โหงลำโขง บทที่ 6 : ลูกรักและลูกชั่ว (3)

โหงลำโขง บทที่ 6 : ลูกรักและลูกชั่ว (3)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

อันที่จริง ท้าวคำมั่นเป็นคนรักภรรยามาก ถึงขนาดยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างเพื่อที่จะได้แต่งงานและครองรักกับแม่จำปูนมาถึงทุกวันนี้ ในอดีตเขาเคยเป็นนักเลงที่ชอบใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งยังเป็นคนโมโหร้าย ยิ่งถ้าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ เขาก็พร้อมจะปะทะแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จนกระทั่งมาพบรักกับแม่จำปูน พฤติกรรมและความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เขาใจเย็น สุขุม และมีความอดทนมากขึ้น จนในที่สุดก็ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจเหนือคนในชนเผ่าอย่างสง่างาม โดยมีภรรยาอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จนี้

 

ตกดึก…จำปีก็เดินถือขวดยาสมุนไพรเข้ามาภายในห้องนอนของจำปา เพื่อที่จะช่วยทายารอบๆ บาดแผลตามแข้งขา แม้มีแสงจากเทียนเพียงเล่มเดียว เธอก็มองเห็นฝาแฝดของตนที่นอนคว่ำตัวบนที่นอนด้วยความเจ็บปวดอย่างชัดเจน ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้ายิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดจากสิ่งที่จำปีได้กระทำลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

“นั่นใคร พ่อหรือจ๊ะ” จำปารู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาในห้องเธอ จึงเอ่ยถามขึ้นทั้งที่ตายังคงหลับอยู่

จำปีค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปนั่งลงข้างๆ จำปา “เอื้อยเอง แม่บอกให้เอายามาทา”

“วางเอาไว้ตรงนั้นแหละ แล้วออกไปได้เลย”

“เออ…จำปา”

“กะบอกให้ออกไปไงล่ะ” จำปาพยายามไล่พี่สาวออกไปจากให้เร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะหมดความอดทน “นั่งซื่อบื้ออยู่เฮ็ดหยัง รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

“เอื้อยอยากขอโทษน้อง เรื่องมื้อนี้” จำปีวางขวดยาลงข้างๆ ตัว ก่อนนำมือทั้งสองมาประกบกันแน่น เพื่อลดความประหม่าลง

“นิสัยของเอื้อยบ่เคยเปลี่ยนเลย ชอบฟ้องแม่เป็นที่หนึ่ง” จำปาลืมตาหันไปมองใบหน้าของจำปีก่อนที่จะถามในสิ่งที่เธอคลางแคลงใจ “เป็นหยังเอื้อยถึงอ้างว่าเป็นชาวบ้านด้วยล่ะ ทั้งๆ ที่มีแค่เอื้อยคนเดียวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด”

“บ่ฮู้คือกัน” น้ำตาของจำปีเริ่มปริ่มรอบขอบตา “ตอนนั้นกะบ่เข้าใจเจ้าของคือกัน พอเห็นอ้ายคูนกอดน้อง เอื้อยกะควบคุมอารมณ์เจ้าของบ่ได้”

“เอื้อยคงอยากสิให้ข่อยได้แต่งงานกับเขาแม่นบ่ ถึงได้กล้าเอาเรื่องนี้มาฟ้องแม่”

จำปีส่ายหน้าทั้งน้ำตา “เอื้อยขอโทษ เอื้อยบ่คิดว่าแม่สิโกรธหนักขนาดนี้”

จำปาเห็นน้ำตาของพี่สาวแล้วก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ “เอื้อยบ่ต้องมาขอโทษหรอก ทุกอย่างที่เอื้อยฟ้องแม่ไปนั้น มันกะคือเรื่องจริง เดี๋ยวมื้ออื่นเช้าข่อยที่บอกพ่อกับแม่เอง…ว่าพ่อชายคนนั้นคือใคร อย่างน้อยพ่อกะสิได้เชื่อว่าเอื้อยพูดความจริง”

