ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 6 : ป่วนร้านเสื้อ
โดย : โสภี พรรณราย
ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ โดย โสภี พรรณราย…เมื่อชีวิตของชาลิสาพลิกผันไปจากความร่ำรวย กลายมาเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ เธอต้องงัดเอากลยุทธ์มากมายมาจัดการให้เรื่องราววุ่นวายทั้งหลายผ่านไปให้ได้ แต่ยังมีเรื่องวุ่นๆ ของหัวใจที่เกิดขึ้นทุกทีที่พบกับธีทัต เธอจะรับมืออย่างไร นวนิยายจากอ่านเอา ที่นำมาให้ทุกท่านอ่านออนไลน์ค่ะ
“นี่หรือ…ร้านเสื้อชาลิสา?”
คนพูดเบ้ปาก ย่นจมูก ส่งสายตาดูถูกกับกระจกตรงหน้าร้าน แล้วมีเสียงถามจากคนข้างๆ
“จะเข้าหรือคะ?”
“อยากเจอหน้าจังๆ สักหน่อย แม่คนที่ทำให้ริก้าโดนพี่ธีดุ คนที่บังอาจจับผิดริก้า แค่นึกสนุกแว่บเดียว”
ลักขณาที่เป็นทั้งญาติ เป็นทั้งเลขาโคลงศีรษะ
“ก้อคุณริก้าทำผิดจริงๆ นี่ หมอก็บอกว่าอาการคุณดีขึ้นมาก เกือบหายแล้ว ทำไมอยู่ๆ ก็อาการกำเริบอีก”
ริก้าเบ้ปาก…ปมในใจเรอะ…คนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งรูปสมบัติ ทั้งทรัพย์สมบัติ ชีวิตไม่ขาดอะไรจริงหรือ
พ่อเอาแต่ทำงาน แม่ก็อ่อนแอ พี่ชายก็แสนดุ ชีวิตมีอะไรน่าตื่นเต้นล่ะ…
ไม่รู้…ไม่รู้…ไม่รู้
ไม่รู้ล่ะ…อยากทำอะไรก็ทำ รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็จะทำ
ทำไมล่ะ…เกิดเป็นริก้าซะอย่าง ชีวิตนี้เธอจะเป็นผู้ลิขิต ผู้หญิงที่ชื่อ…ชาลิสา…เป็นใคร บังอาจเป็นพลเมืองดีมาจับผิดตน
จะว่าไปโรคหยิบฉวยของ ตนก็ไม่ได้ทำนานแล้ว พอทำอีก ถูกจับได้…มันไม่สนุกเลย
“ชาลิสา…” ริก้าพึมพำ “ชื่อร้านก็ชาลิสา…”
“ค่ะ…คุณริก้า…พอดีสืบไม่ยาก เพราะชาลิสาเป็นเพื่อนกับคุณนที เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เคยร่วมงานกับบริษัทของเราหลายครั้ง”
“พวกเขาเป็นแฟนกันเรอะ?”
“รายละเอียด…ลึกๆ ว่ารักหรือไม่รัก ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ แต่เท่าที่สืบๆ ดู เหมือนมีใจให้อยู่ ลองถามคนงานก็ว่า คุณนทีชอบชาลิสา แต่ฝ่ายหญิงยังไม่แน่ใจค่ะ”
ริก้าเชิดหน้า
“ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ เหมาะสมกันอยู่นะ”
“คุณอยากรู้ไปทำไม”
“ทำไม…อยากรู้อยากเห็น ผิดมั้ย?”
“แต่มาร้านของเธอ?”
“อยากมา…”
“เพื่อ…?”
