
ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 15 : รับรู้เปลี่ยนเลขา
โดย : โสภี พรรณราย
ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ โดย โสภี พรรณราย…เมื่อชีวิตของชาลิสาพลิกผันไปจากความร่ำรวย กลายมาเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ เธอต้องงัดเอากลยุทธ์มากมายมาจัดการให้เรื่องราววุ่นวายทั้งหลายผ่านไปให้ได้ แต่ยังมีเรื่องวุ่นๆ ของหัวใจที่เกิดขึ้นทุกทีที่พบกับธีทัต เธอจะรับมืออย่างไร นวนิยายจากอ่านเอา ที่นำมาให้ทุกท่านอ่านออนไลน์ค่ะ
กลางวงโต๊ะอาหารเช้า ธีทัตประกาศชัดจนทุกคนตกใจและประหลาดใจ
อาหารเช้าวันนี้ เรียบง่ายด้วยโจ๊กหมูกับโจ๊กปลา คนละชามและอยู่กันพร้อมหน้า นอกจากคุณเอกสิทธิ์กับภรรยา คุณกอบุญ และธีทัตกับริก้า ครอบครัวน้องคุณกอบุญ มาร่วมทานด้วย นายวรพล สร้อย กับลักขณา
ครอบครัวนายวรพลไม่ค่อยร่วมโต๊ะเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอาหารเย็นสะดวกจึงจะมาทานด้วย เพราะติดหน้าที่การงานแต่ละคน
ส่วนอาหารเช้ายังมีสม่ำเสมอ เพราะตื่นเช้ามาทานด้วยกันก่อนไปทำงาน ยกเว้นวันหยุดตื่นสาย จึงจะทานบ้านใครบ้านมัน
“ตั้งแต่วันจันทร์ ณาไม่ต้องทำหน้าที่เลขาของยัยริก้าแล้วริ ก้าจะมีเลขาคนใหม่”
ลักขณาใจหายวาบ พาลจะกินอาหารเช้าไม่ลง
“ณาทำอะไรผิดคะ คุณธี?”
“เปล่า…ริก้าเปลี่ยนเลขามาหลายคนแล้ว ก็เปลี่ยนตามปกติ”
“เลขาคนอื่นๆ สองสามเดือนก็ออก มีแต่ณาที่ทำได้และทำนานที่สุด ณาไม่มีปัญหากับคุณริก้าเลย” หันมาทางริก้า “ใช่มั้ยคะ…คุณริก้า พี่ทำงานไม่ขาดตกบกพร่องเลยใช่ไหมคะ?”
ริก้ายังทำหน้างงๆ
“อือม์…ใช่…ใช่…พี่ณาก็ทำงานดีในระดับที่ริก้ารับได้”
ที่สำคัญทนรับอารมณ์ของตนได้ เพราะเป็นญาติ ส่วนคนอื่นๆ ก่อนหน้าหลายคน เปลี่ยนแทบจะทุกเดือนเพราะไม่ยอมทน
“ค่ะ…แล้วพี่ก็เป็นญาติด้วย พี่ดูแลคุณริก้าเสมือนน้องแท้ๆ”
วรพลขมวดคิ้ว ลักขณาเป็นลูกสาวคนเดียว อุตส่าห์ยอมให้ไปรองรับอารมณ์ริก้าแล้ว เพราะเป็นญาติ และมีผลประโยชน์ตอบแทนคุ้มค่า และพี่กอบุญก็เป็นพี่สาวแท้ๆ รักและเมตตาน้องชายคนนี้ที่สุด
พี่สาวโชคดี วาสนาดี ได้แต่งงานกับมหาเศรษฐีอย่างคุณเอกสิทธิ์ ก็ไม่เคยลืมน้องชายที่เคยลำบากด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
“พี่เห็นณาเป็นน้องสาวเช่นเดิม เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันไม่เปลี่ยนแปลง แต่ริก้าควรมีพี่เลี้ยงมีเลขาคนใหม่”
“เหมือนณาบกพร่อง?”
