พรนับพัน : บทนำ
โดย : เมษาริน
“พรนับพัน” ของ “เมษาริน” จบแล้ว ผู้เขียนใจดีมอบ 5 บทแรกไว้ให้อ่านกันเพื่อคลายคิดถึง หากอยากซื้อหนังสือรวมเล่มเก็บไว้อ่านละก็ สั่งซื้อได้ที่ www.dbooksgroup.com ทาง inbox page : dbooksgroup และ line id : @dbooks_group นะคะ
****************************
– บทนำ –
ถนนเบื้องหน้าถูกปกคลุมไปด้วยม่านฝนสีขาวพร่าง เส้นทางคดเคี้ยวทำให้ชายหนุ่มคนที่นั่งหลังพวงมาลัยใช้เท้าขวาแตะเบรกด้วยความระมัดระวัง เขาลดความเร็วลงพลางขยับแว่นสายตากลมใสที่ทำให้ใบหน้าที่ค่อนไปทาง ‘ตี๋’ ดูสุขุมน่าเชื่อถือ แม้เส้นทางที่ใช้จะชำนาญ เพราะใช้ถนนสายนี้มาตั้งแต่จำความได้ รู้ดีว่าเบื้องล่างเป็นหุบเหวลึก ทั้งยังเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หนาครึ้ม
คนขับสปอร์ตคาร์คันหรูที่มีเพียงสองที่นั่งชำเลืองมองที่นั่งข้างๆ ค่อนข้างบ่อย เห็นว่าชายหนุ่มคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายร่วมบิดา ใช้สายตาจับจ้องไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย
“นายมีอะไรก็ว่ามา” คนเป็นพี่ถามขึ้น ทำลายความเงียบภายในรถ
ผ่านไปหลายนาทีน้องชายก็ยังไม่ตอบ ทั้งที่เป็นฝ่ายเอาตัวเข้าขวาง เมื่อเขารีบร้อนบึ่งรถออกจากบ้านพัก ซึ่งตั้งอยู่บนไหล่เขา
“นายมีอะไรจะพูดกับฉัน” ภวินท์ เหลียวมองน้องชายอีกครั้ง เห็นอีกฝ่ายค่อยๆ หันหน้ามาสบตา ด้วยดวงตาแดงก่ำและสีหน้าเดาไม่ถูก “ถ้าไม่มี ก็ลงไปให้พ้นๆ หน้าฉัน น่ารำคาญ” ชายหนุ่มไม่ใช่คนใจเย็น เขาไล่น้องชายลงจากรถทั้งๆ ที่กำลังลงจากเนินเขาและมีสายฝนที่จู่ๆ ก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักด้านนอก ด้วยตำแหน่งที่ถูกเลี้ยงดูอุ้มชูให้สูงกว่าน้องชายมาตลอดชีวิต จึงไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยนึกเป็นห่วงความรู้สึก อันที่จริงเขาไม่นับว่า ณภัทร เป็นน้องด้วยซ้ำ
“พี่วินอยากได้อะไรจากผมอีก” น้ำเสียงของณภัทรทั้งตัดพ้อทั้งขื่นขม
“ทุกอย่าง…” ภวินท์เหยียดยิ้มเย้ยหยัน หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลง เขาก็กลายเป็นคนชั่วไร้หัวใจ ทุกการกระทำเย็นชาหยาบกระด้าง ทุกอย่างที่ทำลงไปเพียงเพื่อปกปิดถมกลบความเจ็บปวดร้าวราน หวังลมๆ แล้งๆ ว่าถ้าไร้หัวใจ…วันหนึ่งข้างหน้าเขาจะไม่เจ็บ
“ผมไม่เหลืออะไรจะให้พี่วินอีกแล้ว นอกจากชีวิตบัดซบๆ ของผม” ณภัทรกำมือแน่น คิดถึงสิ่งที่พี่ชายต่างมารดาแย่งชิงไปจากเขา แล้วพาให้คับแค้นใจ แต่เรื่องบางเรื่องตบมือข้างเดียวไม่ดัง ไม่มีการบังคับจิตใจอะไรทั้งนั้น อำนาจเงินของพี่ชายสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งทุกอย่าง…แม้กระทั่งความรักและมิตรภาพ
“ฉันจะอยากได้ชีวิตนายไปทำไมกัน” ภวินท์เหลือบมองคนพูดแค่แวบเดียว น้ำเสียงปิดไม่มิดว่าเหยียดหยันมากแค่ไหน
