล้วก็อยากมีแบบแกบ้าง แต่งเมืองไทยไม่สำคัญหรอก สมัยนี้จัดงานทำไมให้สิ้นเปลือง ชอบๆ ก็อยู่กันเลย ฉันไม่เชย ฉันรับได้ และกำลังจะหาแบบแกด้วย” พูดไม่พูดเปล่าชายตามองบรม

กุลวดีร้องลั่น

“ว๊าย…แกพูดอะไร” โอ๊ยอย่าชัดเจนเกินไปสิ เพื่อนอายแทนนะ

หฤทัยเป็นประเภทกล้าได้กล้าเสีย อีกคนก็หัวโบราณ ไม่รู้คบกันเป็นเพื่อนสนิทได้อย่างไร

“เออ…เออ…พูดความจริงแน่ะสิ รู้สึกมีความสุขกับไอ้ปามันด้วย อาจเป็นปีใหม่ที่เริ่มต้นสวยงาม ได้แต่งงานกับคุณวิศว์ ได้รับรางวัลออกแบบอัญมณี เงินไหลมาเทมา ทิ้งอดีตได้อย่างงดงาม”

“พอเถอะให้ยายปาได้พูดบ้าง”

ปารีสยิ้มกับทุกคน

“รู้ว่าทุกคนหวังดี ก็ขอบใจมาก”

หฤทัยพูดกับวิศว์ว่า

“เราไว้ใจคุณนะ คุณวิศว์ ไอ้ปามันเป็นเพื่อนตายของเรา เป็นคนดีมาก คุณแน่ะโชคดีได้ครอบครองหัวใจของปา อย่าทำให้ปาเสียใจล่ะ เราเอาคุณตายจริงๆ”

อ้าว…ไปพูดข่มขู่เขาอีก กุลวดีรีบแก้แทน

“ทัยมันหมายถึง มันรักเพื่อนแน่ะค่ะ ถึงพูดอย่างนั้น”

“ผมรู้ครับ พวกคุณรักกัน ผมปลื้มแทนคุณปารีส มีเพื่อนอย่างพวกคุณ”

หฤทัยโบกมือ

“อย่าดีแต่พูดนะคุณวิสว์ พวกเราผิดหวังกับนายอุเทนมาคนแล้ว อย่าทำให้ยัยปาต้องเจ็บปวด”

กุลวดีสะกิดหฤทัย

“อย่าพูดถึงคุณอุเทนเลย มันเป็นอดีต”

“เพราะเป็นอดีตแล้ว ฉันจึงอยากพูดย้ำ เพื่อเพื่อน”

“แต่ปามันจะ…”

ปารีสพยักหน้ารีบพูดว่า

“อดีตคืออดีต พี่อุเทนเคยเป็นรุ่นพี่ที่ปาเคารพรัก แต่มันจบแล้ว…จบแล้ว”

“ไม่รู้จะพูดอีกทำไม” กุลวดีไม่สบายใจแทนเพื่อน “ต่อไปนี้ยัยปาจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิต วันอาทิตย์มีงานมอบรางวัล เชิญพวกคุณทุกคนไปงานนะคะ”

“ปามันเก่งนะ ออกแบบอันญมณีไม่ส่งประกวด เราส่งแทน ยังชนะเฉยเลย” หฤทัยพูดอย่างปลื้มใจแทนเพื่อน

ปารีสมองวิศว์สลับกับบรม เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองอมยิ้มในขณะที่กุลวดีกับหฤทัยพูดกัน

“คิดอะไรอยู่คะ?” ปารีสถามสองหนุ่ม และบรมพูดขึ้น

“เพื่อนคุณน่ารักดีครับ อยู่ใกล้เธอผมว่าไม่เหงาเลย ฟังอย่างเดียวก็เพลินแล้ว”

“คำพูดของพวกเธอแสดงถึงความจริงใจนะคะ เธอรักเพื่อน”

“ครับ เพื่อนแบบนี้รักษาไว้นะครับ”

“พวกเราสามคนรักกันมาก”

“นี่…นี่…นินทาอะไรฉัน?” หฤทัยหันมาทางปารีสกับบรม

บรมพูดกับหฤทัยทันที

“ผมกำลังชมว่าคุณน่ารัก”

“จริงหรือคะ ชมบ่อยๆ ก็ได้ ชมต่อหน้าก็ดีนะคะ”

“คุณเปิดเผยและจริงใจนะครับ”

“อ๋อ…เฉพาะกับเพื่อนเท่านั้นค่ะ”

“แล้วถือว่าผมเป็นเพื่อนคุณหรือเปล่าล่ะ”

หฤทัยอมยิ้ม มีแววตาเป็นประกาย

“แล้วแต่คิดค่ะ”

