ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 10 : นทีโดนลูกหลง

ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 10 : นทีโดนลูกหลง

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ โดย โสภี พรรณราย…เมื่อชีวิตของชาลิสาพลิกผันไปจากความร่ำรวย กลายมาเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ เธอต้องงัดเอากลยุทธ์มากมายมาจัดการให้เรื่องราววุ่นวายทั้งหลายผ่านไปให้ได้ แต่ยังมีเรื่องวุ่นๆ ของหัวใจที่เกิดขึ้นทุกทีที่พบกับธีทัต เธอจะรับมืออย่างไร นวนิยายจากอ่านเอา ที่นำมาให้ทุกท่านอ่านออนไลน์ค่ะ

ธีทัตมองหญิงสาวด้วยสายตาแปลกๆ

ลูกหนี้เสียงเข้ม ไม่เกรงกลัวเลย เสียงแข็งตลอด หนักแน่นด้วยสายตาที่น่าเชื่อถือ

ถ้าเป็นการละครล่ะก็ เธอก็เล่นละครเก่งมาก

“ฉันไม่โกงหรอก” ชาลิสาเน้น “ฉันจะออกไปแล้วนะ…จะเดินออกไป” พูดไปก็กลัวล่ะ ใจเต้นตุ๊มๆ ต๊อมๆ ไม่เป็นจังหวะ หากรู้ว่าต้องทำใจสู้เสือ เป็นไงเป็นกัน

จ้องตากันและกัน

ประเมินกันและกัน

เขาจะเอาอย่างไรแน่?

ธีทัตได้แต่โคลงศีรษะในตอนท้าย แจ้งความแล้วได้ประโยชน์อะไร เก็บไว้ก่อนเผื่อจะมีประโยชน์

หญิงสาวค่อยๆ เปิดประตูห้อง  ค่อยๆ อย่างช้าๆ อย่างวางเชิง และยังพูดไม่ขาดปาก

“ไม่โกง…ไม่โกง…มีแต่จะชดใช้ให้แน่ๆ…” เพราะมั่นใจว่าพูดออกไปแล้ว เขาดูอ่อนลง

ประตูเปิด และหญิงสาวก็รีบผลุบออกไปทันที อย่างรวดเร็ว กลัวเขาเปลี่ยนใจ

แล้วออกมายืนหายใจอยู่หน้าห้องอย่างโล่งอก รอดออกมาได้อย่างงงๆ

 

นทีได้ยินเสียงริก้าตะโกนเรียกชื่อตน ขณะที่ทำงานในห้างสรรพสินค้า

นทีเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยและนักสืบ เขาทำงานร่วมกับบริษัทของคุณเอกสิทธิ์มาระยะหนึ่ง และร่วมงานกับธีทัตและบริษัทต่างๆ ในเครือก็มาระยะหนึ่งแล้ว

ธีทัตมักเรียกใช้บริการบริษัทเขาเสริม ถ้าแผนกของบริษัทงานล้นมือจนขาดคน

นทีก็มักมาช่วยลูกน้อง และมาทำงานร่วมกับลูกน้องเสมอ

เคยเดินผ่านริก้าก็หลายหน แต่ริก้าไม่เคยสนใจเขาเลย จนกระทั่งวันนี้ที่ริก้าเรียกหา ‘นที’ ระบุชื่อเขา และเดินมาหาที่งานโชว์สินค้าในห้าง

“นที…นที…คนไหน อยู่ไหน?”

เสียงของริก้าดังตามอารมณ์ที่แปรปรวนของตนเอง อารมณ์ดีเสียงเบา อารมณ์เสียก็เสียงดัง

ลักขณาต้องเตือนเจ้านายว่า

“เบาหน่อย คุณริก้า”

“ไหน…คนไหนล่ะ พี่ณา?”

“คุณนทีอยู่แถวนี้ล่ะค่ะ เมื่อเช้าถามพนักงาน เขาว่าคุณนทีมาห้างวันนี้แน่นอน”

“ก็อยากจะเจอตัวหน่อย”

“อย่าใช้อารมณ์นะ”

“มันทนไม่ไหว”

“คุณริก้า อย่าก่อเรื่อง”

“พี่ณาก็บอกมาสิ…คนไหน?”

ไม่ต้องรอให้ตามหานาน เพราะบริเวณนี้เป็นห้องจัดงานของห้าง มีพนักงานรักษาความปลอดภัยทุกระยะ นทีได้ยินเสียงของหญิงสาว จึงมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“คุณริก้าเรียกผมเรอะ?”

