พลิกรักทำนายใจ บทที่ 5 : ความลับสุดยอดของอริสา

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 5 : ความลับสุดยอดของอริสา

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

ในห้องนอนซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ท้องฟ้าหลังกระจกใสยังเป็นสีน้ำเงินเข้มเนื่องจากยังไม่ใกล้รุ่งสาง ในวันเสาร์หลังลุยงานมาทั้งสัปดาห์อย่างนี้ ถ้าเป็นยามปกติดวงศิริคงตื่นสักสิบเอ็ดโมง แต่ครั้งนี้หญิงสาวตั้งใจตื่นแต่เช้ามืดเพราะมีเรื่องสำคัญเข้ามารบกวนจิตใจ

ดวงศิริเปิดไฟในห้องเป็นสีนวลอบอุ่นเพียงสลัว คุกเข่าลงตรงโต๊ะข้างเตียง

โต๊ะข้างเตียงที่อื่นอาจวางโคมไฟ ตุ๊กตา กรอบรูป ง่ายกว่านั้นอาจวางรีโมตแอร์ หรือนาฬิกาปลุก แต่สำหรับดวงศิริแล้ว โต๊ะข้างเตียงของเธอจัดเป็นมุมแสนพิเศษที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มนตร์ขลัง

โต๊ะไม้หน้ากว้างราวโต๊ะเขียนหนังสือแต่เตี้ยเสมอเตียง ด้านบนปูด้วยผ้าขนสัตว์เทียมสีครีม มีชั้นวางทรงต้นไม้ทำจากโลหะเคลือบสีทองเหลืองรมดำ ปลายกิ่งไม้แต่ละกิ่งเป็นทรงถ้วยเล็กๆ ใช้จัดวางหินมงคล

ชั้นบนสุดวางหินไหมทองจักรพรรดิลูกกลมใหญ่ ในยุคทุนนิยมนี้ สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็ต้องเงินทอง ความมั่งคั่งร่ำรวย

ชั้นรองลงมาตั้งรูปสลักนางฟ้าทำจากหินโรสควอตซ์สีชมพูใส น้องนางฟ้าองค์น้อยจะได้ช่วยคุ้มครองความรักของเธอกับพุฒิพงศ์ให้มั่นคงแน่นแฟ้น

ชั้นที่สามวางหินยูนาไคต์ อาเกต และลาพิส ลาซูลี รวมมิตรยอดฮิตเรื่องโชคลาภ โชคดี ลอตเตอรี่กับหวยออนไลน์ที่ซื้อไว้ทุกครึ่งเดือนจะได้ถูกกับเขาสักที

ปลายกิ่งอีกด้านแขวนสร้อยข้อมือทรงประคำทำจากหินแบริล เป็นหินแห่งปัญญา ความโชคดี และช่วยคุ้มครองการเดินทาง หินกลมสีพาสเทลโทนม่วง ชมพู เหลือง ร้อยเรียงกันเป็นเส้น น่ารักราวลูกกวาด บางวันที่นึกอยากแต่งตัวสไตล์สีสันสดใส เธอก็หยิบสร้อยหินแบริลมาสวมเป็นเครื่องประดับ

ที่โคนต้นไม้หินมงคลวางกล่องไพ่ทาโรต์สามสำรับกับไพ่ออราเคิลอีกสองสำรับ ในแต่ละกล่องมีหินมงคลหลากชนิดใส่ไว้เพื่อล้างพลังงาน หญิงสาวจุดเทียนหอมมงคลกลิ่นโรสวูด แสงจากเปลวเทียนส่องกระทบเกล็ดหินมงคลในตลับเทียนหอม ดูลึกลับเรืองรอง

ดวงศิริเรียกมุมนี้ว่า มุมมหาเวท รวมไอเทมมงคลที่เธอชอบ อยู่ใกล้แล้วอุ่นใจเหมือนมีพลังงานด้านดีคอยส่งเสริม

หญิงสาวกางโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กตรงหน้ามุมมหาเวท เธอรวบผมลวกๆ ตั้งสมาธิ สับไพ่ แม่หมอในชุดนอนพร้อมสำหรับการทำนายแล้ว