ส่วนปารีสหันมาสบตากับวิศว์ แล้วเหมือนจะพูดด้วยแววตาว่า

เพื่อนฉัน เพื่อนคุณรู้สึกจะสนิทกันได้ไม่ยากเลย

และแล้วบรมก็พูดขึ้น

“ผมขอดูบ้านใหม่ของไอ้วิศว์หน่อย” เขาเดินสำรวจ โดยมีหฤทัยเดินแนะนำ

“ก็คอนโดล่ะค่ะ ที่จำกัด แต่ปามันซื้อสองห้องติดกัน เลยดูกว้าง ถ้าเปิดตรงนี้” ชี้ไปที่ทางเชื่อมสองห้อง เป็นประตูเลื่อนบานใหญ่ และมีฉากกั้น ฉากเป็นรูปดอกไม้ มองดูงดงามถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องชิ้นหนึ่งที่มีราคาแพงทีเดียว

เลื่อนฉากเข้ามุม และเลื่อนบานประตูออกกลายเป็นห้องใหญ่ทันที

“แต่อีกห้องปาซื้อให้พ่อแม่เวลามาอยู่ด้วย เวลามาเมืองไทยจะได้สะดวกและเป็นสัดส่วนค่ะ”

“เออดีครับ เวลาผัวเมียทะเลาะกัน จะได้แยกห้องเลย” บรมพูดติดตลก แต่ไม่เห็นมีใครจะตลกด้วย เงียบงัน จนบรมต้องรีบพูดอีกว่า “ผมพูดเล่นครับ ผมกับไอ้วิศว์ก็พูดเล่นกันประจำ”

กุลวดีกล่าวว่า

“วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตคู่ของคุณวิศว์กับปลา เราควรพูดคำพูดแบบมงคล…มงคลหน่อยนะคะ”

“เชยอีกแล้ว เชยอีกแล้ว เพื่อนเรา” หฤทัยตอนแรกก็เงียบงัน แต่สุดท้ายก็เข้าข้างบรมเห็นๆ “ลิ้นกับฟันมันต้องมีกระทบกันบ้างล่ะ ผัวเมียคู่ไหนไม่ทะเลาะกันเลยบ้างล่ะ”

วิศว์กับปารีสได้แต่อมยิ้ม

กุลวดีมองซ้ายมองขวาแล้วพูดขึ้น

“สงสัยเราจะรบกวนคู่เข้าใหม่ปลามันมากเกินไป แวะมาดูเพื่อนแล้วก็กลับกันได้แล้วค่ะ”

วิศว์รอประโยคนี้มานาน

รีบๆ กลับไปเถอะครับ

“นี่…นี่…เราอยู่ชั้นเดียวกัน ถ้ามีอะไรก็แวะไปได้นะคะ แล้วเราจะแวะมากวนบ่อยๆ” หฤทัยตั้งใจพูดกวนวิศว์

“ยินดีต้อนรับครับ” วิทย์พูดยิ้มๆ

“แหม…พูดแบบกัดฟันนะคะ”

วิศว์โบกมือไล่บรม ไล่บรมก็เท่ากับไล่สองสาวกลายๆ

“กลับได้แล้ว รู้จักคอนโดเพื่อนแล้ว”

บรมหัวเราะอย่างรู้ทัน

“เออ…เออ…กลับแล้วโว้ย” แล้วกระซิบข้างหูเพื่อน “แล้วอย่าข้าวใหม่ปลามันจนลืมไปทำงานล่ะ”

ไปกันแล้ว…ทั้งเพื่อนวิศว์และเพื่อนปารีส พอประตูปิด ปารีสก็ถามวิศว์

“คุณบรมกระซิบอะไรคะ?”

“กระซิบว่า…” ไม่ตอบแต่ใช้การกระทำแทน โอบกอดหญิงสาวอย่างแนบแน่น และเริ่มซุกซนรุกรานอย่างหนัก

“คุณวิศว์…”

ปารีสคงห้ามไม่ได้แล้วล่ะ

“ผมรอชีวิตคู่แบบนี้มานาน…”

ได้อยู่ด้วยกัน…ได้เป็นครอบครัว เขารุกหนักจนหญิงสาวก็อ่อนระทวย ในฐานะเมีย เธอต้องทำหน้าที่ เช่นเดียวกับวิศว์ เขาก็ทำหน้าที่ ‘สามี’ ได้อย่างสมบูรณ์

เขาดันเธอไปที่เตียงอย่างช้าๆ อย่างเนิบนาบ แต่มีจังหวะเหมาะสมจนเธอไม่สามารถต่อต้าน

เมื่ออยู่บนเตียงว่าง เธอก็เปลือยเปล่าด้วยการกระทำช้าๆ ของฝ่ายชาย

ปารีสไม่คิดอะไรแล้ว

นี่…คือการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างแท้จริง…แท้จริง จริงหรือ ในเมื่อการแต่งงานรู้กันแค่สองคนกับเพื่อนอีกสามคนเท่านั้น แต่ปารีสไม่คิดอะไรแล้ว ปล่อยตัวปล่อยใจให้วิศว์นำเธอไป…ไปสู่ความสุขสม

 



Don`t copy text!