
ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 5 : นกน้อยในกรงทอง
โดย : โสภี พรรณราย
ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ โดย โสภี พรรณราย…เมื่อชีวิตของชาลิสาพลิกผันไปจากความร่ำรวย กลายมาเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ เธอต้องงัดเอากลยุทธ์มากมายมาจัดการให้เรื่องราววุ่นวายทั้งหลายผ่านไปให้ได้ แต่ยังมีเรื่องวุ่นๆ ของหัวใจที่เกิดขึ้นทุกทีที่พบกับธีทัต เธอจะรับมืออย่างไร นวนิยายจากอ่านเอา ที่นำมาให้ทุกท่านอ่านออนไลน์ค่ะ
ชาลิสามองไปรอบห้องรับแขก มองไปรอบครอบครัวของตัวเอง พ่อ..แม่…ยาย…และน้องชาย
ณ ตอนนี้คนที่ใช้เงินมากที่สุดคือ พ่อ…กับ…ยาย
พ่อสุทินใช้กับการรักษาที่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ
ยาย…ใช้กับสังคมที่ยายไม่ยอมปรับตัว ในส่วนนี้ชาลิสาต้องค่อยๆ จัดการกับหญิงชราอย่างนุ่มนวล ยายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ถ้ายายโกรธจะน่ากลัว
แม่พจนีย์ดูเหมือนปกติในขณะนี้ แต่ชาลิสารู้ว่าแม่เก็บกด อดทน เครียดและซึมเศร้าจึงต้องกินยาทุกวัน แม่เป็นคนเดียวที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด
นนทกรเรียนจบกลับมาแล้ว เขาอยู่ในช่วงที่เป็นหนุ่มที่ต้องการเรียนรู้ ชาลิสาหวังพึ่งน้องชายมาก แต่เขาเหมือนไม่ค่อยสนใจปัญหา พยายามจะหลีกเลี่ยง พอเห็นพี่สาวขัดใจยาย เขาไม่อยากได้ยิน จึงลุกขึ้นบันไดกลับเข้าห้อง
ชาลิสาเดินตามน้องชายเงียบๆ และเคาะประตูห้อง
“พี่จะเข้าไปนะ”
“ครับ”
พี่สาวมาหยุดที่ข้างน้องชายบนเก้าอี้ทำงานที่เขานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ พอรู้สึกต้องพูดนาน จึงเลือกไปนั่งปลายเตียง
“ตอนนี้พี่มีปัญหากับยาย กรต้องช่วยพี่พูดกับยายหน่อย สองเสียงได้ผลดีกว่าเสียงเดียว”
นนทกรหัวเราะแปร่งๆ เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดี พี่สาวก็แสนสวย น้องชายก็หล่อเหลา
“จะให้ยายเกลียดขี้หน้าผมอีกคนเหรอ ผมเป็นหลานรักของยายนะครับ ผมไม่ขัดใจยายหรอกครับ”
“ก็…แค่ไม่เหมือนเดิม”
“ผมว่ายายพูดถูกนะ ยายต้องการเหมือนเดิม ผมเองก็ต้องการเหมือนเดิม ผมไม่รู้พ่อทำการค้าประสาอะไร เคยอยู่สุขสบายก็ล้มละลาย ไอ้บ้าคนไหนโกงพ่อ ได้ยินว่าเป็นเพื่อนกันนี่ครับ สนิทกันนี่ครับ”
“พี่ก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการค้าของพ่อเลย”
“ผมก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยว”