“พี่มิ่งจ๋า หวานทำงานพิเศษอะไรดี”

หนึ่ง…ไลฟ์ขายเสื้อผ้ากับเขาบ้าง

เลือกไพ่มาสามใบได้ ห้าถ้วย เก้าถ้วยกลับหัว และจบด้วยห้าเหรียญ

“โห ไม่เหมาะอย่างแรงเลยเหรอ เราไม่เหมาะกับการเป็นนางแบบขนาดนั้นเลย ทำไมล่ะ”

เปิดไพ่ขยายหนึ่งใบ ได้จักรพรรดินีกลับหัว

คนเป็นแม่หมอก็หน้าตึงทันใด เหล่มองไพ่อย่างขัดใจ

ไพ่ผู้หญิงที่ดีที่สุดในสำรับ มหารานีเหนือราชินีทั้งปวง บอกถึงอุดมสมบูรณ์พูนสุข ความเป็นแม่ เป็นผู้หญิงอบอุ่น แต่พอได้ไพ่กลับหัวในหัวข้อคำถามว่าทำไมไม่เหมาะกับการเป็นนางแบบ ก็แปลเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า เพราะเธออ้วน

ลองลูบไล้ตัวเองผ่านชุดนอนผ้าฝ้าย ส่วนที่ควรจะโค้งค่อนไปทางแบนราบ ส่วนที่ควรจะเว้ากลับเต็มแน่นเกือบออกเป็นชั้นอยู่แล้ว จะว่าไม่รู้ตัวว่าช่วงนี้อ้วนขึ้นก็โกหก แต่พี่ไพ่มิ่งมงคลก็ไม่น่าจะดับฝันกันขนาดนี้เลยนี่นา

“พี่มิ่งใจร้าย เชอะ”

สอง…ขายของออนไลน์

พลิกเปิดไพ่ได้ สามเหรียญ หกเหรียญ และพระราชาถือถ้วย

แปลว่าทำได้เรื่อยๆ ต้องสต็อกสินค้าค่อนข้างเยอะ แต่มีคนสนับสนุนช่วยเหลือ ใครคนนั้นคือพระราชาถือถ้วย ชายหนุ่มที่เป็นผู้ใหญ่อบอุ่นใจดี

“คิงถ้วยมาอีกแล้ว”

ดวงศิริหวนนึกถึงดวงรายปี เรื่องการเงินที่ว่าจะลำบากก็มีคิงถ้วยคอยอุปถัมภ์ เธอชักอยากเจอซะแล้วสิว่าเขาเป็นใคร

“แล้วจะรวยไหมอะ”

เปิดขยายหนึ่งใบ ได้ไพ่แปดเหรียญ

“อ่า…ร่ำรวยตามความขยันงั้นเหรอ หึหึ”

อาชีพที่สามที่สนใจ…เป็นหมอดู

ไพ่ที่ออกคือ เดอะซัน เดอะเมจิกเชียน และปิดท้ายให้ตาวาวเล่นๆ ด้วยไพ่สิบเหรียญ

“ไอยะ ไม่ธรรมดานะเนี่ย สงสัยเป็นหมอดูจะรุ่งเว้ยเฮ้ย”

รุ่งไม่รุ่งนั้น แค่เปิดเจอไพ่เดอะเมจิกเชียนก็ฟันธงได้แล้ว เพราะไพ่ใบนี้หมายถึงอาชีพหมอดูอย่างตรงตัว

“งั้นขอขยายอีกนิด ถ้าเป็นหมอดู พี่มิ่งมีอะไรแนะนำไหมจ๊ะ”

เดอะเวิลด์ ไพ่สังฆราช และหกเหรียญ

“อ่า…ให้ทำทางออนไลน์ด้วยเหรอ แล้วก็ทำบุญเยอะๆ ศึกษาเพิ่มเติม”

ก็น่าอยู่…ดวงศิริคิดตาม ช่วงนี้เธอไม่ค่อยทำบุญนั่งสมาธิเลย ติดจะสมาธิสั้น ความจำสั้นหน่อยๆ ด้วยซ้ำไป

“อ้ะ อาชีพต่อไป สุดท้ายแล้ว”

