เรื่องเล่าในวันที่พ่อไม่อยู่

เรื่องเล่าในวันที่พ่อไม่อยู่

โดย : Visa Girl

Loading

ฉันเกิดมาในครอบครัวไทย-จีน ที่เหล่ากงหรือปู่เป็นคนจีนแต้จิ๋ว ที่ล่องเรือมากับเหล่าม่าและก๋งจากเมืองจีน ก๋งแต่งกับอาม่าที่เป็นคนไทย เตี่ยจึงเป็นลูกครึ่งไทย-จีนโดยแท้ และยึดมั่นในขนบประเพณีแบบจีน ดำรงตนโดยยึดค่านิยมคนจีนที่มาพักพิงอาศัยอยู่เมืองไทย คือ ขยัน อดทน กตัญญูรู้คุณ สู้งาน

ตั้งแต่เด็กจนโต ฉันจึงซึมซับประเพณีการไหว้แบบอย่างจีนมาอย่างเต็มที่ เพราะเตี่ยตั้งไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษทุกเทศกาลที่คนจีนพึงจะไหว้ เริ่มตั้งแต่ ไหว้วันตรุษจีน ไหว้เชงเม้ง ไหว้สารทจีน ไหว้ขนมจ้าง ไหว้พระจันทร์ อันที่จริงที่จำได้หลักๆ เพราะช่วงเทศกาลเหล่านั้นจะมีขนมแปลกๆ ที่จะได้กินแบบจุกๆ ปีละครั้ง อย่างเช่น ขนมเทียนวันตรุษจีน ที่มีทั้งไส้หวาน ไส้เค็ม ขนมเข่ง ขนมบ๊ะจ่าง ขนมไหว้พระจันทร์

ช่วงต้นเมษายนจะเป็นช่วงที่พวกเราไปไหว้บรรพบุรุษ หรือที่เรียกกันว่าเทศกาลเชงเม้ง เป็นเทศกาลที่ลูกหลานแสดงความกตัญญู ด้วยการนำอาหาร เป็ด ไก่ หมู ปลาหมึก ขนมหวาน ขนมเปี๊ยะ ผลไม้ กระดาษเงินกระดาษทอง มาตั้งไหว้ที่สุสาน หรือเรียกว่า ฮวงซุ้ย ที่บรรจุศพของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยทั่วไป ฮวงซุ้ยที่เค้าว่ากันว่าดี คือด้านหน้าให้เป็นน้ำ ด้านหลังเป็นภูเขา

เมื่อก่อนที่บ้านเรามีฮวงซุ้ยที่ไปไหว้ประจำอยู่ประมาณ 2 ที่ 3 หลุมศพ แต่ละที่จะคล้ายๆ กัน คือ ด้านหลังหลุมศพแต่ละที่ลักษณะจะเป็นเนินดินกลบศพของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ด้านหน้าจะเป็นแท่นป้ายชื่อเขียนเป็นตัวอักษรจีน  เตี่ยไปไหว้ทั้ง 3 หลุมทุกปี ซึ่งมักจะหนีบพวกเราคนใดคนหนึ่งไปด้วยเสมอ จนเริ่มแก่ตัวมากขึ้น เตี่ยก็ยังพยายามจะไปไหว้เชงเม้งครบทุกที่ เหมือนไปเช็กชื่อ รายงานตัวให้เหล่ากง ก๋ง อาม่ารู้ว่ามาไหว้แล้วนะ

มา 4 ปีหลังที่เตี่ยเริ่มเดินไม่ได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยคนพยุงและวอล์กเกอร์ ถ้าเดินไกลๆ ก็ต้องใช้รถเข็น เตี่ยก็ยังขอไปไหว้เชงเม้งด้วย แม้จะไปไม่ถึงฮวงซุ้ย เพราะต้องเดินผ่านเนินดิน หลุมศพอื่นๆ โดยที่รถเข็นเข้าไม่ได้ เค้าก็ได้แต่นั่งในรถก็ยังดี รอจนพวกเราไหว้เสร็จ ก็กลับบ้าน ณ วันนั้น เราไม่อยากเข้าใจ ว่าเตี่ยจะนั่งรถไปทำไม ลงไปไหว้ก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งสั่งอยู่ในรถบ่นและเตือนว่าอย่าลืมมีด อย่าลืมชา แจกัน เอานี่นั่นโน่นลงไปด้วย

2 ปีที่แล้ว เขาก็ยังนั่งรถไปไหว้เชงเม้ง แต่ไม่พูดไม่สั่งอะไรอีกแล้ว เนื่องจากสมองทำงานได้เป็นครั้งคราว เราเริ่มอยากให้เขาสั่ง อยากให้เขาบ่น แต่เขาก็ได้แต่ยิ้มบ้าง เฉยบ้าง พวกเราลูกๆ 3 คน จึงไหว้เชงเม้งกันเอง กระดาษยาวๆ ที่เป็นสีๆ ที่ใช้ประดับหลุมศพก็เริ่มลดลงเพราะติดยาก จึงถูกเปลี่ยนมาเป็นเกร็ดรุ้งๆ สี กลีบดอกกุหลาบ ดอกรัก ดาวเรือง แทน ใช้วิธีโปรยๆ เดี๋ยวก็สวย

ปีที่แล้ว เขาไม่ขอตามไปไหว้เชงเม้งอีกแล้ว เพราะน้ำในโพรงสมองมีมากกว่าคนปกติ รวมกับอาการของโรคพาร์กินสัน คงทำให้เค้าพูดแค่วันละไม่กี่ประโยค ยิ้มได้ กินข้าวได้ เป็นปีแรกที่เราคิดในใจว่า ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นตัวแทนมาไหว้แทนเตี่ยทุกปีเอง ไม่ต้องเป็นห่วง

จนมาปีนี้เป็นปีแรกที่เราทำตามที่ตั้งใจไว้เมื่อปีที่แล้ว เพราะเตี่ยไม่อยู่กับพวกเราแล้ว เขานอนหลับไปเฉยๆ หลังจากวันรัฐธรรมนูญไม่กี่วัน

งานศพถูกจัดแบบไม่ทันตั้งตัว ตั้งสวดที่บ้านแบบไทยพุทธประมาณ 5 คืน และเก็บศพไว้ที่บ้านอีก 100 วันเพื่อรำลึกถึงคุณความดีของเขา นิมนต์พระมาสวดทุกวันพระใหญ่ และจัดพิธีเผาไปก่อนจะเชงเม้งไม่กี่วัน

เชงเม้งปีนี้ของเราจึงเศร้าและเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่พวกเราก็ยังคงจะไปไหว้ทุกปีเหมือนที่เตี่ยทำ

Don`t copy text!