เรื่องเล่าจากนักเขียนกับนวนิยายใหม่ บนเวทีงานจัตุรัสจามจุรี บุ๊กแฟร์ ครั้งที่ ๑๗ EP1

เรื่องเล่าจากนักเขียนกับนวนิยายใหม่ บนเวทีงานจัตุรัสจามจุรี บุ๊กแฟร์ ครั้งที่ ๑๗ EP1

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สามสาวนักเขียน แสนแก้ว เวฬุวลี และนวาภัส จากบ้านกรู๊ฟ หรือ สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ได้มีโอกาสขึ้นเวทีเสวนา ‘เรื่องเล่าจากนักเขียนกับนวนิยายใหม่’ ที่งานจัตุรัสจามจุรี บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ ๑๗ โดยมีคุณอาภากร โพทชีน เป็นผู้ดำเนินรายการ

ผลงานใหม่ของสามนักเขียนนี้ได้เปิดตัวไปแล้วในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (BOOK EXPO THAILAND 2024) ที่ผ่าน ซึ่งแสนแก้วมีผลงานเรื่อง พลิกรักทำนายใจ เวฬุวลีมีผลงานเรื่อง ฤทัยยักษ์ และนวาภัสมีผลงานเรื่อง ลูกไม้เกี่ยวรักโดยทั้งสามเรื่องต่างเป็นผลงานที่ส่งเข้าประกวดใน ‘โครงการช่องวันอ่านเอา ปี ๔’ และได้รับคำชื่นชมจากคณะกรรมการและแฟนๆ นักอ่านในเพจอ่านเอาเป็นอย่างมาก

ในโอกาสที่ทั้งสามคนได้รับเกียรติขึ้นเสวนาถึงผลงานเขียนของพวกเธอ ทั้งหมดก็ได้แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองแบบจัดเต็มและสื่อให้เห็นว่าถ้ามีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะสร้างงานเขียน วันหนึ่งความฝันก็เป็นไปได้ รวมถึงก้าวต่อไปคือการสร้างผลงานให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยนักเขียนเองก็ต้องทำงานหนักทั้งในเรื่องการหาข้อมูล การร้อยเรียงวรรณศิลป์ เข้าใจตลาด เพื่อทำให้งานของตัวเองยืนระยะครองใจนักอ่านได้อีกยาวนาน

ฮูกเห็นว่าการเสวนาครั้งนี้มีประโยชน์มากมาย จึงนำบางส่วนบางตอนมาเล่าสู่กันฟัง บางทีนอกจากจะให้เราเห็นความงามในมิติอื่นของนิยายทั้งสามเรื่อง ยังอาจเติมไฟฝันให้ใครบางคนที่อยากเป็นนักเขียนบ้างก็เป็นได้

ไม่ว่าจะเรียนและทำงานอะไรก็เป็นนักเขียนได้ทั้งนั้น

นักเขียนหลายคนอาจไม่ได้เดินทางตรงเพื่อจะพาตัวเองไปสู่เส้นทางการเขียน แต่พวกเธอและเขาต่างรู้ดีว่า เมื่อมีโอกาสเข้าสู่ลู่ทางการเขียนเมื่อไหร่ก็จะไม่พลาดที่จะลองก้าวเข้าไปลองดูสักตั้ง เช่นเดียวกับนักเขียนทั้งสามคน อย่างแสนแก้วเธอเรียนจบปริญญาตรีและโททางด้านวิทยาศาสตร์ แต่เพราะใจรักในการขีดเขียนจึงปักธงไว้ในใจเล็กๆ ว่าวันหนึ่งจะสร้างสรรค์ผลงานจากโลกที่ตัวเองจินตนาการไว้

“พอมีโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ ๑ จึงเข้าร่วมโครงการและได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากเรื่อง Messy Buddy คุณบัดเดอร์ ใช่เธอหรือเปล่า? จนได้ออกผลงานกับทางสำนักพิมพ์กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง และมีผลงานทยอยออกมาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งนิยายเรื่อง ดวงใจจอมกระบี่ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ หมวดนิยายรัก โครงการช่องวันอ่านเอา ปี ๒ ก็ได้ถูกนำไปสร้างเป็นละครแล้วเรียบร้อย”

