วางแผนชีวิต

วางแผนชีวิต

โดย : ครูก้อ เพิ่มพลังชีวิตคิดบวก

Loading

“อ่านเอาเล่าเรื่อง” คอลัมน์ที่รวมบทความจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ่านเอาเล่าเรื่อง ที่จัดโดยเว็บไซต์อ่านเอา โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้นำเรื่องราวที่ประทับใจของตัวเองมาถ่ายทอดในรูปแบบเรื่องเล่า และสานฝันสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็นนักเขียน

กลางปีกันแล้ว เข้า 6 เดือนสุดท้ายของปี หรือเริ่มต้นครึ่งปีหลัง เราก็ยังสามารถที่จะวางแผนให้กับชีวิตเราได้ ชีวิตที่ไม่มีการวางแผน เหมือนขึ้นรถแท็กซี่แล้วไม่รู้จะบอกแท็กซี่ว่าไปไหน สุดท้ายไม่ได้ไปเพราะแท็กซี่ก็ไม่รู้จะพาไปไหนเหมือนกัน

เฉกเช่นเดียวกับชีวิต ถ้าไม่วางแผน ชีวิตก็พาเราไปไม่ถูก หรือถ้าพาไป ก็อาจพาไปในที่ที่เราไม่ได้อยากมา หรือไม่ได้ต้องการ

ดังนั้น กำหนดชีวิตตัวเองไว้เสียเถิด วันนี้มีวิธีง่าย ๆ มาให้ได้เริ่มชิมลางกันก่อน ว่าการวางแผนชีวิต มันไม่ได้ยาก มันมีขั้นมีตอนที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นได้ มาดูกันค่ะ

คนเรามักไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองมีทางเลือกอยู่เสมอ หลายคนมักพูดว่าไม่มีทางเลือกเลยมาลงเอยแบบนี้ จริง ๆ แล้วคือเลือกมาแล้วไง เลยมาลงเอยแบบที่เป็นอยู่นี่ไง

อย่างมีคนเล่าว่า ไม่ได้อยากจะมาเรียนที่นี่เลย แต่พ่อแม่บังคับ เลยต้องมาเรียนที่นี่ แปลได้ว่า จริง ๆ แล้วตัวเองเลือกที่เรียน A ไว้ แต่พ่อแม่อยากให้เรียนที่ B สุดท้ายต้องยอมพ่อแม่ เลยเลือกเรียนที่ B สุดท้ายของสุดท้ายมันคือเราเลือกที่จะยอมไง เราเลยต้องมาเรียนที่ B แต่ถ้าเราไม่ยอม เรายังยืนยันจะเรียนที่ A เราก็ทำได้ แต่เราไม่ทำ เห็นภาพไหมคะ?

อย่างแรกก่อนสิ่งอื่นใด รู้ใจตัวเองให้มากก่อน “เลือก” ให้ได้ก่อน ว่าเราเลือกอะไร สิ่งใด แบบไหน คือ Make your choice ให้ได้ก่อน พอเราตั้งสิ่งที่เลือกไว้ชัดเจนมาก ๆ ต่อให้มีตัวเลือกอื่น เราก็จะยังตั้งมั่นกับตัวเลือกแรกของเราได้ ลองทำดูก่อน ค่อยถามว่า แล้วถ้าเกิด… คือมันยังไม่เกิด ตั้งตัวเลือกให้แน่น ตรง ชัดก่อนนะคะ

ต่อมาเป็นขั้นตอนที่เราจะทำให้สิ่งที่เราเลือกมัน ตั้ง ตรง ชัดได้ คือเราต้องเชื่อภาพที่เราเห็นในหัวให้ได้ค่ะ มันคือการ Trust your vision

ทุกสิ่งในโลกนี้เกิดขึ้น 2 ครั้งเสมอ (เป็นอย่างต่ำ) ครั้งแรกคือเกิดขึ้นในหัวเรา เราจะเห็นภาพนั้น ๆ ก่อน ต่อมาคือมาเกิดตรงหน้าเรา อย่างดีไซน์เนอร์ทั้งหลาย ก็จะเห็นภาพร่างในหัวก่อน จากนั้นถึงจะวาดออกมาได้ จากนั้นถึงจะค่อยเอาไปตัดเย็บ จนสุดท้ายก็เป็นชุดสวยออกมา

สถาปนิกก็จะเห็นภาพในหัวก่อน แล้วก็จะวาดร่างออกมาในแบบ จากนั้นถึงจะขึ้นโครงแบบ แล้วถึงจะไปเป็นบ้าน หรืออาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ขึ้นมาจริง ๆ

ทุกอย่างต้องเห็นภาพชัด และเชื่อมั่นในภาพที่เราเห็นให้ได้ค่ะ

พอเราเลือกแล้ว เห็นภาพแล้ว เชื่อสิ่งที่เห็นแล้ว เราก็ต้องมาเซ็นต์สัญญากับตัวเองค่ะว่า นับจากนี้ไป เราจะมุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงให้ได้ มันคือการ Make your commitment มันต้องสัญญากับตัวเอง รับปาก ว่าเอาละนะ ลุยยยย

สุดท้ายถ้าไม่ทำสิ่งนี้ ทุกสิ่งที่เราตั้งเอาไว้ก็จะพลังทลายครืนลงมา เพราะมันคือการลงมือทำ หรือคือการ เทคแอคชั่น Take action นั่นเอง ขั้นตอนนี้ถ้าไม่มี ก็จบ วางแผนกันมาอย่างดี สุดท้าย เอ้าา บ้ายบาย แยกย้าย บ้านใครบ้านมัน ไม่มีการลงมือทำ ก็จอโอะบอจบเจ้าค่ะ

วันนี้เอาให้พอมองเห็นภาพกันก่อนว่า มันเริ่มต้นกันแบบไหนอย่างไร แล้วเราค่อย ๆ เจาะลึกกันในบทความต่อ ๆ ไปนะคะ

Don`t copy text!