ริก้าจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า

“คุณเองเรอะ ชื่อ…นที?”

“ครับ ผมนที”

“คุณใช่มั้ย ที่เป็นเพื่อนชาลิสา…อ๋อ…ไม่ใช่เพื่อนนะ เป็นแฟนผู้หญิงชื่อชาลิสา”

นทีงง ถามอย่างสงสัย

“มันอะไรหรือ เกี่ยวอะไรกับสา?”

“ก้อ…แฟนคุณแสบนักนะ กัดฉันไม่ปล่อย หาเรื่องฉันตลอด อยากถามว่ามีปัญหาเรอะ?”

“คุณใช้คำว่า…กัด…มันตลกดี สาเป็นคนมีเหตุผล”

“ทำไม ปกป้องในฐานะแฟน จะได้โล่แฟนดีเด่นมั้ย?”

“เดี๋ยว…เดี๋ยวครับ ผมไม่เข้าใจ ผมกับสาเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

“แฟนกับเพื่อนที่ดี ทำไมไม่ยอมรับล่ะ”

“แฟนหรือเพื่อนก็แล้วแต่ ปัญหามันคือ…”

ริก้าเบ้ปาก

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างงั้น ไม่ต้องท้าทาย พอกันเลยทั้งผู้หญิงผู้ชาย”

“ผมว่าคุณเข้าประเด็นเลยดีกว่า”

ริก้าตาโต

“โอ้โฮ้…ทำเสียงเข้มอีกต่างหาก”

ลักขณาสะกิดญาติสาว

“ริก้า…เบาค่ะ…เบา…”

ริก้าสะบัดและใช้เสียงดุๆ

“อย่ายุ่ง ฟังเฉยๆ ก็พอ”

ลักขณาได้แต่โคลงศีรษะ เตือนแล้วนะ ตามสบายเลย จบหน้าที่ของตนแล้ว มีข้อแก้ตัวกับธีทัตได้ก็พอ

“คุณมีปัญหากับสา เรื่องของผู้หญิง ผมไม่เกี่ยว” นทีกล่าว

“อ๋อ…แสดงว่ารู้เรื่องระหว่างฉันกับชาลิสา อ๋อ…แน่อยู่แล้วเป็นแฟนกัน ต้องบอกเล่าให้กันฟังแน่ๆ”

“เล่าบ้างแต่ผมไม่เก็บมาเป็นอารมณ์”

ริก้าตาโต

“ว่าฉันเก็บเอามาเป็นอารมณ์สิ ได้…ได้…วิเศษกันนัก พวกชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เตือนแฟนคุณด้วย เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องคนอื่นเสียที ได้เงินค่าเสียหายค่าเสื้อผ้าจากพี่ธีแล้ว ได้ไปเกือบแสน คงต่อลมหายใจได้นะ เพราะได้ข่าวมาว่าร้านก็ย่ำแย่ จะปิดกิจการอยู่แล้วมั้ง”

“ผมเป็นคนกลาง ผมขอพูดตามเนื้อผ้าว่า คุณเป็นคนหาเรื่องก่อน คุณสาใช้สิทธิ์ของตนเอง เธอไม่ผิด คนผิดเป็นคุณ หัดยอมรับบ้าง”

ริก้าตาโต

“ว่าอะไรนะ…คุณว่าฉันเรอะ ว่าฉันผิด”

“ครับ ผมพูดความจริง”

“มันก็พวกเดียวกัน”

“ใช่ครับ พวกเดียวกัน”

“ฉันมาบอกให้คุณตักเตือนแฟนคุณว่าอย่าเรื่องมากเกินไป กลับมาถูกว่าอีก คุณเข้าใจความหมายมั้ย”

นทีโบกมือ

“ผมไม่เข้าใจความหมายคุณ คุณกับผมมันคนละความหมาย”

“คุณมันหาเรื่อง”

“คุณหาเรื่องสาก่อน”

“นี่…นี่…คุณ…คุณ…” ริก้าเริ่มจะหายใจอึดอัด เพราะถูกขัดใจ

นาทีกับพูดอย่างสบายๆ ว่า

“ระวังครับ…ระวังสุขภาพ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป ผมจะถูกโทษว่าเป็นต้นเหตุ ทั้งๆ ที่คุณทำตัวเองแท้ๆ”

“จะเป็นศัตรูกับฉันอีกคน!”