ปัจจุบันแสนแก้วมีนิยายที่พิมพ์กับสำนักพิมพ์กรู๊ฟ พับลิชชิ่งทั้งหมด ๔ เรื่องด้วยกัน โดยมีเรื่อง โจรกรรมขำขัน ที่ลงในเพจอ่านเอาและทางสำนักพิมพ์ได้นำไปรวมเล่มพิมพ์จัดจำหน่ายด้วย

ส่วนเวฬุวลีเองปัจจุบันอาจารย์สอนเรื่องสื่อ ภาพยนตร์ ที่ธรรมศาสตร์ แต่ก็แวะเวียนมาเป็นนักเขียนด้วยเช่นกัน ผลงานที่ได้เห็นผ่านตา ได้แก่ คดีรักร้าง ที่ทางช่องวัน 31 ได้นำมาสร้างเป็นละครเรื่อง สงครามสมรส จนได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ล่าสุดเวฬุวลีมีผลงานเรื่อง ฤทัยยักษ์ ออกมาให้แฟนๆ นักอ่านได้อ่านกันอีกหนึ่งเรื่อง เธอเล่าย้อนให้ฟังถึงช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางนักเขียนให้ว่าตอนเรียนจบใหม่ๆ เคยเป็นพนักงานตรวจสอบบัญชี แต่รู้สึกว่าไม่ใช่เส้นทางของตัวเอง จนมีโอกาสเข้าอบรมเรื่องเขียนบทกับทางช่องวัน 31 ที่ในเวลานั้นคือ Exact ทำให้เข้าสู่การเป็นนักเขียนบทอย่างจริงจัง

เวฬุวลีทำงานด้านนักเขียนบทโทรทัศน์อยู่ ๗-๘ ปี จึงตัดสินใจไปเรียนต่อ เมื่อกลับมาก็พยายามหาช่องทางในการเขียนงาน จนมาเจอโครงการช่องวันอ่านเอา ซึ่งคัดเลือกนวนิยายเพื่อไปสร้างเป็นละครของช่องวัน 31 ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเข้าทางเพราะว่ามีประสบการณ์ของการเขียนบทละครเลยลองเข้าร่วมโครงการจนปีที่สองเวฬุวลีก็ได้รับรางวัลจากเรื่อง คดีรักร้าง หรือ สงครามสมรส ซึ่งชนะเลิศในหมวดดรามา ครอบครัว และนั่นคือก้าวแรกที่เข้าสู่วงการนักเขียนอย่างเต็มตัว

สำหรับนภาวัสเองปัจจุบันเธอเป็นครีเอทีฟรายการทีวี ทำเรื่องราวเกี่ยวกับสารคดี รวมถึงเขียนบทละครโทรทัศน์ซึ่งที่มาที่ไปของการทำงานสายนี้มาจากการชอบอ่านชอบเขียนนิยายมาตั้งแต่เด็กโดยมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง

“คุณพ่อชอบอ่านนิยายหลายเรื่องค่ะ อย่างเช่นเรื่อง พล นิกร กิมหงวน ทำให้เรากลายเป็นคนที่รักการอ่านและการเขียน ที่ผ่านมาเคยมีผลงานลงในเพจนิยายมาบ้าง กระทั่งเข้าได้ร่วมโครงการช่องวันอ่านเอา ปี ๒ และได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการในการเขียนนิยายเพิ่มเติม ซึ่งได้นำมาปรับใช้กับผลงานตัวเอง ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลเช่นเดียวกับแสนแก้ว และเวฬุวลี แต่ทางช่องวัน 31 ก็ได้คัดเลือกเรื่อง เหมันต์ตะวันรอน ผลงานของเรามาสร้างเป็นละคร และมีคิวออนแอร์ปีหน้าค่ะ”