“อย่าคิดมากสิ”
“ใครจะมาแทนณาล่ะคะ ใครจะเอาคุณริก้าอยู่ คุณริก้า…เอ้อ…ก็รู้ๆ อยู่รู้ว่าเป็นยังไง”
“รู้ๆ กันนะ ณาก็ยังเอาริก้าไม่อยู่หรอก”
“แต่ริก้ากับณาก็ไปกันได้”
“ไม่ใช่แค่ไปกันได้ ริก้าควรลองอะไรใหม่ๆ บ้าง”
“แล้วใครมาแทนณาคะ?”
“ชาลิสา”
ชื่อนี้ยิ่งทำให้ลักขณาตกใจ ไม่ใช่ลักขณาคนเดียว ริก้าตกใจยิ่งกว่าหลายเท่า
“ไม่ได้ค่ะ!” และทั้งสองก็โพล่งพร้อมกัน
ธีทัตใจเย็น เลิกคิ้ว
“ไม่ต้องถามเหตุผลทั้งสิ้น ไม่ต้องขัดแย้ง หรือ ต้องการคำอธิบายเพราะคำพูดของพี่ชายคนนี้คือที่สุดแล้ว”
“ไม่…ไม่…ไม่…คุณธีทัตก็รู้ว่าคุณริก้าเกลียดเธออย่างกับอะไรดี” ลักขณาแย้งจนได้
สายตาธีทัดเข้ม
“ไม่ต้องพูดอธิบายเหตุผลใดๆ”
“แต่พี่ธีกำลังตัดสินใจผิดนะคะ”
“ผิดหรือไม่…พี่รับผิดชอบเอง”
“แล้วณา…”
“ไม่ต้องกลัวตกงาน ให้ไปช่วยบริษัทได้ ตำแหน่งจะต้องเหมาะสมแน่นอน”
ลักขณาหันไปทางริก้า…เอาสิ…ริก้า ตนโต้แย้งไม่สำเร็จเป็นแค่ญาติ แต่ริก้าเป็นน้องสาวแท้ๆ โต้แย้งให้เต็มที่เลย ให้พี่ณาคนนี้ได้กลับมาเป็นเลขาของริก้าตามเดิม
ริก้าเห็นสายตาญาติผู้พี่ก็รู้ใจ…เธอเองก็ยอมรับ ‘ชาลิสา’ ไม่ได้หรอกนะ
“ริก้าเกลียดชาลิสา!” ริก้าโพล่ง
ธีทัตพยักหน้า
“อือม์…ก็ไม่ได้ให้รัก”
“คนเกลียดกันอยู่ใกล้กันไม่ได้ค่ะ”
“ลองดูก่อน”
“ชาลิสาเอาเรื่องอยู่นะคะ หาเรื่องริก้าเสมอ”
“ริก้าของพี่ก็ใช่ย่อย ถามตัวเองใครหาเรื่องใครก่อน”
ริก้าตาโต โวยวายว่า
“ยังไม่ทันไร พี่ธีก็เข้าข้างชาลิสา!”