…เล่นเกม…

การจับไพ่ครั้งนี้ใช้เวลามากกว่าอาชีพอื่น มือซ้ายกวาดไล่ไปมาตามหลังไพ่ที่เรียงโค้งครึ่งวงกลม กว่าจะหยิบครบสามใบก็ผ่านไปหลายนาที

แต่ทั้งที่เลือกมาแล้ว เธอกลับไม่กล้าพลิกเปิด

ดวงศิริเลื่อนมือมาแนบแก้ม มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ไม่รู้เพราะเครื่องปรับอากาศตั้งอุณหภูมิไว้เย็นเกินไปหรือเพราะอะไร

แต่ที่รู้แน่คือ เธอตัดสินใจไม่พลิกเปิดดูหน้าไพ่ เพราะสำหรับเธอแล้ว เธอชอบการเล่นเกมมากที่สุด

เพราะชอบที่สุดจึงหวังที่สุด

และเพราะหวังที่สุด จึงกลัวผิดหวังมากที่สุด

มือบางขาวซีดรวบไพ่ทั้งหมดมารวมกัน จัดเรียงเรียบร้อยเก็บใส่กล่อง วางที่มุมมหาเวทตามเดิม เก็บคำตอบของเรื่องที่อยากรู้ที่สุดให้เป็นความลับต่อไป

 

ปรึกษาพี่ไพ่มิ่งมงคลเสร็จแล้วก็สบายใจ ดวงศิริตกลงใจว่าจะทำอาชีพเสริมเป็น หมอดูไพ่ยิปซี

ในยุคปัจจุบันนี้หมอดูไม่ได้เป็นอะไรที่ลึกลับ เต็มไปด้วยปริศนา หรืออยู่ในตำหนักศักดิ์สิทธิ์ขลังๆ แล้ว หมอดูอยู่ในโทรศัพท์มือถือ สามารถดูดวงแบบคุยโทรศัพท์ได้ มีแอปพลิเคชันรวมหมอดูให้เลือกดูกับหมอที่ถูกโฉลกทางออนไลน์ ส่วนนัดดูแบบพบปะ จับไพ่ด้วยมือตัวเองนั้นแน่นอนว่ายังคงมี

เรียกได้ว่าหมอดูมีอยู่ทุกที่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พ่อหมอแม่หมอพากันเปิดช่องของตัวเอง ทำคลิปเปิดไพ่ทำนายรายเดือนตามลักขณาราศี ตามธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ตามวันเกิดจันทร์ถึงอาทิตย์ ด้วยความที่เป็นการดูดวงโดยรวม แม่นไม่แม่นจึงไม่ใช่ประเด็นหลัก เน้นที่ลีลาตื่นเต้นลื่นไหลกับวิธีการเล่าของผู้อ่านไพ่เป็นหลัก สรุปง่ายๆ คือ แม่นไม่แม่นไม่เกี่ยว ทำคลิปให้สนุกอย่างเดียว ยอดวิวก็พุ่งทะยานติดลมบนแล้ว

แม่หมอบางช่องสวย ดูเป็นสาวมั่นทันสมัย มีลูกเพจกับแฟนช่องมากเข้าโด่งดังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ไปเลยก็มี มีโฆษณาสินค้าเข้าอีกต่างหาก ดวงศิริยิ้มกรุ้มกริ่ม วาดฝันเห็นลู่ทางสว่างสดใส บางทีวันหนึ่งข้างหน้าเธออาจจะสวย รวย ดัง เฉิดฉายยิ่งกว่าสาวคู่ปรับอย่างมนชิดาก็ได้ ใครจะรู้

แต่ก่อนจะถึงวันอันหอมหวานนั้น เธอต้องฝึกซ้อมดูดวงก่อน เพราะหน้าไพ่ทาโรต์เปิดเผยความจริงแน่นอน แต่คำทำนายจะแม่นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้อ่าน

เธออ่านไพ่ยิปซีเป็นมานานแล้ว แต่เคยดูเฉพาะเรื่องของตัวเอง ดูให้คนอื่นแทบนับครั้งได้ จึงเกรงว่าจะดูให้คนอื่นได้ไม่ตรงเพราะยังขาดประสบการณ์ ดังนั้นต้องสะสมชั่วโมงบินให้มาก

