โหงลำโขง บทที่  11 : แห่พระข้ามโขง (1)

โหงลำโขง บทที่ 11 : แห่พระข้ามโขง (1)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

เหตุการณ์แม่หญิงถูกลักพาตัวที่ผ่านมา เป็นเครื่องย้ำเตือนให้ผู้นำชนเผ่าได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกบ้านมากขึ้นกว่าเดิม เพราะภายภาคหน้าอาจต้องเผชิญกับสิ่งที่มองไม่เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ การสร้างองค์พระขึ้นมาในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นให้คนในชนเผ่ามีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจและหวังว่าบุญบารมีขององค์พระจะช่วยคุ้มกันให้ชาวเผ่ารอดพ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงอีกด้วย

โดยองค์พระที่สร้างขึ้นมานี้ ชาวบ้านได้ออกเงินร่วมกันเพื่อนำไปว่าจ้างช่างจากเมืองไชยบุรี คนทั้งหมู่บ้านร่วมกันขนานนามองค์พระนี้ว่า ‘หลวงพ่อพระสาน’ (1) ซึ่งชื่อนี้สื่อถึงความสามัคคีปองดองที่ชาวเผ่าคอยเกี่ยวสานกันไว้ให้แน่นเป็นปึกแผ่น

บัดนี้องค์พระได้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย วันนี้คือฤกษ์งามยามดีของการแห่พระข้ามโขง เช้าวันนี้มีหมอกหนาขึ้นปกคลุมลำน้ำโขงผสมแสงแดดอ่อนๆ เหมาะแก่การแห่หลวงพ่อพระสานไปประดิษฐานไว้ในถ้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำโขง ซึ่งอยู่คนละฟากลำน้ำกับหมู่บ้าน โดยถ้ำแห่งนี้เป็นที่พำนักของ ‘หลวงปู่ลิ้น’ ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมาหลายพรรษาแล้ว จนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า ‘วัดในถ้ำ’

 

หลวงปู่ลิ้นเป็นพระนักเทศน์ที่สอนหลักธรรมยากๆ ให้ชาวบ้านได้เข้าถึงธรรมะได้ง่าย อีกทั้งบุญบารมีของหลวงปู่ก็ยังเป็นที่เลื่องลือในวงกว้าง จนก่อให้เกิดแรงศรัทธาอย่างล้นหลามแก่ชาวบ้าน ไม่ว่าจะบ้านใกล้เรือนไกล หลายคนต่างพร้อมใจกันหลั่งไหลมาขอพึ่งใบบุญท่านให้ช่วยขจัดความโง่เขลาและบรรเทาความทุกข์กันถ้วนหน้า

แต่กว่าจะมาเป็นหลวงปู่ลิ้นได้ในทุกวันนี้ ในอดีตท่านเคยเป็นสามีของแม่เฒ่าต้วนมาก่อน หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้ทั้งคู่แยกทางกัน จนท่านต้องออกบวชกะทันหันและแม่เฒ่าก็หนีไปจากหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอยนานหลายปี

ถึงแม้ว่าหลวงปู่ลิ้นจะทราบข่าวการกลับมาของแม่เฒ่าต้วนแล้วก็ตาม แต่ท่านก็ไม่คิดจะเดินทางเข้าไปพบ เนื่องด้วยคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่เฒ่า ฉะนั้นงานแห่พระข้ามโขงในครั้งนี้ แม่เฒ่าจึงไม่ได้ร่วมแห่ด้วย แต่ส่งคูนเข้าร่วมแทนนั่นเอง

งานสำคัญของชาวบ้านในครั้งนี้ ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ ทุกคนพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวนั่งเรือข้ามฟาก ผู้คนส่วนใหญ่นั้นจะมีเพียงเรือขนาดเล็กที่นั่งกันได้เพียง 2-3 คน ส่วนเรือขนาดใหญ่ขึ้นมาจะเป็นเรือของเหล่านักดนตรีพื้นเมืองที่ช่วยกันบรรเลงเสียงพิณเสียงแคน เพื่อสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นระหว่างข้ามลำน้ำ

คูนยืนถือดอกจำปีในมือ เขารอให้จำปีเดินเข้ามาใกล้ๆ กับเรือลำหนึ่ง ซึ่งเป็นเรือที่แม่จำปูน จำปี และจำปาจะใช้นั่งพายข้ามฟาก ในขณะเดียวกันชาวบ้านหลากหลายช่วงวัยต่างเริ่มทยอยกันลงเรือของตนเองที่นำมาตระเตรียมไว้

