“จักรวาลปิยะพร” จักรวาลแห่งโยงใยไร้ที่สิ้นสุด
โดย : YVP.T
ถ้าคุณคิดว่า การก่อกำเนิดและดำเนินมาแห่งจักรวาลมาเวลมีระยะเวลาที่ยาวนาน ขอบอกตรงนี้เลยว่า ในแวดวงวรรณกรรมบ้านเราก็มีจักรวาลแห่งงานเขียนที่มีระยะเวลายาวนานไม่แพ้กัน (เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘จักรวาลปิยะพร’ จักรวาลแห่งการเชื่อมโยงของตัวละครจากเรื่องหนึ่งสู่อีกเรื่องหนึ่ง ผ่านความคิดและการร้อยเรียงจาก “ปิยะพร ศักดิ์เกษม”
แฟนพันธุ์แท้งานเขียนของ ปิยะพร ศักดิ์เกษม เคยมีการชี้ชวนกันลำดับแผนผังตัวละครกันมาอย่างสนุกสนาน แต่รู้หรือไม่ว่าจักรวาลที่ว่านี้ มีอายุยาวนานมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2534
“จักรวาลปิยะพร เริ่มตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2534 ค่ะ แต่ที่จริงแล้วการสร้างจักรวาลแบบนี้ก็มีนักเขียนทำกันมาก่อนแล้วนะคะ เช่น “พนมเทียน” หรือคุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ ทำไว้กับชุดนิยายรักของท่านคือเรื่อง มัสยา กัลปังหา แววมยุรา ละอองดาว สกาวเดือน รัศมีแข “ว. ณ ประมวญมารค” หรือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็ทำไว้กับนิยายชุด ปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และ รัตนาวดี พี่ชอบทั้งสองท่านมาก เมื่อมาเขียนงานของตัวเองจึงลองทำบ้าง โดยเปิดจักรวาลมาด้วยการเขียนเรื่อง ‘ทรายสีเพลิง’ ค่ะ
“ทรายสีเพลิง เป็นนิยายเรื่องที่สามที่เขียน ตอนนั้นนิยายเรื่องแรกที่เขียนคือเรื่อง “ตะวันทอแสง” มีการรวมเล่มแล้ว และนิยายเรื่องที่สองคือ เรื่อง “ระบำดาว” ซึ่งกำลังลงพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย ขณะที่เขียน “ทรายสีเพลิง” เนื้อเรื่องพาไปถึงตอนที่ต้องอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของ “ทราย” กับ “ฌาน” ซึ่งเป็นตัวละครหลักในเรื่อง
“ทีนี้การจะเล่าหรืออธิบายเป็นบทบรรยายก็จะน่าเบื่อและขาดความเคลื่อนไหวในฉากนั้นๆ ก็เลยใช้วิธีอธิบายผ่านการพูดคุยของตัวละครประกอบตามเนื้อเรื่อง ซึ่งตอนนั้น ทราย กับ ฌาน อยู่ที่อเมริกา เราจะสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่เป็นสมศรีกับสมชาย ซึ่งเป็นเพื่อนของ ฌานกับทราย ให้มานั่งคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดของคนทั้งคู่ก็ได้ แต่ด้วยความคิดถึงตัวละครเดิมจากเรื่องที่จบไปแล้ว ประกอบกับคิดว่าจะต้องไปตั้งชื่อใหม่ทำไม เพราะตอนนั้น คีตากับงามสรรพ ซึ่งเป็นพระเอกนางเอกในเรื่อง “ระบำดาว” ก็มาเรียนหนังสือต่ออยู่ที่อเมริกาพอดี ก็เลยหยิบเอาทั้งสองคนมาใช้ให้เป็นประโยชน์และให้ผู้อ่านแก้ความคิดถึงไปในตัวด้วยค่ะ”
สร้างสรรค์จักรวาลไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่าย