ลูกดวงคนแรกที่อยากจะทาบทามมาซ้อมมือคือ ภูริส

แต่ยังไม่ทันจะทาบ แค่เกริ่นนำเท่านั้น ภูริสก็รีบโบกมือปฏิเสธพัลวัน

“ไม่ๆ ไม่ต้องดูพี่หรอก ไม่มีอะไรให้ดู”

“อ้าว พี่ภูก็พูดแปลกๆ ทุกคนมีดวงชะตาจะไม่มีให้ดูได้ยังไง เอ๊ะ” หญิงสาวชี้นิ้ว ยิ้มกรุ้มกริ่ม “หรือพี่ภูมีความลับอะไรกับน้อง แล้วกลัวพี่มิ่งฟ้อง ความแตก”

“ไม่ๆ ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำ ชักสีหน้าเครียดขรึม แต่เธอดูออกว่าแค่เก๊กไปงั้น

“น่านะ ดูให้ฟรีเลย อีกหน่อยพอดังแล้วพี่ภูจะได้คุยได้ไงว่าเคยดูดวงกับหมอขนมหวานมาแล้ว แม่นโคตรๆ”

รุ่นพี่หนุ่มหลุดยิ้มจนได้ เขาจับบ่าเธอไว้ ฝ่ามือใหญ่ของเขาอบอุ่นและหนักแน่น

“แม่นให้จริงเถอะหมอขนมหวาน ไปดูให้คนอื่นก่อนไป แล้วค่อยวนกลับมาดูให้พี่ทีหลัง ตามนี้”

 

ขนาดพี่ภูผู้ใจดีกับเธอที่สุดในโลกยังปฏิเสธได้ลงคอ ดวงศิริสะบัดหน้าไล่เจ้าความขี้งอนออกไปก่อน แล้วติดต่อหาเป้าหมายคนที่สอง

คนที่ใจดีกับเธอที่สุดฝ่ายหญิง เจ้าของฉายา ‘หม่าม้า’ ของเพื่อนภาค

“เฮลโหล อิ๋ม”

อริสานั่นเอง

“หวาน มาถึงแล้วเหรอ ร้านยังไม่ปิดเลย”

สาวหมวยร้องทักมาจากหลังเคาน์เตอร์ สองมือสาละวนอยู่กับการชงกาแฟให้ลูกค้าในร้าน และจัดชาไทยใส่ถุงกระดาษส่งให้ไรเดอร์ที่ยืนรออยู่ข้างหน้าต่างบานเลื่อน

ดวงศิริลังเลว่าจะไปช่วยเพื่อนดีหรือไม่ อริสาบอกตั้งแต่ในโทรศัพท์แล้วว่าวันนี้ยุ่งมากเพราะเด็กที่ร้านลาป่วยหนึ่งคน สกายก็ติดคั่วเมล็ดกาแฟ มาช่วยในส่วนคาเฟ่ไม่ได้ แต่หญิงสาวสรุปในใจว่าไม่ดีกว่า เธอไม่เป็นงานอะไรสักอย่าง ยิ่งช่วยเดี๋ยวจะยิ่งยุ่ง ทำอริสาเสียเวลาไปใหญ่

หญิงสาวเลือกโต๊ะในสุดของร้าน นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอ

ใกล้สองทุ่ม เมื่อลูกค้าโต๊ะสุดท้ายลุกออกไปและไม่มีออร์เดอร์ดิลิเวอรีแล้ว อริสาก็พลิกป้าย Close ปิดร้าน แล้วมาหาดวงศิริที่โต๊ะตัวใน พร้อมด้วยครอฟเฟิลหน้าวิปครีมสตรอเบอรีกับชานมกุหลาบ

“ว้าว น่ากินอีกแล้ว”

ดวงศิริปรบมือรัว อริสายิ้มกว้างจนตาหยี

“ค่าครูแม่หมอไง มาเริ่มกันเถอะ”

แม่หมอปูผ้าสักหลาดสีดำสนิทบนพื้นโต๊ะ ส่งสำรับไพ่มิ่งมงคลให้อริสาแตะเบาๆ อธิษฐานให้ไพ่ช่วยตอบคำถามและเปิดเผยความจริงให้ได้รู้