ชีวิตจริงที่อิงอยู่ในนิยาย

นักเขียนหลายๆ คนมักนำเรื่องราวรอบตัวหรือเรื่องราวส่วนตัวลงมาใส่ไว้ในผลงานของตัวเองอย่างแนบเนียน ทั้งสามสาวก็เช่นกัน อย่างนวาภัสก็ได้เล่าให้ฟังว่าแรกๆ ที่เขียนก็ไม่รู้ตัว แต่เมื่อสังเกตผลงานของตัวเองก็พบว่ามีเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวซ่อนไว้อยู่ในผลงานทุกเรื่อง “ตรงนี้เหมือนสะท้อนประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวในนั้นอยู่เหมือนกันแล้วพอมีประสบการณ์มากขึ้นก็เริ่มใส่เรื่องราวกลิ่นอายที่เคยเห็นในอดีตเข้ามาด้วย อย่างในเรื่องเหมันต์ตะวันรอนก็จะมี สภาพสังคมยุค 90 ธรรมชาติของช่วงเวลานั้นที่อยู่ในนี้ด้วยเป็นต้นค่ะ”

ส่วนเวฬุวลีเองก็ได้ยกตัวอย่างความสัมพันธ์ของเธอกับกลุ่มเพื่อนสนิทที่ใส่บางเรื่องไว้ในเรื่อง คดีรักร้าง หรือสงครามสมรส เช่นเดียวกัน

“ในเรื่องจะมีจุดที่มีคนพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน อย่างเช่นตัวละครที่เป้ย-ปานวาด เหมมณี เล่น ซึ่งเป็นเพื่อนที่คอยชี้แนะแนวทางเวลามีปัญหา ตรงนี้ก็ได้แรงบันดาลใจจากตัวเองค่ะ เพราะเวลาเรามีปัญหาก็มีเพื่อนที่ให้คำปรึกษา ให้สติ และให้กำลังใจ คล้ายกับตัวละครนี้ที่เป็นเหมือนเพื่อนที่ให้คำปรึกษาตลอดเวลา ส่วนพระเอกก็เหมือนเป็นชายในฝันของเรา แน่นอนว่าในชีวิตจริงอาจไม่ได้เจอผู้ชายแบบนั้น แต่ก็ใส่จินตนาการเข้าไป วาดฝันว่าพระเอกควรจะเป็นคนแบบไหน อย่างเช่น คุณทนายที่เป็นตัวละครก็ดูสุขุม มีเหตุผล และมีมุมอ่อนโยนทำให้ใจบาง ซึ่งลักษณะนี้มาจากอาจารย์ที่เคยสอนกฎหมายลิขสิทธิ์ คือมารู้ตัวที่หลังนะคะว่ามีลักษณะคล้ายๆ อาจารย์เรา เหมือนอาจจะเป็นไอดอลทำให้เรารู้สึกว่าทนายที่ดีควรจะเป็นอย่างนี้ เลยใส่ตัวละครที่มีลักษณะนี้เข้ามาค่ะ”

สำหรับแสนแก้วนั้นเธอได้ยกตัวอย่างเรื่อง พลิกรักทำนายใจ ที่นางเอกเป็นหมอดูซึ่งเชื่อในความมูและโชคชะตา โดยเธอได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนสนิทที่เป็นหมอดูไพ่ยิปซี

“ตัวเพื่อนเองเวลาจะตัดสินใจอะไรไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ถามไพ่เสมือนที่ปรึกษาส่วนตัว เลยหยิบประสบการณ์นี้มาใส่ในตัวละครค่ะ” นอกจากนี้เพื่อนนักเขียนอย่างนวาภัสยังแซวด้วยว่า ตัวพระเอกในเรื่องซึ่งเป็นนักกีตาร์และช่างทำเอฟเฟ็กต์กีตาร์ก็มาจากหนุ่มสุดสนิทของแสนแก้วเอง และนักเขียนสาวอารมณ์ดีก็ยอมรับด้วยร้อยยิ้มที่มีความสุขอีกด้วย

เรียกว่าแรงบันดาลใจของนักเขียนหลายคนนั้นมักมาจากความทรงจำ หรือเรื่องใกล้ตัว และนั่นยิ่งทำให้การเล่าเรื่องของพวกเขาดูมีอรรรสมากยิ่งขึ้น

ในครั้งหน้าทั้งแสนแก้ว เวฬุวลี และนวาภัส จะแชร์เรื่องแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นิยายของพวกเธอ รวมถึงชีวิตของการเป็นนักเขียนของว่า อะไรคือความท้าทายในอาชีพนี้ อีกทั้งอุปสรรคที่พบเจอคืออะไร และผลงานในอนาคตอันใกล้นั้นมีเรื่องอะไรกันบ้าง

Don`t copy text!