“สุดท้ายพี่วินก็ได้แต่งงานกับ…ดิว” ณภัทรเอ่ยชื่อคนรักอย่างยากลำบาก…ดิว ปดิวรดา ความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเขาถูกผู้ชายที่เขาเรียกว่าพี่…แย่งชิง “แต่ผมขอ…ขออิสระคืนให้ดิว ผมสงสารดิว”
ภวินท์ส่งเสียงบางอย่างในลำคอ เหยียดริมฝีปากเป็นเชิงดูถูก “ก่อนสงสารคนอื่น นายสงสารตัวเองดีกว่านะ พัด”
ณภัทรไม่ใส่ใจคำพูดพี่ชาย สาระสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาพาตัวเองมาอยู่กับภวินท์ทำไม “ผมมีข้อแลกเปลี่ยน…พี่วินคงอยากรู้เรื่องผิง”
สำหรับณภัทร…ปดิวรดาเป็นตัวแทนของความรัก ส่วนพรนับพันคือเครื่องหมายแห่งมิตรภาพ
ทั้งความรักและมิตรภาพ ถูกพรากไปโดยคนที่ได้ชื่อว่าเป็น…พี่ชาย
ชื่อแรกทำให้คนฟังฮึกเหิมลำพองใจ ที่สามารถแย่งชิงคนรักน้องชายมาได้อย่างง่ายดาย เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าณภัทรจะไม่ได้ทรัพย์สินเงินทองที่พ่อเขาทิ้งไว้แม้แต่บาทเดียว แต่ชื่อที่สองทำให้แววตาหลังแว่นอ่อนละมุนลงอย่างประหลาด ผิง พรนับพัน ผู้หญิงคนที่เป็นเพื่อนน้องชาย คนที่เป็นเหมือนสายน้ำเย็นรินไหลผ่านหัวใจอันแห้งผากของเขา
“ทุกอย่างของนายมันจะเป็นของฉัน” พูดจบชายหนุ่มหลังพวงมาลัยก็กะพริบตาถี่ๆ เมื่อนัยน์ตาเห็นแสงวูบวาบเร็วๆ คล้ายอสนีบาต ภวินท์สะบัดศีรษะแรงๆ ไล่อาการวูบ ในหูแว่วเสียงต่อว่าจากน้องชาย คนที่ขึ้นมานั่งบนรถกับเขาราวชะตาลิขิต
“พี่วินใจดำ ทำอย่างนั้นกับดิวกับผิงได้ยังไง ผมไม่สนอีกแล้วว่าพี่วินจะคิดจะทำอะไร…ผมกับดิว เราสองคนตัดสินแล้ว…ส่วนผิง เฮ้ย ระวัง…”
‘ผิง’ คือคำสุดท้ายที่ภวินท์ได้ยิน ชื่อของ พรนับพัน ชื่อที่ทำให้เขายินดีและเจ็บปวดไปพร้อมๆ กัน ก่อนสติสัมปชัญญะจะดับวูบ ชายหนุ่มหักเลี้ยวพวงมาลัยอย่างแรงพาให้สปอร์ตคาร์หมุนวนจากแรงกระชากตามสัญญาตญาณ ก่อนตัวรถจะเบียดลงไหล่ทาง ชายหนุ่มก็เห็นร่างน้องชายกระเด็นออกนอกรถพุ่งกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ ตัวรถไถลชนแนวกั้นถนนจนพังยับ แล้วค้างเติ่งอย่างน่าหวาดเสียวระหว่างขอบถนนกับหุบเหวลึกเบื้องล่าง
ภวินท์ไม่รู้ว่ารถค้างอยู่นานเพียงใด ชายหนุ่มฝืนลืมตาอันหนักอึ้งของตัวเองเหลียวมองหาน้องชาย สิ่งสุดท้ายที่ปรากฏหลังม่านตาพร่ามัว คือเลือดไหลโชกจากจมูกและปากของณภัทรที่สลบแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นสนประดิพัทธ์ ไม่กี่อึดใจต่อมาก็เห็นเงาดำปริศนากลางสายฝนหนาหนัก วูบผ่านม่านตาเพียงเสี้ยววินาที แม้เงาร่างจะถูกบดบังด้วยสายฝนพรำ ทว่ายังให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด สำนึกสุดท้ายคือรถที่ไหวโยกอย่างรุนแรง ก่อนมันจมดิ่งลงในหุบเหวลึก
ภวินท์หลับตาปล่อยน้ำตารินไหล เขาร้องไห้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านถ้วนทั่วทุกอณูของร่างกาย ในนาทีที่ชีวิตกำลังจะปลิดปลิว วูบสุดท้ายเขานึกถึงประโยคที่เคยพูดกับผู้หญิงที่รักที่สุด
‘พี่จะภาวนาขอพรไปทำไมกัน เมื่อพี่มีผิง…มี ‘พรนับพัน’ เป็นของตัวเอง’