จากนั้นให้อริสาสับไพ่จนกว่าจะพอใจ ตัดไพ่หนึ่งครั้ง

ดวงศิริปาดคลี่ไพ่เป็นรูปครึ่งวงกลมให้เพื่อนเลือกมาสิบใบ

พอเลือกครบ แม่หมอสาวก็วางเรียงตำแหน่งตามลำดับการเลือก แล้วทยอยเปิด

พลิกใบหนึ่งร้องอือหือ พลิกใบสองร้องโอ้โฮ เบิกตาโตขึ้นๆ สาวเจ้าชะตาพลอยตื่นเต้นไปด้วย มองใบโน้นใบนี้อย่างสนใจ

“มีอะไรเหรอหวาน ยังไงๆ”

“เรื่องงานกับเงินมั่นคงดีเลยแก หกไม้เท้าตรงตำแหน่งงานแปลว่าเหนื่อยหน่อยแต่สำเร็จ ส่วนสิบเหรียญขึ้นตำแหน่งเงินนี่ไม่ต้องพูดถึง รวยค่ะ แต่…ไฮไลต์มันอยู่ที่นี่”

ปลายนิ้วเรียวจิ้มปั้กลงที่ไพ่รูปชายหญิงถือถ้วยทองคนละใบ

“สองถ้วยขึ้นตำแหน่งความรัก ช่วงนี้ชีวิตแกเรื่องความรักเด่นมาก นี่แกมีแฟนแล้วเหรออิ๋ม”

อริสาสะดุ้งทั้งตัว

“เปล่าซะหน่อย”

แม่หมอไม่เชื่อ หยิบไพ่มาสับแล้วเปิดไพ่เพิ่มเพื่อขยายความเองเสร็จสรรพ ไพ่ที่ออกทำเอาแม่หมอร้องอู้อ้านั่งไม่ติด ลุกขึ้นมาหักนิ้วกร๊อบแกร๊บแล้วยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้

“หนึ่งไม้เท้า สิบถ้วย กับเดอะซัน ความรักของแกกำลังจะเริ่มต้นแบบมีแพชชั่น เป็นความรักจริงจังมั่นคงระดับสร้างครอบครัวเลยนะ มีเดอะซันปิดท้ายอีก ไม่ต้องพูดเยอะ…มีผัวแน่นอน”

“บ้า…”

อริสาคราง แล้วใบหน้าที่ครู่ก่อนยังอิดโรยจากการเป็นลูกกะเบ๊ยันบาริสต้ามาทั้งวันก็เปลี่ยนเป็นแง่งอน แต่ดวงตาเล็กนั้นพราวระยับ แก้มใสซับสีเลือด ดวงศิริจ้องแล้วจ้องอีก ตีความได้อย่างเดียวว่าเพื่อนรักกำลังทำหน้าไม่ถูก

“นี่อย่าบอกนะ ว่าแกแอบไปมีแฟนโดยไม่บอกฉัน”

“บ้า ฉันยังโสด”

“ไม่จริง พี่มิ่งบอกอยู่นี่”

“ฉันก็บอกแกอยู่เหมือนกันว่าฉันโสด”

ประโยคที่แย้งสวนมาเสียงสูงผิดปกติ มีพิรุธยิ่ง ดวงศิริหัวเราะหึหึ ขยิบตาทีหนึ่ง

“แกโกหกฉันได้ แต่แกปิดบังพี่มิ่งไม่ได้หรอกนะจะบอกให้”

แต่แล้วแม่หมอเกิดเอะใจ เพราะเรื่องราวที่ไพ่บอกเล่าเป็นภาพรวมในช่วงสามถึงหกเดือนนี้ บางทีอาจยังไม่เกิดก็ได้ จึงโพล่งไปว่า

“แกถามเดี๋ยวนี้เลยว่า แฟนแกคนนี้เจอกันหรือยัง เดี๋ยวให้พี่มิ่งตอบ”

อริสาหน้ามึนไป “บังคับลูกดวงแบบนี้ก็ได้เหรอ”

