สังขละบุรีในตำนาน (ตอนที่ 2)

สังขละบุรีในตำนาน (ตอนที่ 2)

โดย : ภัทรภร

Loading

อ่านเอาขอแบ่งปันเรื่องเล่าจากเงาสนธยา เรื่องลี้ลับจากประสบการณ์ตรงของ ภัทรภร มนุษย์ฟรีแลนซ์ ที่ตระเวนเดินทางทำงานไปทั่วทิศและมักได้ของแถมเป็นการพบปะทักทายจากเหล่าเพื่อนต่างมิติ และ ทรรศิตา มนุษย์ผู้ใช้ชีวิตเป็นจาริกชนคนเดินทางแสวงหาความหมายชีวิตระหว่างอดีตกับปัจจุบัน และมักผูกพันกับเรื่องลี้ลับบางอย่างเกินคาดเดา

เอาล่ะ มาต่อกันกับเรื่องราวของน้องชุดชมพูที่เล่าค้างไว้จากตอนที่แล้ว ว่านางแวะมาเยี่ยมในห้องที่โรงแรมทั่งขละบุรี ก่อนจะหายแว้บไปทางกระจก

วันต่อมา หลังจากทำงานเสร็จ ทีมงานเราก็กลับกรุงเทพฯ กัน ฉันก็พาร่างอันเหนื่อยอ่อนกลับไปนอนที่อพาร์ทเมนท์ ซึ่งตอนนั้นก็จะมีน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่งพักอยู่ด้วยและคืนที่กลับไปถึง แฟนน้องก็มาพอดี ซึ่งเราก็สนิทกันหมด วันนั้นก็เลยชวนกันไปกินข้าวข้างนอก แล้วแฟนน้องก็กลับมาค้างที่ห้องด้วย

เตียงที่อพาร์ทเมนท์ฉันเป็นเตียงหกฟุต นอนอัดๆ กันไปบนนั้นได้หมดสามคน แบบเบียดหน่อยๆ อบอุ่นดี ด้วยความที่เดินทางมาเหนื่อยมาก หลังกินข้าวเสร็จก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง กลับถึงห้องก็อาบน้ำแล้วน็อคไปเลย ต้องรีบนอนเพราะอีกวันก็ต้องไปทำงานแต่เช้า

ฉันตื่นตอนเช้า ประมาณ 7 โมง ก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปทำงานตามปกติ ด้วยความที่น้องกับแฟนน้องยังนอนกันอยู่ ฉันก็เลยไม่เปิดไฟ แต่เปิดม่านหน้าต่างให้พอแสงเช้าเข้ามารางๆ ให้พอส่องกระจกแต่งหน้าหวีผมได้ ตอนที่แต่งตัวเสร็จ ก็หันกลับมาหยิบกระเป๋าที่แขวนอยู่ที่ตู้ คือเท่ากับยืนหันหลังให้เตียง พอหันกลับมาที่เตียง กำลังจะออกไปข้างนอก ก็มองไปเห็นน้องสองคนนอนหันหน้ามาทางเราลืมตาแป๋วก็เลยทักไป

“เอ้า ตื่นแล้วเหรอ พี่เสียงดังใช่ป่าว ขอโทษๆ นอนต่อๆ”

น้องก็ไม่ได้ว่าอะไร เราก็ค่อยๆ เปิดประตูออกไปเบาๆ

จนกระทั่งตอนค่ำๆ ไปแวะที่ร้านเสื้อผ้าที่น้องขายของอยู่ น้องสองคนก็เลยถามว่า “พี่ไปทำงานที่ไหนมาอ่ะ”

เราก็บอก “ไปสังขละบุรีไง”

น้องก็ถามมาอีกว่า “พี่ไปพักที่ไหนเหรอ”

“ก็พักที่โรงแรงแถวนั้นแหละ แต่ไม่ใช่ที่ที่ไปนอนประจำ น่ากลัวนิดหน่อย”

น้องก็เงียบๆไป หันไปมองหน้ากัน แล้วก็บอกกับเราเสียงเบาๆ

“เมื่อเช้า ตอนพี่ยืนหันหลังให้เตียง หนูได้ยินเสียงพี่ตื่นเลยลืมตามามอง แล้วหนูก็เห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ข้างหลังพี่ หันหน้ามาทางหนูด้วย หนูก็ตกใจ แต่คิดว่าตาฝาดอ่ะ ก็เลยปลุกแฟนหนูมาดู ถามเค้าดิ เค้าก็เห็นเหมือนกัน พวกหนูเห็นเหมือนกันทั้งสองคนเลยพี่ ถึงได้นอนตัวแข็งอยู่อ่ะ พูดไม่ออกเลย ตอนพี่ออกไปแล้ว พวกหนูถึงได้ลุกขึ้นมาคุยกัน ว่าเห็นเหมือนกันใช่มั้ย”

ฉันนี่คือ ตัวเย็นวาบไปแล้วจ้า พยายามตั้งสติถามน้องๆ ว่า

“ที่เห็นอ่ะ เป็นผู้หญิงเหรอ หน้าตาเป็นยังไงอ่ะ”

น้องตอบว่า “ตัวเล็กกว่าพี่หน่อย หน้าเค้าอยู่ประมาณระดับท้ายทอยพี่อ่ะ ตัวป้อมๆ ผมสั้นๆ เหมือนผมบ๊อบ ใส่ชุดเหมือนชุดนอน น่าจะสีออกชมพูๆ นะ หน้าก็เห็นไม่ชัด มันมัวๆลางๆ มองไม่ชัด เพราะมันมืด”

ฉันโทรสายด่วนถึงพระอาจารย์ที่เคยขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวลี้ลับต่างๆ ทันที ท่านให้คำแนะนำมาว่า..เขาคงติดมาเที่ยว ไม่น่ามีอะไร ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาแล้วบอกให้เขากลับบ้านไปเถอะโยม

เช้าวันต่อมา…

ฉันไปทำสังฆทานที่วัดแต่เช้า กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้หญิงคนนั้น แล้วบอกน้องไปกับสายลมเบาๆ ว่า

“กลับบ้านเถอะนะ อย่าอยู่เลยที่กรุงเทพ ไม่สนุกหรอก ถ้ากลับไม่ถูก ไปที่หมอชิตก่อนนะ มีรถทัวร์สังขละบุรี ติดรถเขาไปลงที่ขนส่ง ใกล้ๆตลาด แล้วนี่จะหมั่นทำบุญไปให้”

หลังจากวันนั้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก และถ้าฉันต้องไปทำงานที่นั่นอีก ก็จะขอให้น้องแอดมิน จองที่พักล่วงหน้าไว้ เพื่อไม่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์หาที่พักไม่ได้อีก แต่ก็ไม่วาย..ยังต้องเจออะไรแบบนี้อีกจนได้แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะ…รออ่านกันในตอนต่อไป

Don`t copy text!