ไม่นานแม่จำปูน จำปี และจำปาก็พากันเดินทางมาพร้อมกับแม่จำเนียน ติ้ว และต๋อง

ติ้วมีสีหน้าท่าทางบึ้งตึง เพราะเธอไม่อยากจะมาร่วมงานนี้สักเท่าไร แต่แม่จำเนียนบังคับให้มา เธอก็ต้องมาด้วยความจำใจ

“พ่อคูนมารอส่งจำปีขึ้นเรือด้วยเหรอ” แม่จำเนียนทักท้วงคูนทันทีที่มาถึง “มันทำให้ป้านึกถึงสมัยยังสาว ที่ผัวคอยประคองมือป้าขึ้นเรือ คิดแล้วมันชุ่มฉ่ำหัวใจอีหลีเด้อ”

“แม่…รีบไปขึ้นเรือกันเถอะขอรับ” ต๋องลากแขนผู้เป็นแม่เดินเบี่ยงไปหาเรืออีกลำ

“จ้ะๆ” แม่จำเนียนหันบอกติ้วที่เอาแต่ยืนเหม่อลอยมองหน้าคูน “คนงามของแม่ รีบมาขึ้นเรือ”

ติ้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เผื่อทุกอย่างจะดีขึ้นก่อนที่จะตวัดตัวเดินตามผู้เป็นแม่ไปขึ้นเรือ

คูนยืนยิ้มให้กับทุกคนก่อนยื่นมือไปให้แม่จำปูนจับ “แม่ใหญ่จับแขนข่อยลงเรือกะได้จ้ะ”

“แม่ข่อย ข่อยดูแลเองได้” จำปาตอบกลับคูนออกไปก่อนรีบประคองแม่จำปูนขึ้นไปนั่งบนเรือด้วยตัวเอง “ค่อยๆ ก้าวนะแม่ แล้วแม่ขยับตัวเข้าไปนั่งตรงกลางเรือนะจ๊ะ”

แม่จำปูนค่อยๆ ก้าวขึ้นไปนั่งตรงกลางเรือตามที่ลูกสาวบอก เรือลำนี้เป็นลำเล็กที่มีเพียงสามคนแม่ลูกนี้เท่านั้น โดยจำปาจะเป็นผู้ทำหน้าที่พายเรือเอง

หลังจากเห็นแม่ขึ้นไปนั่งเรือได้อย่างปลอดภัย จำปีจึงเดินเข้ามาหาคูนใกล้ๆ ด้วยรอยยิ้ม “อ้ายมีหยัง ถึงยังบ่รีบไปขึ้นแพกับพ่อ”

“อ้ายมีหยังสิให้” คูนหงายมือที่กำดอกจำปีออกมาให้เห็น “ดอกจำปีสีเหลืองนวล แถมกลิ่นของมันยังหอมทุกครั้งเมื่อดอมดม อ้ายอยากให้น้องทัดดอกจำปีนี้เอาไว้จ้ะ”

“น้องชื่อจำปี กะต้องทัดดอกจำปี” จำปีรู้สึกเขินอายมากที่คูนมายืนเกี้ยวพานเธอต่อหน้าแม่และน้องสาว รวมถึงชาวบ้านจำนวนมากด้วย “อ้ายคูน น้องอายคนเด้อ”

คูนนำดอกจำปีขึ้นไปทัดหูซ้ายของจำปีก่อนเก็บเส้นผมรวบไปด้านหลังให้ การกระทำเช่นนี้จำปาไม่อาจที่จะทนมองต่อไปได้ เธอจึงเมินหน้าหนีไปมองลำน้ำโขงแทน

ส่วนติ้วที่นั่งอยู่บนเรือกับแม่จำเนียนและต๋องนั้น เธอก็ชักสีหน้าออกมาด้วยความไม่พึงพอใจที่ต้องเห็นพ่อชายในดวงจิตดวงใจกำลังยืนเกี้ยวจำปี

หลังจากทัดดอกไม้ใส่หูเสร็จ คูนก็จูงมือจำปีขึ้นไปนั่งบนเรือ เขาพยายามสบตาจำปาที่นั่งถือไม้พายอยู่บนเรือ แต่จำปากลับยังคงเมินหน้าหันไปมองอย่างอื่นแทน หลังจากส่งจำปีขึ้นเรือเสร็จ เขาก็รีบวิ่งไปหาแพไม้ไผ่ที่ตนต้องไปดูแล

 

เชิงอรรถ : 

(1) หลวงพ่อพระสาน เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้างที่หล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณ์งดงามมาก ขนาดหน้าตัก กว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระสงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว ของชางไม้



Don`t copy text!