“จึงทำให้พวกเราไม่รู้อะไรเลย นอกจากชื่อ…”
“มันชื่ออะไรครับ”
“นายไม่ต้องมารู้อะไรด้วยหรอก อารมณ์ร้อนเดี๋ยวไปก่อเรื่อง”
“ผมเย็นขึ้นเยอะแล้วครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเป็นวัยรุ่น ผมไปฆ่ามันแล้ว”
พี่สาวโคลงศีรษะ
“แล้วได้ประโยชน์อะไรไหมล่ะ มันต้องมีวิธีที่จัดการได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย พี่เองก็ไม่ยอม แต่พี่ไม่รู้รายละเอียดมากพอ…”
ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายหลากอารมณ์ ที่แน่ๆ รู้สึกเจ็บแค้นแทนบิดา
ต้องทนเห็นบิดามารดาเจ็บปวด ต้องทนเห็นบิดาล้มป่วย และเจ็บลึกทั้งกายและใจ
สมบัติทั้งหมดของพ่อถูกธนาคารยึดไปหมด ถูกเจ้าหนี้ตามทวง
หมดตัวแล้ว…
ถ้าไม่คิดติดลบ…ยังดีที่หญิงสาวยังมีร้านสองร้าน ยังมีบ้านให้ได้หลับนอน
ชีวิตดิ่ง…แต่ไม่ดิ่งจนสุด แต่อย่าจมดิ่งไปกว่านี้
เกือบแล้วหรือ
ชาลิสาต้องเป็นเสาหลัก ต้องเข้มแข็ง และต้องเป็นให้น้องชายช่วยอีกแรง แต่น้องชายดูไม่กระตือรือร้นเสียเลย จำเป็นต้องพูดย้ำแล้วย้ำอีก
“เมื่อไหร่จะทำงานเสียที ควรทำงานแล้วนะ”
น้องชายเบ้ปาก ยอมละจากจอคอมพิวเตอร์เบื้องหน้าหันมาเผชิญตรงๆ กับพี่สาวที่นั่งอยู่ขอบเตียง
“ผมกำลังหาอยู่ครับ ผมเพิ่งกลับมาไม่นาน พี่สาพูดเป็นครั้งที่สิบแล้วมั้ง” แถมทำท่ารำคาญเสียอีก
“อย่าเลือกงานเกินไปสิ”
“พี่สาครับ…ผมจบนอกนะ เงินเดือนที่ได้เขาจะให้แค่สามหมื่นมากสุด บ้าหรือเปล่า เมื่อก่อนสามหมื่นใช้วันเดียวก็หมดแล้ว บางที่ให้แค่สองหมื่นกว่า”
“เมื่อก่อนกับวันนี้มันคนละวันกัน”
“เงินเดือนน้อยไปครับ”
“ทำก่อนดีไหม อย่าคิดถึงตัวเงิน”
“ผมต้องการเงินมากกว่านี้”
“พี่ขอนะ อย่าเลือกงาน”
“พี่สายังให้ยายเป็นแสนได้เลย”
“ยายแก่แล้วนะ…”
“ไหนสอนให้ผมขัดใจยายไง ช่วยพูดกับยายไง อย่าใช้เงิน มันจะย้อนแย้งเกินนะครับ”
หญิงสาวถอนใจยาว ต้องอธิบายอย่างไรกับน้องชาย ในฐานะคนกลางและเป็นศูนย์รวมคนในบ้าน
“คือว่า พี่พยายามอยู่นะ ไม่ตึงไม่ผ่อนกับยาย พี่ต้องดูสถานการณ์ แต่พี่ตามใจยายทุกอย่างทุกเรื่องไม่ได้ พี่จึงหวังพึ่งนายบ้าง”
“พี่มีร้านตั้งสองร้าน ยังมีรายได้”
“รู้มั้ย ตอนนี้ยอดขายตกมากๆ”
“ก็แก้ไขสิครับ”
“พี่พยายามอยู่”
“ผมก็อยากช่วยครอบครัวเรานะ แต่เงินเดือนไม่กี่หมื่น มันช่วยไม่ได้หรอกครับ”
“เท่าไหร่ถึงจะยอมทำงาน”
“ดูไปก่อนครับ ผมไม่มีอะไรในหัวเลย ตัวเลขในหัว ผมสับสนกับชีวิตจะแย่แล้ว อย่ามาบีบบังคับกัน”
“นายต้องกระตือรือร้นมากกว่านี้”
“ผมเครียดครับ เครียด!”