“อย่าเด้อจำปา อย่าบอกชื่อพ่อชายคนนั้นเด็ดขาด” จำปีพนมมือขึ้นไหว้ทั้งน้ำตา “ขอร้องล่ะ อย่าเอ่ยเรื่องนี้ออกมาอีกเลย ขอให้ทุกอย่างมันจบไว้แต่เพียงเท่านี้เถอะนะ”

“เป็นหยัง…อย่างน้อยพ่อชายคนนั้นกะสิได้รับโทษบ้าง เขามีสิทธิ์หยังถึงกล้ามากอดข่อย โดยที่ข่อยบ่ได้ยินยอมด้วยซ้ำ” จำปาค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง “บ่เคยฮู้จักหรือพูดคุยกันเลย นี่มันคงเป็นบ้าแน่ๆ ถึงได้กล้าเฮ็ดแบบนี้กับข่อย”

จำปีส่ายหน้าหนักขึ้น “อย่าเด็ดขาด บ่งั้นพ่อกับแม่คงจับอ้ายคูนกับน้องแต่งงานกันแน่ๆ”

“สิแต่งงานกันได้อย่างไง ข่อยเป็นผู้เสียหายเด้อ คนแบบมันต้องได้รับโทษหนัก หรือต้องถูกพ่อขับไล่ออกไปจากหมู่บ้านนี้โดยเร็ว”

“อ้ายคูนคงสิจำคนผิด คิดว่าน้องเป็นเอื้อย กะเฮาเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันตั้งแต่หัวจรดเท้า”

“หมายความว่าไง พ่อชายคนนั้นกอดผิดคนงั้นเหรอ” จำปาขมวดคิ้วเงยหน้ามองหลังคาเฮือน เธอไม่เข้าใจเลยว่าอะไรทำให้พี่สาวของตนคิดว่าชายคนนั้นกอดผิดคน ทั้งที่ในวันนั้นเธอและจำปีต่างก็แต่งกายต่างกัน แถมพ่อชายคนนั้นดูเหมือนจงใจแอบเดินตามเธอมาอีกด้วย

จำปีพยักหน้าออกมาเพื่อเน้นย้ำว่าคูนกอดผิดคน

“อย่าบอกเด้อว่า แม่หญิงที่บักนั้นสิกอดคือเอื้อย” จำปายิ่งเกิดความงุนงงมากขึ้น “จำปีตั้งสติก่อนเด้อ บักนั้นมันอาจเป็นผีบ้าที่ชอบละลาบละล้วงแม่หญิง…”

“อ้ายคูนคงจำผิดคน” จำปีรีบพูดสวนขึ้น ทั้งที่จำปายังพูดไม่ทันจบประโยค “อ้ายคูนกับเอื้อยนั้น เฮาสองคนฮักกัน”

“ฮักกัน” จำปาคิ้วขมวด “ไปฮักกันตอนไหน”

“ตั้งแต่มื้อที่อ้ายคูนไปช่วยเอื้อยให้รอดจากโจรป่าและพาขึ้นมาจากลำโขงนั่นแหละ” พอพูดถึงเรื่องความรัก จากที่จำปีกำลังจะร้องไห้ น้ำตาเธอกลับไหลกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนมีความสุขแทน

“แล้วเขาเคยบอกฮักเอื้อยอยู่บ่”

จำปีส่ายหน้า “ถึงอ้ายคูนสิบ่ได้บอกคำว่าฮักออกมาตรงๆ แต่การกระทำของอ้ายคูน กะบ่งบอกแล้วว่าฮักเอื้อยหลาย” ทุกครั้งที่เธอพูดชื่อคูน รอยยิ้มที่มุมปากและตาที่เป็นประกายก็มักจะเผยออกมาให้เห็นทุกครั้ง “อ้ายคูนคงเป็นสายแนนที่พญาแถน คงส่งมาให้ครองคู่กันกับเอื้อยอย่างแน่นอน” เธอคว้ามือของจำปามากุมเอาไว้มือของตัวเอง “เรื่องบาดหมางที่ผ่านมาของเฮาสองคน ขอให้มันจบและปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตไปเด้อ ถ้ามีเรื่องใดที่เอื้อยเฮ็ดให้น้องขุ่นเคืองใจ เอื้อยกะขอโทษน้องหลายๆ”