“เดี๋ยวก็รู้”
“อย่าก่อเรื่องนะ พี่จะรับผิดชอบไม่ไหว คราวก่อนก็ถูกคุณธีตำหนิจนหูชาแล้ว”
“โอ๊ย…ก็แค่สนุกๆ เอง”
“สนุกนั่นล่ะ เดือดร้อน…”
“พูดมากจริงพี่ณา พูดจนจะหมดอารมณ์สนุกแล้ว ไม่อยากเข้าก็รอข้างนอก”
เพราะถูกจับแขนไว้ เลยจะดึงออก
“ไป…ไป…ต้องเข้าพร้อมคุณ” ต้องรีบตามเข้าไปควบคุมเจ้านายเจ้าอารมณ์ จะควบคุมไหวหรือเปล่าไม่รู้ แต่ต้องพยายามล่ะ
เมื่อาสองสาวก้าวเข้ามาในร้าน ร้านมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดเรียงเสื้อผ้าชิดกำแพงสอง ด้าน มีด้านหนึ่งเรียงรายเครื่องประดับ ขายเครื่องประดับเน้นสร้อยคอ เพื่อให้เข้ากับชุด และเข็มกลัดก็เพื่อคู่กับเสื้อสวย
ร้านดูโปร่ง โล่ง สบายๆ
ริก้ามองไปรอบๆ…เพื่อหา…’เจ้าหล่อน’
ไม่เจอ…พบแต่พนักงานขายสองคน และมีลูกค้าอีกสองคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้า อีกคนเลือกสร้อย
“ไม่เลวเลยนะ ร้านเล็กๆ แบบนี้ ไม่ใช่แบรนด์หรู แต่มีลูกค้าตั้งสองคนกำลังเลือก”
ริก้าพูดกับลักขณา แต่ลักขณายังไม่เข้าใจเจ้านายสาวนักว่ามีเจตนาใดแน่ ได้แต่มองๆ ดูก่อน
ใช่…ริก้าก็มองๆ จับชุดบ้าง จับเครื่องประดับบ้าง แต่ไม่ใช่แนวของตน ไม่ชอบ เพราะตนชอบแบรนด์ดัง ราคาในร้านแค่หลักร้อยหลักพัน แพงสุดแค่หลักหมื่น ถือว่าหรูแล้ว แต่สำหรับริก้าคือไม่ใช่ล่ะ ราคาต้องหลักแสนขึ้น
ลักขณาสังเกตญาติสาวว่ามีเจตนาใด แล้วไม่ยากหรอกที่จะรู้
ริก้าไม่ใช่คนอ่านยากอะไร ทำอะไรตามอารมณ์ และแค่อยากสนุกๆ เป็นเด็กไม่รู้จักโต เหมือนธีทัตเคยพูดเสมอ อายุก็ยี่สิบกว่าแล้ว แต่ทำตัวเป็นเด็กสิบขวบ
เจ้าหล่อนมองลูกค้าสองคน เจตนาใดล่ะ?
ลูกค้าจับชิ้นไหนและวางเพื่อรอการตัดสินใจ ริก้าก็จะพูดว่า
“ฉันชอบชุดนี้” และหยิบไปวางบนโต๊ะเฉย ที่เคาน์เตอร์รอชำระเงิน
ลูกค้าก็ออกอาการงงๆ แต่พอถูกแย้งสินค้าไปสองครั้งก็ไม่มีอารมณ์จะเลือกสินค้าแล้ว ทั้งที่วางไว้เพื่อเลือกชุดไปลองที่ห้องลอง เพราะวางปุ๊บก็ถูกแย้งไปปั๊บ
ลูกค้ามองหน้าริก้า…เจ้าหล่อนสนเสียเมื่อไหร่ล่ะ ตั้งใจจะทำแบบนี้ก็ทำต่อไป
ลักขณาโคลงศีรษะ กระซิบกับเจ้านายสาว
“คุณริก้า จะแย่งซื้อกับพวกเธอจริงๆ หรือคะ?”
“ก็ชอบ”
“ชอบจริง?”
“บอกว่าชอบ”
“ไม่จริงมั้ง”
“อย่าอวดรู้กว่าริก้าสิ”
ก็ได้…ก็ได้…ดูต่อไป
วิธีการของริก้าได้ผล ลูกค้าสองคนในร้านออกอาการรำคาญ ‘เจ้าหล่อน’ ที่เพิ่งมาใหม่ ซึ่งมีวิธีไล่ทำให้ต้องเดินออกจากร้านอย่างงงๆ
มีคนอย่างนี้ด้วย?
พนักงานขาย รีบไปรายงาน ‘เจ้าของร้าน’
ชาลิสาอยู่ในร้าน แต่พอดีเดินไปริมน้ำดื่มหลังร้าน และเทขนมที่ซื้อมาฝากเด็ก พอได้รับแจ้งจึงออกมาหน้าร้าน ทันเห็นพฤติกรรมของ ‘ริก้า’
ตอนแรก เห็นไม่ถนัดว่าเป็นใคร
ริก้ายังหันหลังให้อยู่ จนลูกค้าในร้านเดินหนีออกไปอีกคน ริก้าจึงหันมาหัวเราะกับลักขณา ที่พูดขึ้นว่า
“คุณริก้าไล่ลูกค้าเขานะ”
“ก็ใช่แน่ะสิ”
“งั้นคุณริก้าก็ซื้อสินค้าเขาแทน”
ริก้าเบ้ปาก
“บ้าเรอะ…สินค้าแบรนด์ไม่รู้จัก ไม่ใส่หรอก เครื่องประดับก็หินสีถูกๆ แต่ตั้งราคาแพงกว่าร้านข้างถนนหน่อย”
“อ้าว…งั้นคุณริก้าก็ตั้งใจป่วนเฉยๆ”
หญิงสาวลอยหน้าลอยตา ยอมรับ
“ใช่…ใช่…กลับได้แล้ว” จะเดินออกร้านก็ถูกเรียกเสียงเข้ม
“หยุดก่อน!”