“กร…นายต้องช่วยพี่”
“อยากเห็นผมเป็นบ้าอีกคนเรอะ ให้ผมเป็นโรคประสาทอีกคนเรอะ ยังไม่พออีก…บ้านเรา…จะเป็นกันกี่คนจึงจะพอครับ”
ชาลิสารีบเดินออกจากห้องอย่างมึนงง ออกมาระงับสติอารมณ์ที่หน้าห้องของตัวเอง ในขณะนั้นสาวใช้จวนก็เดินมารายงาน
“ยาของคุณท่านกับคุณนาย ใกล้หมดแล้วค่ะ”
“เหลือกินกี่วัน”
“ห้าหกวันค่ะ”
“อืม…ยังพอมีเวลา เดี๋ยวพี่จัดการให้”
จวนจึงขอตัวไปดูแลคุณสุทิน สลับกับทำงานบ้าน
ดีที่ได้สาวใช้ต่างด้าวคนนี้เป็นงานและขยัน งานบ้านและงานดูแลคนป่วยทั้งหนักและเหนื่อย ชาลิสาจึงเพิ่มเงินเดือนให้จวนให้สมกับงานที่ต้องทำ
เรื่องยาของพ่อ แม่และยาย ล้วนมีโรคประจำตัวตามวัย
ทุกคนมียาประจำต้องกิน ทั้งเช้ากลางวันเย็นและก่อนนอน
เมื่อก่อนไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลก็จัดยากันครบถ้วน ราคาแพงก็จ่ายได้ แต่หลังจากครอบครัวมีปัญหา ชาลิสาเธอมาซื้อยาเองที่ร้านยาขายส่ง ได้ราคาถูกกว่าโรงพยาบาล ซื้อยาทีเป็นหมื่นๆ ซื้อทุกสองเดือน รวมๆ แล้วประหยัดได้มาก พรุ่งนี้คงต้องไปจัดการเรื่องซื้อยาแล้ว
ภัทรามองเครื่องเพชรที่เสี่ยขจรมอบให้ ท่ามกลางสายตาของดนัยกับจิดาภาที่มองอย่างไม่พอใจ
ภัทราเอนตัวยกมือไหว้ที่อกของเสี่ยขจร
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ชอบไหม” ถามห้วนๆ
“เสี่ยให้ก็ต้องชอบสิคะ”
“น้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยพอใจนะ”
ภัทรายิ้มหวาน ทั้งที่ภายในใจ สารพัดความคิด…เลือกเอง…เลือกเสี่ยขจรเอง
ตอนตัดสินใจ ตอนนั้นทะเลาะกับธีทัต มีปัญหากับคนรักจึงเลือกประชดประชัน แลกกับเงินสดนับร้อยล้าน เครื่องเพชรชุดใหญ่กับตำแหน่งเมีย เพราะเสี่ยก็เป็นม่ายมานาน
เสี่ยยอมจ่ายหนัก…ทุ่มเท…และให้…ให้แต่บางครั้งก็ขาดอิสรภาพ
เมียสวย เมียเด็กกว่ายี่สิบ…สามสิบกว่าปี เหมือนพ่อลูกมากกว่าผัวเมีย
เสี่ยหวงตน ให้ตนอยู่บ้าน ออกสังคมกับเสี่ยบ้าง จะไปไหนต้องรายงานทุกครั้ง…
ทุกครั้ง…ต้องรายงาน และมีคนขับรถประจำให้ใช้ รายงานทั้งไปและเวลากลับ
กลับมาถ้ายังมีเวลาว่าง ก็ต้องบอกเสี่ยว่าไปไหน เวลาไหน กับใคร พบใคร อย่างไร หรือซื้อของก็มีใบเครดิตโชว์ เรียกเก็บจากบัญชีเสี่ย
แรกๆ ยังพอทน แต่นานวันเข้า ภัทราไม่รู้ว่าตนเป็นเมียแบบไหน ทาส…หรือที่รองรับอารมณ์ใคร่ หรือมีคนบอกว่าตนเป็นนกน้อยในกรงทอง
จิดาภา ลูกสาวของเสี่ยที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ใกล้กับพี่ชาย…ดนัย โพล่งขึ้น
“สร้อยเพชรที่เตี่ยซื้อให้คุณ รู้ราคาไหม มันเกินยี่สิบล้านนะ”
และดนัยก็พูดเสริม
“คนอย่างเตี่ยขจร ซื้อเครื่องประดับล้านสองล้านไม่ต้องพูดถึง ไม่มองด้วยซ้ำ คุณน่ะโชคดีมาก โชคดีรองมาจากแม่ผมเลยนะ ที่เตี่ยให้ของแพงๆ เสมอ ถ้าแม่ยังอยู่ อย่าหวังจะได้เลย และโดยส่วนตัว คุณหาของแพงๆ อีกกี่ชาติก็ไม่ได้”
คำพูดเหยียดกึ่งดูถูก สำหรับภัทราได้ยินจากปากลูกเลี้ยงทั้งสองเสมอ ได้แต่อดทน อดกลั้น
จิดาภาเองก็เสริมพี่ชายบ้าง
“อย่ายกคนอื่นเปรียบเทียบกับคุณแม่สิคะ คนละชั้น คนละระดับเลย”
พี่ชายหัวเราะเบาๆ
“อย่างน้อยก็มาเป็นแม่เลี้ยงเรา”
