พรางพัสตรา บทนำ : ห้องเจ้าสาว

พรางพัสตรา บทนำ : ห้องเจ้าสาว

โดย : พงศกร

พรางพัสตรา นวนิยายออนไลน์เรื่องล่าสุดโดย พงศกร ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์ เมื่อผ้าคลุมผมเจ้าสาวไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในชุดเจ้าสาว แต่คือสิ่งที่นำ ‘ลดานิดา’ ไปเห็นบางสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม ความรักของเขาคือความจริงหรือความลวง ผ้าคลุมผมเจ้าสาวนี้มีคำตอบ

***************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

ตอนเริ่มเก็บสะสมผ้าเมื่อหลายปีก่อน ภุมรีไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งผ้าเก่าแก่ที่เธอค่อยๆ เก็บสะสมเรื่อยมา จะมีมากมายจนกระทั่งสามารถเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ได้

และในวันแรกที่เปิดพิพิธภัณฑ์ ภุมรีก็ไม่เคยคิดว่าจะขยายใหญ่โตจนมีห้องมากมายอย่างในวันนี้เช่นกัน

เริ่มต้นจากความรักความชอบส่วนตัวล้วนๆ

ชีวิตที่เต็มไปด้วยการเดินทางทำให้ภุมรีมีโอกาสได้เห็น ได้สัมผัส ได้สะสมผ้าจากนานาประเทศ มีร่องรอยของชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เลยรวมไปถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแต่ละชาติแฝงเร้นอยู่บนลวดลาย แต้มเติมอยู่บนผ้าทุกผืน และนั่นทำให้ผ้าเป็นมากกว่าเครื่องนุ่งห่มธรรมดา หากทว่าเป็นบันทึกทางสังคมที่ดีเสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าใดๆ

จากลุนตยาสีกุหลาบผืนแรกที่เพื่อนสนิทชาวเมียนมาร์มอบให้ มาจนถึงผ้าผืนล่าสุดที่เพิ่งได้มา ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต้องขอบคุณแทนไท สามีที่รักและตามใจเธอทุกอย่าง

แทนไทไม่เคยขัดภรรยา ไม่ว่าผ้าโบราณผืนนั้นจะมีประวัติน่ากลัวแค่ไหน ตรงกันข้าม เขาสนับสนุนหล่อนในทุกทางที่สามารถทำได้ และวันหนึ่งเมื่อแทนไทเห็นว่าคอลเลคชั่นผ้าของภุมรีมีมากมายจนเต็มห้อง เขาก็ตัดสินใจสร้างพิพิธภัณฑ์ให้เธอ แถมยังจ้างภัณฑารักษ์ส่วนตัวมาอีกหนึ่งคน

ไม่เฉพาะผ้าโบราณเท่านั้น หากภุมรียังเก็บสะสมเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เกี่ยวข้องกับการแต่งกายของสตรีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปิ่นปักผม ผ้าคลุมไหล่ ถุงมือ ผ้าเช็ดหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย

และแน่นอน…ทุกชิ้นล้วนแต่มีประวัติไม่ธรรมดา

หลายปีผ่านไป ผ้าและของสะสมก็เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเพตรา…ภัณฑารักษ์สาวที่ทำงานกับเธอมานานปีจนรู้ใจ เสนอว่าถึงเวลาที่จะต้องต่อเติมอาคารและแยกห้องจัดแสดงผ้าเป็นกลุ่มๆ ได้แล้ว

เพตรา…

สะกดด้วย พ.พาน ไม่ใช่ ภ.สำเภา ที่แปลว่าเรือ

เธอบอกว่าได้ชื่อนี้เพราะพ่อขอแต่งงานกับแม่ที่เพตรา…เมืองโบราณในหุบเขาของประเทศจอร์แดน

นอกจากชื่อแปลกแล้ว ชื่อของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งคนนั้นยังคล้ายกับเพกาหลานสาว และหญิงสาวทั้งสองยังหลงใหลในของเก่า ชื่นชอบวัตถุโบราณเหมือนๆ กัน อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ ภุมรีจึงถูกใจเพตราตั้งแต่เมื่อแรกที่ได้พบ