“การโยงตัวละครหรือแม้แต่เหตุการณ์จากเรื่องหนึ่งไปยังอีกเรื่องหนึ่งไม่ยากหรอกค่ะ เคล็ดลับคือ เราต้องแม่นในเหตุการณ์ ช่วงเวลา และตัวละครในเรื่องนั้นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ยากและเครียดก็คือ ความตั้งใจว่าจะโยงให้ “ทุกเรื่อง” ที่เขียนเกี่ยวข้องกันให้หมด โดยให้เกี่ยวข้องกันผ่านเหตุการณ์ ตัวละครเอกหรือตัวละครประกอบในเรื่อง
“พอตั้งใจอย่างนี้แล้ว การโยง 5-6 เรื่องเข้าด้วยกันนั้นง่ายมากค่ะ แต่พอเขียนหลายเรื่องเข้าก็เริ่มยากแล้ว เพราะกว่าจะโยงตัวละครได้ เราต้องย้อนกลับไปตรวจดูในเรื่องของช่วงเวลา เหตุการณ์และสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่เราจะโยงให้ถูกต้องที่สุด ซึ่งต้องไม่พลาดค่ะ วิธีการที่ใช้คือ ตอนเขียนนิยายแต่ละเรื่องก็จะทำตารางเอาไว้แล้ว บันทึกทั้งเหตุการณ์และช่วงอายุของตัวละคร เวลาต้องกลับไปดูจึงไม่ยากจนเกินไป”
ประสบการณ์สู่การโยงใย
“เวลาจะเกิดมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่นะคะ เขียนๆ ไปแล้วจะรู้สึกเองว่า “เราเอาตัวละครเก่ามาใช้ดีกว่า” หรือ “เอ๊ะ! เรื่องนี้น่าขยายต่อเป็นอีกเรื่องนึงได้นะ”
“ตลอดเวลาที่เขียนสร้างโยงใยแบบนี้ ที่วางแผนไว้ล่วงหน้ามีแค่ ชุดในวารวัน ตะวันเบิกฟ้า ขอบฟ้าราตรี เท่านั้นค่ะ สามเรื่องนี้วางแผนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มต้นว่าจะเขียนเป็นสามภาค ต่อเนื่องกัน และกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเลยด้วยว่าให้สามเรื่องที่ต่อกันนี้มีสามรสด้วยค่ะ
“ซึ่งเรื่องการสรัางโยงใย หรือการสร้างจักรวาลนี้ พี่ได้อธิบายไว้โดยละเอียดในคอลัมน์สอนเขียนนิยาย ตอน “เมื่อคิดสร้างโยงใย 1-3” ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูได้นะคะ”
เพราะนิยายทุกเรื่องมีความสมบูรณ์แบบในตัวเอง
“ข้อดีของการมีจักรวาลปิยะพรคือ ผู้อ่านชอบและสนุกไปกับผู้เขียนค่ะ เพราะขณะที่อ่าน จะได้อ่านไปด้วยคิดไปด้วยว่า เรื่องนี้ใคร มาจากไหน มาโผล่ตรงนี้ได้อย่างไร และถ้าเป็นตัวละครคนโปรด นักอ่านก็จะดีใจมากเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานน่ะค่ะ
“แต่ในขณะเดียวกัน ข้อเสียก็มีเหมือนกัน คือมีผู้อ่านบางคนคิดว่าถ้าไม่อ่านต่อกันจะไม่รู้เรื่องทำให้ไม่อ่านไปเลยเพราะเขาบอกว่าเขาไม่รู้จะเริ่มตรงเรื่องไหน และคิดว่ามันเป็นภาระผูกพันที่จะต้องอ่านต่อกันไป แต่อันที่จริงแล้วนิยายทุกเรื่องที่เขียน ไม่ว่าจะมีการโยงใยถึงกันอย่างไร ทุกเรื่องก็จะจบสมบูรณ์ในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องอ่านต่อกันหรือไม่ต้องนึกถึงกันเลยก็ยังได้ค่ะ”
คุยกันถึงตรงนี้แล้ว ฮูกก็เกิดสงสัยว่า เอ…จักรวาลปิยะพรที่มีโยงใยมากมายมาเกือบ 30 ปี จะมีวันหนึ่งในอนาคตไหมที่เกิดเซอร์ไพร้ส์เหมือนจักรวาลมาเวลที่ตอนท้ายธานอสดีดนิ้วเปลี่ยนโลก ซึ่งคำตอบที่ได้มาก็คือ…
“ไม่แน่นอนค่ะ ธานอสเป็นผู้ทำลายไม่ใช่ผู้สร้าง แต่ ‘ปิยะพร’ อุตสาหะเรียงร้อยทุกเรื่องเป็นจักรวาลขึ้นมาใช้เวลายาวนานถึงสามสิบปีแล้ว จะไม่ดีดนิ้วลบไปเลยแม้แต่คนเดียวแน่นอนค่ะ”