“อายุเท่าภาเอง เป็นเพื่อนพอได้ค่ะ”
“เตี่ยรักและเลือกของเตี่ย พวกเราต้องให้เกียรติหน่อย” น้ำเสียงแปลกๆ
“ตามสมควรค่ะ” จิดาภาพูดเน้น ตีความหมายเองละนะ ตามสมควรหมายถึงอย่างไร
เสี่ยขจรโบกมือ
“พอ…พอ…”
แค่ห้าม…พอ…
สำหรับภัทรายังไม่พอใจ คนเป็นสามีน่าจะปกป้องตนบ้าง เข้าข้างตนบ้าง ตำหนิลูกบ้างที่พูดเหยียดๆ ภรรยาตัวเอง เสี่ยขจรไม่เคยเลย อย่างมากพอฟังแล้วเริ่มรำคาญก็พอ…พอ…ไม่อยากฟังต่อ
ตนเอง…ที่ฟังไม่ไหว อยู่ต่อหน้าท่าน ยังพอพูดเหยียดเบาๆ พอลับหลัง ภัทราถูกกระแหนะกระแหน เสียดสี ดูถูกหนักกว่านี้อีก
ทั้งดนัยกับจิดาภา พอกันเลย ไม่ให้ความเคารพตนแม้แต่น้อย ไม่เคารพแถมปากยังจัด
สองคนนั่น…ลูกของเสี่ยนะ…สายเลือดเดียวกันนะ เสี่ยจะเห็นใครดีกว่าล่ะ เลือกแต่งงานกับคนแก่ คิดว่าจะรัก จะหลง จนลืมลูก ลืมเมียเก่าที่ตายไป แต่ไม่ใช่กับเสี่ยขจรเลยสักนิด
ที่แน่นอน…ตนเป็นที่ระบายอารมณ์ใคร่อย่างแท้จริง…
ค่ำคืนที่บางครั้งก็ยาวนาน…
ทุกค่ำคืนที่ตนภาวนาให้เสี่ยทำงานหนัก และหลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไม่ต้องแตะต้องตัวเธอ
แต่ค่ำคืนนี้ไม่โชคดี
“ได้สร้อยเพชรไปแล้ว คืนนี้จะไม่ปรนนิบัติฉันหน่อยเรอะ”
ภัทราฝืนยิ้ม
“เสี่ยคะ ภัทรู้สึกเหนื่อย…”
“อย่าเล่นตัว”
“ภัทอยากพักผ่อน เสี่ยเองก็กลับดึก”
“กลับดึกเพราะทำงาน…งาน…เท่านั้นจะทำให้เรามีเงิน…เงินเท่านั้นจะอำนวยความสุขทุกอย่างได้ และเพราะเงินไม่ใช่เรอะที่เธอมาแต่งงานกับฉัน”
โดนคนเป็นสามีดูถูกแล้ว ขนาดตนไม่ใช่คนยากจนอัตคัดขัดสนเลย พอมีสกุลบ้าง มีเงินบ้าง ยังโดนขนาดนี้
“เสี่ยอย่าพูดอย่างนี้สิคะ”
“ฉันพยายามจะเลี้ยงให้เธอมีความสุขที่สุด”
“เสี่ยรักภัท ภัทก็ขอบคุณมากๆ”
“รักต้องมีการตอบแทน รักฝ่ายเดียวไม่สนุกหรอก ไม่ยุติธรรมหรอก มา…มาตอบแทนฉัน…”
ตอบแทน…ด้วยรักค่อนข้างรุนแรง
รักรุนแรง…เจ็บ…แต่ยังไม่ถึงขั้นซาดิสต์ ไม่ถึงขั้นทารุณโหดร้าย แต่ก็รุนแรงตามอารมณ์ต้องการของฝ่ายชาย
ถูกกระทำรุนแรง…กอดจูบ…รุนแรง บีบขยำรุนแรงจนรู้สึกเจ็บ
หญิงสาวต้องอดทน…กับแรงกระทำ…ที่ดูเหมือนนานแสนนาน ทั้งๆ ที่เริ่มต้นและจบลงรวดเร็วเสมอ เพราะเสี่ยขจรก็อายุมาก ไม่ได้แข็งแรงเหมือนคนหนุ่มๆ
จนเสี่ยสมอารมณ์หมายแล้ว ก็ทิ้งตัวเองลงและนอนหลับเกือบในทันที
ภัทราโล่งอก ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างตัวเอง บางครั้งก็ถึงกับน้ำตาซึม บางครั้งก็ไม่มีน้ำตาซักหยด จนรู้สึกว่าร่างกายหายระบมแล้วจึงลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ…อาบน้ำ…เห็นต้นแขน ต้นขาเป็นรอยช้ำ…
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 6 : ป่วนร้านเสื้อ
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 5 : นกน้อยในกรงทอง
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 4 : ปัญหาต่างๆ ของชาลิสา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 3 : ฉันกับสาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 2 : สาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 1 : ฉัน