“ก็แกเถียงนี่นา แล้วฉันอยากรู้ ยังไง จะจับไพ่เองหรือให้ฉันจับ”

อริสาตกลงว่าจะจับเอง ดวงศิริขอคำตอบด้วยไพ่ใบเดียวแบบชัดๆ

ลูกดวงเลือกส่งมา แม่หมอพลิกเปิดปั้ง

หน้าไพ่ปรากฏเป็นภาพหญิงสาวสามคนรวมกลุ่มชูถ้วยทองเริงร่า ดวงศิริตบเขาฉาดร้องว่า

“นั่นไง เจอแล้ว สามถ้วยขึ้นมาอย่างนี้เป็นเพื่อนกันนี่แหละ”

เจ้าชะตาเม้มปากคล้ายกลั้นยิ้ม แต่คิ้วยังขมวดมุ่น เหมือนดีใจแต่ไม่กล้าแสดงออกอย่างไรชอบกล

“ยังไงแก สารภาพได้หรือยังว่าเขาคนนั้นเป็นใคร เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เพื่อนแนะนำ ใครฮะ”

อริสาตอบอุบอิบ

“ไม่รู้ ยังไม่เจอมั้ง ฉันโสดสนิทจริงๆ นะแก”

คราวนี้แม่หมอลูบคางอย่างใช้ความคิด เอียงหน้าฉงน

“แปลกแฮะ ถ้าแกยังไม่เจอแล้วทำไมไพ่ครอบครัวอย่างสิบถ้วยถึงขึ้นล่ะ ไหนจะเดอะซันอีก”

หญิงสาวชี้ไปยังไพ่รูปพระอาทิตย์ส่องแสงจ้า เบื้องหน้ามีเด็กขี่ม้าขาว ถือธงแดงโบกสะบัด แสดงถึงชัยชนะหรือความยินดีปรีดา

“หรือเจอปุ๊บแกจะท้องปั๊บเลยนะ ไพ่เดอะซันแปลว่าตั้งครรภ์ได้ด้วยนะ”

เจ้าของคำทำนายส่ายหน้าพรืด ลูบเนื้อลูบตัวปฏิเสธใหญ่ ดวงศิริก็คิดอย่างนั้น อริสาเรียบร้อยหัวโบราณจะตาย ไหนเลยจะยอมนอนทอดกายถวายใจให้ใครง่ายๆ ถึงแม้คนคนนั้นจะดูดี มีใจรักจริงแน่แท้ระดับไพ่สองถ้วย สิบถ้วย หนึ่งไม้เท้าขึ้นก็ตาม

“ฉันขลุกอยู่แต่ในร้าน แกก็เห็น วันวันหนึ่งนอกจากลูกค้าแล้วได้เจอใครที่ไหน”

ดวงศิริครางอือตอบ ชักจะยอมแพ้ บางที…อาจผิดที่เธออ่านไพ่ไม่แม่นเองก็เป็นได้ ประสบการณ์เธอน้อยจริงๆ นี่นา

ทว่า ทันใดนั้นเอง

ประตูร้านซึ่งแขวนป้าย Close เปิดผัวะ ร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งก้าวพรวดเข้ามา เขาถอดผ้ากันเปื้อนยีนออกทางศีรษะแล้ววางโปะบนเคาน์เตอร์ลวกๆ เสยผมสั้นชุ่มเหงื่อทีหนึ่งแล้วลูบใบหน้ามันอาบเหงื่อแรงๆ สองสามที

พอหันมาทางนี้ สบตาเข้ากับดวงศิริก็ชะงัก

“อ้าว หวาน มาตั้งแต่เมื่อไร”

หญิงสาวยกมือทัก

“ไง คั่วกาแฟเสร็จแล้วเหรอ”

สกายตอบอือเบาๆ สีหน้าเขาแจ่มใสขึ้นมากเมื่อได้เข้ามาสัมผัสอากาศเย็นๆ ในห้องปรับอากาศ

“ทำอะไรกันอยู่เนี่ย กินขนมเมาท์มอยอีกละสิ”

“เฮ้ย วันนี้เรามาดูดวงให้อิ๋มต่างหาก”

