พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.2 : ผิดแผน

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.2 : ผิดแผน

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

เพราะเร่งเดินทางกันตลอดทั้งคืน เมื่อตะวันทอแสงจับขอบฟ้า เยชิก็พาทุกคนมาถึงสถานีป่าไม้แห่งที่สอง

ตามแผนที่ตั้งใจเอาไว้ พวกเขาจะต้องทิ้งรถคันเดิมเอาไว้ที่นี่ เปลี่ยนพาหนะมาขี่ม้าไปยังสถานีป่าไม้แห่งที่สาม เพื่อจะเปลี่ยนพาหนะเป็นรถอีกครั้งหนึ่ง

แต่ดูเหมือนแผนจะไม่เป็นไปตามที่คิดเสียแล้ว เพราะควันไฟที่คละคลุ้งอยู่ตรงหน้า บอกให้รู้ว่าอาคารป่าไม้ที่พวกเขามุ่งหน้ามาสู่นั้นเกิดไฟไหม้

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของคินซาตกใจ

“พวกคุณรออยู่นี่ก่อนนะ” เยชิกระโดดลงจากรถ เขาส่งปืนให้คินซาแล้วบอกว่า “ดูแลแขกของเราให้ดีด้วย”

ลิ่วลมไม่ยอมรออยู่เฉยๆ เขาเปิดประตูรถแล้ววิ่งตามเยชิไปสมทบกับเชวัง และลูกหาบอีกสามคนในรถคันหน้าอย่างรวดเร็ว

ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคืออาคารไม้ปลูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบภูฏานถูกเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ มีพนักงานสองสามคนช่วยกันดับไฟอยู่อย่างสุดความสามารถ

“หัวหน้า” หนึ่งนั้นหันมาเห็นเยชิ ดวงหน้าของเขามอมแมมเลอะเขม่าควัน

“เกิดอะไรขึ้น” เยชิถามลูกน้องเก่าของเขา

“ไม่รู้ครับ” ชายวัยกลางคนผู้นั้นส่ายหน้า มีร่องรอยตื่นตระหนกปรากฏในดวงตาซื่อๆ “พวกเราออกไปลาดตระเวนตามปกติ กำลังเดินตรวจป่าอยู่ก็เห็นควันที่สถานี พอกลับมาดูก็เป็นแบบนี้แล้ว”

“ม้าหาย” อีกคนหนึ่งว่า “มีคนปล่อยม้าที่เราเตรียมเอาไว้ไปหมดเลยครับ”

ลิ่วลมหันตามเยชิ มองไปยังคอกม้าที่บัดนี้ว่างเปล่า

“ช่วยกันดับไฟก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” เยชิร้องสั่ง

เชวังและลูกหาบทั้งหมดรวมถึงลิ่วลม ช่วยกันชักรอกน้ำขึ้นมาจากบ่อที่ขุดเอาไว้ แล้วส่งต่อกันเป็นทอด ช่วยกันดับไฟที่โหมแรง

คินซาเห็นว่าไม่มีอันตรายอะไร จึงชวนให้อัญญาวีร์และนารีญาลงจากรถ มาช่วยกันดับไฟอีกแรง

หลังจากที่ทุกคนช่วยกันอยู่นานนับชั่วโมง ไฟก็ดับลงในที่สุด พร้อมกับสถานีป่าไม้ที่เหลือแต่ซาก

“ฝีมือพวกมันแน่นอน” เชวังเม้มริมฝีปากแน่น

“พวกมันทำแบบนี้ทำไม” เยชิยังคิดไม่ออก

“ผมว่ามันอยากได้พยับฟ้าโพยมดิน เพราะถ้าพวกมันจะไปที่หุบเขาอุทุมพร…มันต้องมีแผนที่” น้ำเสียงของเชวังมั่นใจ

เขาเหลือบมองมาทางลิ่วลมที่สะพายกระบอกโลหะบรรจุผ้าโบราณผืนสำคัญติดตัวเอาไว้ ตั้งแต่รู้ว่ามีคนต้องการพยับฟ้าโพยมดิน ถึงแม้จะมีน้ำหนักมากเพียงใด หากลิ่วลมก็ไม่เคยปล่อยให้ห่างจากตัวอีกเลย

“เชวัง” อัญญาวีร์เอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากนิ่งไปนาน

มีคำถามมากมาย มีเรื่องหลายหลากที่ต้องการจะเคลียร์กับเขา หากทว่าในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้…อัญญาวีร์คิดว่า เอาไว้ก่อน

“คุณเคยเล่าให้ฉันฟังว่า…คุณพ่อของคุณเคยปกป้องของสำคัญที่วัดโบราณในซัมเซ และปะทะกับคนร้ายจนเสียชีวิต…มันคือผ้าผืนนี้ใช่ไหม”

“เราต้องเปลี่ยนเส้นทาง” เชวังไม่ตอบคำถามของอัญญาวีร์ ดวงตาคู่เข้มคมของเขาจ้องมองอดีตคนรักแน่วนิ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “ไปตามแผนเดิมไม่ได้แล้ว”

“ยังจะมีทางไหนอีกหรือ” คินซานิ่วหน้า ตลอดชีวิตการเป็นไกด์ เธอรู้จักแต่ทางหลวงสายหลัก และเส้นทางสายเก่าที่ผู้คนใช้สัญจรก่อนที่ทางการจะตัดไฮเวย์เท่านั้น

“มี”

เชวังพยักหน้า เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ยาวๆ ก่อนจะเอ่ยว่า

“คันโดมา”

“คันโดมา” คินซาและเยชิอุทานออกมาพร้อมๆ กัน

แม้ยังไม่รู้ว่าคันโดมาคืออะไร หากลิ่วลมพอนึกได้ว่าคงเป็นเส้นทางวิบาก เพราะสีหน้าของไกด์ทั้งสองบอกเช่นนั้น

“ใช่” เชวังยืนยันเสียงหนักแน่น “คันโดมาคือเส้นทางเดียวที่จะพาเราไปถึงซัมเซได้ก่อนคนร้าย…และเส้นทางนี้มีคนเก่าแก่รู้จักกันแค่ไม่กี่คน…”



Don`t copy text!