ริก้าชะงัก เมื่อชาลิสาเดินมาเผชิญหน้าตรงประตู เล่นขวางประตูไม่ให้ออก
สบตากัน ริก้ามีแววตายียวนกวนประสาท แถมยังพูดว่า
“เรียกเหรอ เรียกใครหยุด” และแกล้งมองซ้ายมองขวา “ไม่เห็นมีใครเลย ร้านเล็กๆ แต่เจ้าของร้านเสียงดังจัง”
พูดแบบนี้ กิริยาแบบนี้ ทำให้ชาลิสาเข้าใจทันทีว่า ริก้าตั้งใจมาหาเรื่อง
“คุณตั้งใจมาร้านฉัน”
“อ้าว…เดินผ่านก็เข้า”
“คุณตั้งใจก่อกวน ไล่ลูกค้าฉัน”
“ก้อเห็นว่าน่าสนใจ ก็เลือกๆ ตามพวกนั้น”
“งั้นคุณก็ซื้อสิ แย่งสินค้ากับลูกค้าฉัน แล้วจะเดินออกจากร้านเฉยๆ หรือ”
“ทำไมล่ะ ก็ไม่อยากได้แล้ว”
“คุณเลือกแล้ว”
“เปล่า…”
“หยิบมาวางตรงเคาน์เตอร์ชำระเงิน”
“หยิบวางเฉยๆ หรือวางไม่ได้ ผิดกฎหมายเรอะ”
“คุณแย่งมาจากลูกค้าคนอื่น” ชาลิสาเน้น
“ตอนนั้นเห็นสวยก็อยากได้ แต่ตอนนี้ไม่อยากแล้ว ต้องเข้าใจนะ คุณเจ้าของร้าน อารมณ์ฉันมันขึ้นๆ ลงๆ ยังดีนะไม่หยิบออกไปเฉยๆ แล้วเอาไปทิ้งขยะข้างนอก” ริก้ากวนประสาทจริงๆ อย่างตั้งใจ และเน้นว่า…หยิบออกไปเฉยๆ
ชาลิสาเม้มริมฝีปาก จะจัดการกับคนประเภทนี้อย่างไรดี
ริก้าป่วนร้านจริง แต่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
“โรคหยิบฉวยของคุณคงไม่มากำเริบที่ร้านของฉัน!”
ริก้าอมยิ้ม
“ไม่มั้ง…จะเป็นอะไรบ่อยๆ ก็หาหมออยู่ กินยาแล้ว”
“ฉันว่าโรคของคุณน่ะกว่าเดิม”
อีกฝ่ายเลิกคิ้ว
“ไม่เลย โรคนี้ควบคุมอยู่”
“โรคเอาแต่ใจ โรคประสาท โรคเจ้าอารมณ์ คุณต้องรักษาอีกหลายโรค!”
ริก้าที่มีท่ายียวนกวนประสาท ทำท่ายิ้มเยาะชาลิสาตลอดเวลา พอได้ยินประโยคสุดท้าย ก็ถึงกับยิ้มไม่ออก ยียวนไม่ออก
“ฉันไม่ใช่คนบ้านะ”
ถึงตาชาลิสายียวนกวนประสาทบ้างแล้ว
“คนปกติเขาไม่ทำกันแบบนี้!”
“ฉันเป็นคนปกติ แล้วฉันจะทำ!”
“เพราะฉะนั้น คุณยืนยันการกระทำของคุณ ฉันจะเรียกค่าเสียหาย เท่าราคาชุดกับเครื่องประดับที่คุณหยิบ”
ริก้าเบ้ปาก
“ฉันไม่ซื้อของถูกๆ”
“คุณต้องจ่าย!”
“เงินของฉัน ในกระเป๋าฉัน ฉันไม่จ่ายซะอย่าง”
“คุณต้องจ่าย!” ชาลิสาเน้นอีกครั้งอย่างหนักแน่น แล้วหันไปสั่งเด็กในร้าน “คิดราคาเลย…เท่าไหร่”
ริก้าดื้อพอควร สั่งลักขณา
“ออกจากร้าน!”