“เปล่าครับ ผมเป็นกลาง”

“บริษัทคุณแย่แน่ จะให้พี่ชายไม่จ้างบริษัทคุณอีก”

“ผมมีสัญญาระยะยาวกับคุณธี ผมมั่นใจในตัวคุณธี และรู้สึกโชคดีที่ไม่ต้องติดต่อเรื่องงานกับคุณ ขืนทำงานกับคนเจ้าอารมณ์  ผมว่าโชคร้าย ไม่รู้ว่าวันไหนจะดี วันไหนจะร้าย คุณต้องหัดเรียนรู้จากคุณธีมากๆ หน่อย”

ริก้าเสียหน้า ถูกนทีพูดต่อหน้าลักขณา…และลักขณาก็เห็นด้วยสิ สะใจที่ญาติพี่น้องสมควรโดนบ้าง ลำพังตนต้องอดทนกับริก้ามากขนาดไหน และทำอะไรริก้าไม่ได้เลยสักนิด มีคนว่าแทน จึงสะใจนัก สมน้ำหน้า

ริก้ายังไม่รู้ตัวว่า แม้แต่ญาติก็ยังสะใจสมน้ำหน้า เรียกให้ลักขณาช่วย

“พี่ณา…พี่ณาดูมัน…” กลายเป็น ‘มัน’ ไปแล้ว ตามอารมณ์ที่กำลังโกรธ “เขาว่าริก้า จะทำอย่างไรดี กับคนอวดเก่งแบบนี้”

“คุณริก้า ต้องแยกงานกับส่วนตัวค่ะ”

“ให้พี่ธีฉีกสัญญาเลย!”

“ลองคุยกับพี่ชายดูนะคะ”

“ต้องคุยแน่ๆ ต้องคุย”

นทีจึงพูดว่า

“เชิญไปคุยกันก่อนครับ ผมมีงานต้องทำเยอะแยะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว” พูดจบผละไปทันที ไม่รอดูริก้าที่ระบายอารมณ์ใส่ลักขณา

ลักขณารับกรรมไปแทน เป็นที่ระบายอารมณ์แทน อย่างจำยอมเพราะทำอะไรไม่ได้

 

นทีแวะมาร้านกาแฟของชาลิสา มักมาที่นี่เสมอ มาอุดหนุนเพื่อนสาวทั้งที่ชาลิสาไม่เคยคิดเงินเลย แต่นทีจะวางเงินให้แคชเชียร์ทุกครั้งก่อนออกจากร้าน

ชาลิสายกกาแฟมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง รู้ว่าเขาดื่มอะไรเป็นประจำ พร้อมกับทรุดกายนั่งตรงข้ามมา

“ดื่มกาแฟก่อนไปทำงาน” เขาพูด

“มาเลย…มาเลย ถ้าเป็นนที เปิดร้านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงยังได้”

“พูดอย่างกับเราเป็นคนพิเศษขนาดนั้น”

“ใช่สิ…พิเศษ…”

“พิเศษ…ยังไงก็แค่…เพื่อน”

ชาลิสาหัวเราะเสียงใส เห็นใบหน้าที่สะสวย จริงใจ ดวงตาที่งดงามเป็นประกาย แบบนี้ที่นทีใฝ่ฝันเสมอ แต่ก็แค่…ฝันที่จะได้ครอบครอง

ไม่ใช่ว่าเธอสูงส่งจนเอื้อมไม่ถึง แต่เพราะเธอไม่มี ‘ใจ’ ให้ต่างหาก

“เพื่อน…ที่เหนือกว่าคนรัก เป็นเพื่อนตายเลยนะ พูดกี่ครั้งแล้ว สาพูดจนตัวเองเบื่อแล้วนะ”

นทีหัวเราะ

“กาแฟยังเหมือนเดิม สายังเหมือนเดิม…”

“วันนี้ดูแปลกๆ”

“เปล่า…เมื่อวานเจอคุณริก้า และเป็นครั้งแรกที่ที่คุณริก้ามาคุยด้วย…เรียกว่ามาต่อว่าดีกว่า เรื่องของสาแน่ะล่ะ”

ชาลิสายกดื่มกาแฟเกือบสำลัก

“อะไรนะ มันเกี่ยวอะไรกับนที”

“เธอเข้าใจว่าสาเป็นแฟนเรา มาว่าสาให้ฟังว่า ได้เงินจากคุณธีเกือบแสน เพราะหาเรื่องเธอ รู้สึกว่าริก้าคนนี้ไม่หยุดล่ะนะ ระวังตัวด้วย จะรอเวลาเล่นงานสาเพื่อเอาคืน”

แววตาชาลิสาหม่นลงทันที

“ริก้าคงไม่น่ากลัวกับพี่ชาย…”

“สา…เป็นอะไรหรือ?”