“เปล่า…พี่มีตามองเห็น”
“เธอเองก็เกลียดริก้ามากนะคะ”
“คนทำงานกับพี่…หลายคนก็เกลียดพี่ ไม่ชอบพี่ แต่ถ้าทำงานเป็น ทำงานได้ ก็ทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา”
“เธอไม่ยอมเป็นเลขาของริก้าหรอกค่ะ”
“พี่จัดการได้ และจัดการเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่จริง…เธอต้องไม่ยอม”
“เป็นหน้าที่ของพี่”
“แต่ว่า…” ริก้าหันไปทางบิดามารดา และคำพูดของคุณเอกสิทธิ์ก็คือ
“พ่อเชื่อว่าพี่ธีของแกต้องให้สิ่งดีกับแกนะ…”
ส่วนมารดากล่าวว่า
“ธีไม่เคยตัดสินใจอะไรพลาดหรอกนะ”
“โอ๊ย…พ่อกับแม่ ไม่มีใครช่วยริก้าเลย”
ส่วนวรพล กับ สร้อย ก็หน้าเสีย แต่ทั้งสองไม่อยู่ในฐานะจะพูดอะไรได้ แม้ลักขณาจะเป็นลูก ตนก็ช่วยลูกไม่ได้ เพราะทุกคนกินเงินเดือนตระกูลบูรพาพัฒน์
และธีทัตก็สรุปว่า
“เริ่มงานวันพรุ่งนี้…คุณสาจะทำหน้าที่…ส่วนณาก็หยุดงานได้เลย ไม่ต้องทำแล้ว”
พูดจบธีทัตขอตัวกับบิดามารดาลุกจากโต๊ะ และริก้าก็วิ่งตามพี่ชายมาที่ห้องรับแขก
“พี่ธี…พี่ธี…พูดกับริก้าก่อนค่ะ”
พี่ชายหันขวับ แม้รำคาญน้องสาวแต่หน้าที่พี่ต้องทน”
“พี่พูดชัดเจนแล้ว”
“พี่ธีเหมือนแกล้งริก้าเลย เล่นบอกกะทันหัน จะให้ริก้าไม่สบายใจ อกแตกตายหรือคะ”
“ตายเพราะเปลี่ยนเลขาเรอะ ไม่เคยเจอ เธอเป็นรายแรก คงดังล่ะนะ”
“พี่ธียังมีอารมณ์พูดเล่น ริก้าเครียดแทบแย่”
“ก็เธอสบายเกินไป แค่นี้เครียด อนาคตเธอยังต้องเจออะไรอีกเยอะแยะ เครียดมากกว่านี้อีก”
“ริก้าเกลียดชาลิสา!”
“ไม่ได้ให้รัก”
“ริก้าทนไม่ได้”
“ต้องทน พี่เองไม่ชอบหน้าลูกน้องหลายคน แต่พวกนั้นทำงานดี มีประสิทธิภาพ พี่ต้องรักษาคนทำงานเป็นไว้ โดยไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาทำให้เสียงานเสียการ คนเราต้องรู้จักแยกแยะ”
“พี่ธีรู้ได้ยังไงว่าชาลิสาคนนี้ทำงานเก่ง”
“พี่เห็นสัญชาตญาณของชาลิสามาแล้ว เอาเป็นว่าพี่มองคนไม่ผิด ถ้าเธออยู่กับชาลิสา คงเหมาะสม…”
น้องสาวตาโต
“ริก้าต้องทน ต้องใกล้ชิดคนเกลียด เช้าถึงเย็น บางทีงานกลางคืนอีก วันละสิบกว่าชั่วโมง ตาย…ตายแน่”
หากพี่ชายยังเสียงแข็ง
“ก็ลองดูว่าจะตายมั้ย”
ไม่มีประโยชน์เลยจะเปลี่ยนใจพี่ชาย กับพ่อกับแม่ยังพอขัดใจได้ แต่กับพี่ชาย ริก้ายอมแพ้…
แต่…แต่…คอยอยู่สิ จะแผลงฤทธิ์ให้ชาลิสาทนไม่ได้ ต้องเป็นฝ่ายขอลาออกเอง
ดูสิ…ดูสิ…จะทนริก้าคนนี้ได้นานแค่ไหน
เกลียด กับ เกลียดมาเจอกัน
แรง กับ แรงมาเจอกัน
ไม่ยอมกัน กับ ไม่ยอมแน่ มาเจอกัน
ริก้าฉายแววตามาดมั่น
นอกจากลิก้าจะร้อนใจ กังวลใจ…ทางด้านลักขณาก็กังวลใจไม่แพ้ญาติผู้น้อง
ลักขณาคุยกับบิดามารดาในบ้านหลังเล็ก ที่คุณเอกสิทธิ์กับคุณกอบุญให้อยู่อาศัย