“คิดจะหนีหรือ?” เจ้าของร้านขวางหน้า
ริก้าเลิกคิ้ว
“อย่าแตะต้องตัวฉันนะ ฉันจะแจ้งว่าถูกทำร้าย”
ชาลิสาถอนใจยาว
“ฉันไม่แตะต้องตัวคุณ แต่คุณต้องจ่ายมาก่อน”
“ไม่จ่าย!”
คนอย่างริก้าเรอะจะยอมจ่าย ดึงดันจะออกจากร้าน โดยที่เจ้าของร้านไม่แตะต้องตัวเธอ เธอแค่ใช้แรงนิดหน่อย กระแทกตัวชาลิสาจนเซ
ลักขณารีบกระซิบเบาๆ กับชาลิสา เมื่อเห็นว่า ชาลิสาจะพุ่งตัวออกตามริก้า ที่ผ่านประตูออกไปแล้ว
“ฉันจะมาชำระให้ภายหลัง”
ได้ยินเช่นนี้ ชาลิสาจึงยอมหยุด และกล่าวว่า
“ฉันให้เวลาแค่สี่สิบแปดชั่วโมง ถ้าไม่มาชำระ จะเห็นดีกัน”
ลักขณาชะงักวูบเดียว
โอ้โฮ…เสียงเด็ดขาดมาก มีเวลาให้ซะด้วย จึงรีบรับคำ
“ได้…ได้…”
แล้ววิ่งตามริกก้าออกไปอย่างรวดเร็ว
ชาลิสากลับมาถึงบ้านอย่างเซ็งๆ
วันนี้ที่ร้านเสื้อมีปัญหา ถูกริก้าป่วน เลยทำให้โชคไม่ดี ทั้งวันขายไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยริก้าก็ยังติดหนี้หญิงสาวอยู่สามหมื่นกว่า เป็นค่าเสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่ริก้าไล่ลูกค้าตัวจริงออกจากร้าน
เห็นจวนก็ถามประโยคแรก
“พ่อกับแม่เป็นอย่างไรบ้าง?”
เพราะกลับดึก พ่อกับแม่เข้านอนแล้ว เด็กที่ดูแลท่านเพิ่งอาบน้ำและจะได้พักผ่อนบ้าง
“เหมือนเดิมค่ะ วันนี้ท่านทั้งสองเงียบมาก แต่คุณยายสิคะ เสียงดังทั้งวัน เอ้อ…คือ…”
“ยายพูดอะไรเหรอ?”
“เอ้อ…คือ…ท่านบ่น…บ่นว่า…ไม่มี…ไม่มีเงิน…”
“มีโทรศัพท์ถึงยายสิท่า”
“ค่ะ เพื่อนๆ ท่านชวนท่านไปล่องเรือสำราญค่ะ”
เรือสำราญอีกแล้วหรือ?
มองเห็นเงินจำนวนแสนๆ จะปลิวออกจากกระเป๋า ชาลิสามีเงินสำรองนะ แต่ต้องเก็บสำรองไว้จริงๆ เผื่อฉุกเฉินในบ้าน โดยเฉพาะฉุกเฉินบ่อยมากกับค่ารักษาพยาบาลบิดามารดาที่มีประจำเพราะโรคประจำตัว
“จวนไปนอนได้แล้ว” โบกมืออย่างหมดแรง ไม่รู้จะต้องเจอฤทธิ์คุณยายอย่างไรต่อไป
ชาลิสาขึ้นไปชั้นบน และเดินผ่านห้องของน้องชาย ได้ยินเสียงค่อนข้างดังออกมาถึงข้างนอก
ดึกแล้วน้องชายยังไม่หลับ แต่ไม่แปลกใจหรอก เพราะน้องชายนอนดึกประจำ จึงเคาะประตู
“พี่เอง…”
ชายหนุ่มเดินออกมาเปิดประตู
“เพิ่งกลับหรือครับ พี่สา”
“อือม์…ทำอะไรอยู่?”
“เล่นเกมส์ครับ”
หญิงสาวมองไปที่โต๊ะข้างเตียงน้องชาย เล่นเกมส์เป็นเรื่องปกติของน้องชายอยู่แล้ว แต่ที่ผิดปกติก็คือ
“คอมเครื่องใหม่?”
สายตาหญิงสาวไวเสมอ ช่างสังเกตเสมอ
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 6 : ป่วนร้านเสื้อ
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 5 : นกน้อยในกรงทอง
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 4 : ปัญหาต่างๆ ของชาลิสา
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 3 : ฉันกับสาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 2 : สาวเจ้าอารมณ์
- READ ฉันเป็นเลขาของสาวเจ้าอารมณ์ ตอนที่ 1 : ฉัน