ดวงศิริหันกลับมาจะอวดผลงานเต็มที่ ปรากฏว่าอริสาไม่พูดไม่จา ตะครุบรวบไพ่ทั้งหมดบนโต๊ะผสมปนเปกันหน้าตาเฉย ท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนคนทำความผิดใหญ่หลวงก็ไม่ปาน

แม่หมอไพ่ยิปซีเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง เธอรู้แล้วว่าไพ่สามถ้วยเมื่อกี้คือใคร

ไม่ใช่แค่นั้น อริสาเองที่ยืนกรานปฏิเสธกระต่ายขาเดียวมาตลอดก็รู้เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นมีหรือจะรีบร้อนล้มกระดานอย่างวัวสันหลังหวะแบบนี้

…ให้ตายเหอะ ที่แท้ ยัยอิ๋มก็แอบชอบสกายนี่เอง

แล้วคนที่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยก็ก้าวยาวมาที่โต๊ะ พูดห้วนกับอริสา

“ดึกแล้วนะ จะกลับกันหรือยังล่ะ”

“มึงกลับไปก่อนสิ เดี๋ยวกูจะไปส่งหวานก่อน”

ดวงศิริอ้าปากค้าง ตะลึงงัน ไม่นึกเลยว่าอริสาจะตอบห้าวห้วนอย่างนี้ เพิ่งรู้ว่า ‘หม่าม้า’ ผู้อบอุ่นอ่อนโยนของชาวภาค ยามสนทนากับ ‘เพื่อนสนิท’ กลับกลายเป็นห้าวเป้ง แมนอกสามศอกไปซะได้

“กลับกันได้แน่นะ ให้กูช่วยปิดร้านเปล่า” สกายก็ห้าวพอกัน

“ไม่ต้อง มึงไปเหอะ พรุ่งนี้รีบมาเปิดร้านด้วย กูจะเข้าสาย”

คำไล่ก็มา คำสั่งก็มา ไม่มองหน้าอีกต่างหาก สกายรับคำว่าอือคำเดียว ยกมือให้ดวงศิริแล้วพูดว่าบายหนึ่งคำก็กลับออกจากร้านไป

ดวงศิริกะพริบตาปริบ นี่ถ้าพี่ไพ่มิ่งมงคลไม่บอกก่อนว่าสองคนนี้มีเกณฑ์จะได้ลงเอยกันละก็ หญิงสาวไม่มีทางคิดเองได้แน่ๆ

แล้วพอรถเอสยูวีของสกายเลี้ยวออกจากร้านไป เธอก็ได้เห็นสายตาเหงาๆ ของอริสามองส่งจนไฟท้ายลับไปจากแนวรั้ว

ดวงศิริทนไม่ไหวอีกต่อไป โพล่งขึ้นว่า

“ยังไง จะปากแข็งอีกนานไหมฮะ”

“บ้า…” อริสารวบเก็บจานขนมที่ดวงศิริกินหมดแล้วไปล้าง “ปากแข็งอะไร ไม่มีเลย”

“เราเป็นเพื่อนกันขนาดนี้แล้วนะอิ๋ม เล่าให้ฉันฟังเถอะน่า เผื่อช่วยได้นะ”

“เล่าไปก็เท่านั้น แกช่วยอะไรไม่ได้หรอก”

“ช่วยได้สิ มีพี่มิ่งอยู่ทั้งคน” หญิงสาวตบกล่องไพ่เบาๆ “แกไม่อยากรู้เหรอว่าสกายมันรู้สึกยังไงกับแก”

ได้ผล อริสาชะงักครู่หนึ่ง จัดการคว่ำจานกับแก้วน้ำเรียบร้อยแล้วหันมา

“ดูได้ด้วยเหรอ”

“ได้สิ” แม่หมอสาวยิ้มมาดมั่น “มาเปิดไพ่กันต่อไหมล่ะ เอาให้เคลียร์ไปเลย”

อริสายังคงลังเล แต่ครู่เดียวเท่านั้นก็พยักหน้า กลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ดวงตารียาวของสาวหมวยเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง ทว่าไหวริกหวาดหวั่นระคนกัน

 



Don`t copy text!