วรพลได้เปรียบตรงเป็นน้องชายของคุณกอบุญ แต่การได้เปรียบบางครั้ง วรพลจะตีค่าเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ แทนที่จะมองว่าลืมตาอ้าปากได้เพราะใคร
“ณาแย่เลย ไม่ได้เป็นเลขาคุณริก้า ต่อไปณาคงหมดความสำคัญไปเลย ทุกวันนี้อยู่ใกล้ชิดคุณริก้า ยังมีคนก็หัวให้ ต่อไป…แย่แน่…”
สร้อยปลอบลูกสาว
“ตอนทำงานกับคุณริก้า แกก็บ่นว่าต้องทน ต้องลำบาก ตอนนี้หลุดพ้นมาแล้ว น่าจะสบายขึ้น”
“แม่ก้อ…มันไม่เหมือนกัน ทนคุณริก้าหน่อย ดีกว่าตกงานนะ แม่”
“แกไม่ได้ตกงาน ยังไปช่วยงานบริษัทเหมือนเดิม ก่อนที่แกจะเป็นผู้ช่วยคุณริก้า แกก็เคยทำงานมาก่อน”
“จ้ะ…แม่…ตำแหน่งในบริษัทมันก็เบ๊รับใช้เขาล่ะ ไม่สลักสำคัญอะไรเลย ติดตามคุณริก้า คนยังเกรงใจมากกว่า”
“คุณธีพูดไปแล้ว มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
ลักขณาโคลลงศีรษะ ตีหน้างงงุน
“ณาไม่เข้าใจจริงๆ คนที่ชื่อชาลิสา ผอมบาง นิสัยแข็งกร้าว ไม่ยอมคน มันมีดีอะไรมาแย่งงานณา”
“วันนั้นที่งาน แม่เห็นว่าชาลิสา แม้จะรูปร่างผอมบาง แต่มีลักษณะเป็นนักกีฬา แข็งแรง คุณธีคงชอบลักษณะแบบนี้”
“ใครจะทนคุณริก้าได้ ให้มันรู้ไป คอยดูสิ ทนไม่ได้ ลาออกต้องกลับมาง้อณาให้ไปทำงาน จะเล่นตัวให้ดู” แล้วหันมาทางบิดา “พ่อไม่เห็นพูดอะไรเลย ออกความเห็นหน่อยสิคะ”
วรพลโคลงศีรษะ แววตาท้อแท้ แต่แฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ
“พ่อกำลังโกรธแทนแก”
“นึกว่าพ่อจะไม่รู้สึกเสียอีก”
“คนอย่างพ่อทำอะไรได้ล่ะ”
“พ่อเป็นน้องป้ากอบุญนะคะ”
“น้องเมียคุณเอกสิทธิ์เรอะ…พี่เขยไม่เหมือนพี่สาวหรอก ยิ่งกับธีทัต มันก็จ้องแต่เน้นเรื่องงานมากกว่าความเป็นญาติ แกได้เป็นเลขาของริก้า น่าจะมั่นคงที่สุดแล้ว เพราะแกรองรับอารมณ์ของริก้าได้ ริก้าน่าจะโปรดปรานแก แกได้ของได้เงินจากริก้าตั้งเยอะ ได้ไปเรื่อยๆ แกตั้งตัวได้เลยสบายแน่ๆ”
“แต่อยู่ๆ ณาก็ถูกตัดตอนเลย ต่อไปจะได้เงินได้ทองจากใครล่ะ ณาไม่เคยชิน”
“แกสะสมไว้เยอะนี่”
“ได้ง่ายก็หมดง่ายพ่อ จะทำยังไงดี”
“ยังคิดไม่ออก ดูไปก่อน คนใหม่รับรองทนไม่นานหรอก แล้วสุดท้ายแกอาจได้งานของแกกลับมา”
ให้ความหวังทั้งตัวเองและลูกสาว ถ้าไม่มีความหวังแล้วจะอยู่ไปทำไม
วันแรกก็ค่อนข้างเกร็งเป็นธรรมดาล่ะ
งานใหม่ของชาลิสา นัดพบเริ่มงานที่บริษัท ชาลิสามาตั้งแต่เช้าก่อนเจ็ดโมงเช้าด้วยซ้ำ พนักงานต้อนรับรู้ว่าเธอจะมาเป็นเลขาของริก้า ก็พาไปที่ห้องรอ…และพูดว่า
“คุณริก้ามาทำงานสายเกือบทุกวันค่ะ นอกจากมีประชุมสำคัญ จึงตรงเวลา วันนี้ไม่มีประชุมคงมาสายมาก อาจถึงเที่ยงเลย คุณอาจต้องรอนานหน่อยนะคะ ต้องการอะไรบอกฉันได้ค่ะ การรอจะน่าเบื่อมากค่ะ”