เธอเห็นด้วยกับข้อเสนอของเพตรา จัดพิพิธภัณฑ์เป็นห้องแยกแบบนั้น น่าจะดีกว่าการจัดทุกอย่างให้รวมอยู่ภายในห้องเดียว และแทนไทก็โทรเรียกสถาปนิกให้มาจัดการต่อเติมอาคารหลังเก่าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ภุมรีจะทันตัดสินใจเสียอีก

แทนไทสั่งให้ต่อเติมพิพิธภัณฑ์และขยายใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว เพตราสนุกกับการจัดแสดงเสื้อผ้าและผ้าโบราณแยกออกเป็นภูมิภาค

หญิงสาวออกแบบให้มีห้องผ้าเอเชียแปซิฟิก ห้องผ้ายุโรป ห้องผ้าอเมริกา ห้องผ้าแอฟริกา และห้องพิเศษที่แยกย่อยออกมาตามประโยชน์ใช้สอย อย่างเช่นห้องเจ้าสาวที่ภุมรีกำลังนั่งอยู่…ห้องนี้…

กรุ่นหอมของกุหลาบสดอวลตลบ

เป็นกุหลาบอังกฤษสีสวยหวานที่แทนไทสั่งตรงมาจากยุโรปทุกวัน เพตราจะมีลิสต์รายการส่งให้เลขานุการของแทนไท เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะได้รับดอกไม้ตามที่ต้องการในเช้าวันรุ่งขึ้น เพตราจัดดอกไม้ให้เข้ากับธีมหลักของทุกห้อง แน่นอน…สำหรับห้องเจ้าสาว ดอกไม้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกุหลาบ…

ทุกเช้าหลังจากดูแลสามีให้รับประทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปทำงานเรียบร้อย ถ้าตัวเองไม่ต้องออกไปไหน ภุมรีจะมานั่งในพิพิธภัณฑ์ ดื่มกาแฟและอ่านหนังสืออย่างมีความสุข บางวันเพตราก็มานั่งอยู่ด้วย แล้วสตรีสองวัยก็จะเริ่มสนทนากันถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างถูกคอ จนบางครั้งเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงโดยไม่รู้ตัว

ปกติแทนไทจะแวะมาหาเธอที่พิพิธภัณฑ์ในตอนบ่ายเกือบทุกวัน หากช่วงสองปีที่ผ่านมา เขากำลังมีโปรเจ็คต์ใหม่เป็นการทำวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเซลล์และความแก่เฒ่า จึงไม่ค่อยมีเวลาในช่วงบ่ายมากเหมือนเดิม เขาเคยชวนเธอให้แวะไปที่สถาบันซึ่งเขาก่อตั้งขึ้นมาหลายครั้ง แต่ภุมรีไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนั้น

วิทยาศาสตร์กับภุมรีแล้วเหมือนจะเป็นศาสตร์คนละสาขา เป็นความสนใจคนละด้าน แต่เธอเชื่อมั่นในตัวของแทนไท อะไรที่สามีคิดแล้วว่าดี หมายความว่ามันต้องดีจริงๆ

ดวงตาคู่สุขุมของภุมรีมองไล่เรื่อยไปตามข้าวของชิ้นต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในห้องเจ้าสาวด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังกันขึ้นมา

อบอุ่น อมยิ้ม หวานหอมไปกับความรักของเจ้าสาวแต่ละคน

ทอดถอนใจ ขื่นขมไปกับเส้นทางของเจ้าสาวอีกไม่น้อย

โดยเฉพาะของสามชิ้นที่ภุมรีเพิ่งได้มาเมื่อไม่นาน…

ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ที่ทำจากลูกไม้ถักมือ…ของเก่าจากเวนิส อายุกว่าหนึ่งร้อยปี

หมวกหงส์มังกรสีแดงสด ของเจ้าสาวคนหนึ่งจากเซี่ยงไฮ้…

และ มงกุฎเจ้าสาวเปอรานากันหรือบ่าบ๋าย่าหยา…จากมะละกา

สามเจ้าสาว สามสตรีผู้ประสบกับเรื่องราวสุดแสนมหัศจรรย์เกินกว่าใครจะคาดคิด

สามเจ้าสาว….ที่ภุมรีอาจจะกล่าวได้ว่า

พวกเธอคือ…เจ้าสาวต้องสาป…



Don`t copy text!