“ก้อสาไปก่อเรื่องทั้งที่ไม่ควรเป็นเรื่องน่ะสิ ไม่ควรเลย คิดว่าได้เงินเกือบแสนมาจ่ายค่าแรงคนงานหน่อย กลายเป็นหนี้…โอ๊ย…ไม่รู้กี่สิบล้านกัน”

นทีตกใจแทน

“สา…มันอย่างไง…”

ชาลิสาจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง รูปแกะสลักหยกนางฟ้าจีนที่เคยเป็นของบิดา ตกทอดไปยังเสี่ยขจร และตกไปสู่ครอบครัวธีทัต เพราะความขี้สงสัยของตนจึงเป็นเรื่อง

“แล้ว…แล้ว…” นทีฟังถึงกับพูดไม่ออกในตอนแรก “ทางนั้นคิดราคาค่าเสียหายเท่าไหร่?” สุดท้ายก็ต้องถามอย่างตั้งสติ

ชาลิสาโคลงศรีษะ พอพูดถึงเรื่องนี้แววตามีกังวลฉายชัด ทั้งที่ในชีวิตประจำวันพยายามจะลืม ลืมชั่วขณะก็ยังดีนะ ไม่งั้นเก็บมาคิดจนจะบ้าตาย

“ไม่รู้สิ มูลค่ามันไม่แน่นอน พ่อเคยบอกว่าซื้อมาในราคายี่สิบล้านแต่ตั้งนานแล้ว ทางนั้นพูดเหมือนจะห้าสิบล้าน สาไม่รู้รายละเอียด พ่อใช้หนี้เสี่ยขจรเป็นของเก่าของสะสมตั้งหลายชิ้น เห็นว่าได้รับเป็นของขวัญจากเสี่ยให้พ่อเขา ไม่รู้สุดท้ายเขาจะต้องเขาจะตั้งราคายังไง”

ชายหนุ่มตกใจ

“เฮ้ย…เงินสิบๆ ล้าน แบบนี้ ไม่จบสิ้นแน่”

“เป็นเมื่อก่อน พ่อกับแม่ไม่ล้มละลายก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เงินล้านหายากมาก…ก…” ชาลิสาสลัดศีรษะแรงๆ “พูดเรื่องของสา มีแต่เครียด คุยเรื่องนทีก่อนที่ถูกคุณริก้าเล่นงาน นทีต้องมาโดนลูกหลงเพราะสาแท้ๆ”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก คุณริก้าเข้าใจผิดคำว่าเราเป็นแฟนกัน ก็ดีนะอยากให้เป็นจริงๆ”

“ยังจะพูดเล่นอีก”

“ก็อยากจริงๆ”

“เป็นเพื่อนรักดีกว่าเป็นแฟน บอกเลยบางเรื่องอาจปกปิดกับแฟนแต่กับเพื่อนรักคนนี้ไม่มีปกปิด” วกกลับเรื่องแฟนอีกจนได้

“ครับผม…ครับผม ว่าแต่สา…ยังไหวหรือเปล่า?”

“ไม่รู้สิ…มันก็ผ่านไปวันๆ ผ่านไปได้ ต้องผ่านไปได้”

“สองร้าน…ก็ดูไม่ค่อยดี” นทีมองไปรอบๆ ร้านเล็กๆ นอกจากโต๊ะเขา ก็มีคนสองคนนั่งในร้าน ดูจากเครื่องดื่มสองแก้วกับขนมเค้กชิ้นเดียวแบ่งกันสองคนก็แค่ไม่กี่ร้อยบาท ขืนเป็นแบบนี้ยังจ่ายเงินเดือนพนักงานร้านไม่ได้เลย

“ไม่ดี…ช่วงนี้ค้าขายลำบาก ติดลบด้วย”

“เห็นสาพอมีเวลา ไปช่วยงานเรามั้ย รักษาความปลอดภัย ช่วงนี้งานเราเยอะมากๆ มีหลายบริษัทจ้างเป็นครั้งๆ ระยะนี้มีงานเปิดตัวสินค้างานโชว์เครื่องประดับเพชรพลอย คนแทบไม่พอ สาแค่รับงานเราเป็นครั้งคราว”

“สาทำได้เหรอ?”

“ได้สิ สามีพื้นฐานเคยเรียนการต่อสู้ การป้องกันตัว อย่างงานโชว์เพชร เขาต้องการพวกอดีตตำรวจ ทหารมีฝีมือ”



Don`t copy text!