“แบบนี้กะดีคือกัน ต่อไปเฮากะสิได้ต่างคนต่างอยู่” จำปาดึงมือตัวเองออกมาจากอุ้งมือของจำปี “แต่เรื่องบักนั่นที่มันมากอดข่อย อย่างน้อยกะต้องบอกพ่อเอาไว้”

“บ่ได้เด้อ” จำปีคว้ามือของจำปามากุมเอาไว้อีกครั้ง “พ่อชายกับแม่หญิงที่ผิดผีกันแล้ว ผู้ใหญ่มีแต่สิจับมาแต่งงานกันทั้งนั้น ในเมื่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด กะให้มันแล้วๆ กันไปเสีย”

“เอื้อยปกป้องมัน ทั้งๆ ที่มันเพิ่งสิเข้ามาในหมู่บ้านบ่นานนี่นะ”

“บอกแล้วไง…อ้ายคูนคือคู่ครองของเอื้อย”

“แล้วยังไง ถ้ามื้อนั้น…แม่หญิงที่มันกอดคือเอื้อย เอื้อยกะยอมให้มันเฮ็ดอย่างงั้นเหรอ”

จำปีพยักหน้าแทนการตอบว่าใช่ จำปารู้สึกตกใจปนเอือมระอาพี่สาว เธอตกใจมากขึ้นเมื่อจู่ๆ จำปีก็ก้มลงกราบเธอ

“เอื้อยขอละเด้อ” จำปีเงยหน้าขึ้นมา “อย่าบอกพ่อกับแม่เลย ถ้าชาตินี้เอื้อยบ่ได้แต่งงานกับอ้ายคูน ชีวิตคงทุกข์ระทม เอื้อยขอผูกคอตายไปเลยเสียดีกว่า ถ้าสิบ่ได้อยู่ครองคู่กัน”

“นี่ถึงกับต้องผูกคอตายเลยเหรอ แค่พ่อชายคนเดียวนี่นะ” จำปาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “พ่อชายมีตั้งหลายคนในหมู่บ้าน แค่เอื้อยบ่ได้ครองคู่กับเขา ถึงกับต้องเสียสละชีวิตตัวเองเลยยังงั้นเหรอ ประหลาดแล้วคนเฮา”

“น้องบ่เคยมีความฮักกับพ่อชาย น้องบ่ฮู้หรอกว่า…คนที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่แท้ของกันและกัน ย่อมตายแทนกันได้ เช่นนั้นอย่าบอกพ่อกับแม่เลย ขืนน้องบอกไป…แล้วเกิดพ่อกับแม่จับน้องและอ้ายคูนแต่งงานกันขึ้นมา อยู่กันไปกะมีแต่ความทุกข์ใจแน่ๆ” จำปีจ้องไปที่ดวงตาของน้องสาว “สัญญากับเอื้อยได้บ่…จำปา น้องสิบ่เอ่ยเรื่องนี้ออกมาอีก และน้องสิบ่ยุ่งกับอ้ายคูน”

จำปาพยักหน้าออกไป ทั้งที่ไม่เข้าใจในความคิดและการกระทำของจำปีเลยด้วยซ้ำ และเพื่อไม่ให้พี่สาวผูกคอตายเพียงแค่พ่อชายคนเดียว เธอจึงจำยอมเป็นคนไม่ดีในสายตาของแม่ต่อไป ทั้งที่ตนนั้นไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

นับตั้งแต่นั้น จำปาก็เริ่มอยู่เฮือนกับแม่มากขึ้นตามคำมั่นของตนที่ให้ไว้ จากแม่หญิงที่เคยร่าเริงและเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา ก็แปรเปลี่ยนเป็นคนเก็บตัวเงียบและพูดน้อย งานบ้านงานเฮือนที่ไม่เคยถนัดก็เริ่มชำนาญและกลายมาเป็นผู้ทำอาหารในทุกมื้อให้แก่คนในครอบครัวอีกด้วย เป็นเหตุให้ชาวบ้านเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอไปในทางที่แม่หญิงของคนในหมู่บ้านนี้ควรจะเป็นกัน…



Don`t copy text!