ชาลิสายิ้มรับคำพูดของอีกฝ่ายที่ดูจะมีแววเป็นห่วงเป็นใยอย่างจริงใจ
“ขอบคุณค่ะ”
พอคนนั้นออกไป ชาลิสาก็พูดกับตัวเอง
รอครึ่งวันเลยเรอะ ใช่สินะ คงน่าเบื่อน่าดู แต่ก็ดีล่ะ ทำงานแค่ครึ่งวัน อาจจะสบายกว่าเต็มวันก็ได้
ฆ่าเวลาการทำงาน ทำงานกับโทรศัพท์มือถือนั่นแหละ คุยกับพนักงานร้านเสื้อกับร้านกาแฟ ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองร้านกำลังนั่งตบยุงกัน ร้านเครื่องดื่มตั้แต่เช้าเพิ่งขายไปได้สามแก้วกับขนมในตู้อีกสี่ชิ้น ส่วนร้านเสื้อ ยังไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย
ชาลิสาเป็นฝ่ายปลอบลูกน้อง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มีลูกค้าเองล่ะ” ประโยคปลอบก็ไม่สู้เหมาะเท่าไหร่หรอก รู้ๆ อยู่เศรษฐกิจช่วงนี้เป็นอย่างไร
ตนออกมาทำงาน เงินเดือนหกหลักแน่นอนที่สุด
คิดว่าต้องรอนาน เปล่าเลย ผิดคาด ริก้ามาทำงานแต่เช้า…เก้าโมงเช้าก็ถึงบริษัทแล้ว
ริก้าตั้งใจมาเช้า เพราะตื่นเต้นเหมือนกันล่ะ กับเลขาคนใหม่ มากับลัขณาตามเดิมที่ต้องมาทำงานแต่ในตำแหน่งใหม่
ลักขณาขอตามริก้า เพราะอยากเห็นหน้า ‘ชาลิสา’ ชัดๆ คนที่มาแย่งงานของตน ดูสิ จะทนอารมณ์ของริก้าได้นานแค่ไหน แล้วตนจะกลับมาแย่งงานคืน ใจเย็นไว้…ลักขณา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 15 : รับรู้เปลี่ยนเลขา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 14 : เสนองาน
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 13 : ช่วยชีวิต
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 12 : เกิดเรื่องวันงาน
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 11 : เสี่ยขจรต้นเหตุปัญหา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 10 : นทีโดนลูกหลง
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 9 : จากเจ้าหนี้กลายเป็นลูกหนี้
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 8 : เจ้าหนี้กัดไม่ปล่อย
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 7 : ทวงค่าเสียหาย
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 6 : ป่วนร้านเสื้อ
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 5 : นกน้อยในกรงทอง
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 4 : ปัญหาต่างๆ ของชาลิสา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 3 : ฉันกับสาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 2 : สาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 1 : ฉัน