โหงลำโขง บทที่  12 : ความลับไม่มีในโลก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง (2)

โหงลำโขง บทที่ 12 : ความลับไม่มีในโลก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง (2)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

 

ท้าวคำมั่นควบม้าไปหาคูนที่ลานฝึกวิชาดาบอาทมาฏ เขากระโดดลงจากหลังม้าทันทีที่มาถึง ก่อนวิ่งเข้าไปแย่งดาบคู่ในมือพ่อชายอีกคน เพื่อไปฟาดฟันดาบกับคูนด้วยความโกรธจัด จนพ่อชายหลายคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกงงไปตามๆ กัน

คูนยิ่งรู้สึกงุนงงมากใครๆ แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติตั้งรับดาบของท้าวคำมั่นโดยไม่ตอบโต้กลับไปเลย

ไม่นานดาบในมือของท้าวคำมั่นก็หลุดออกจากมือสู่พื้นดิน เขาจึงวิ่งไปกระชากคอเสื้อของคูนมาใกล้ๆ “มึงกับจำปาเป็นหยังกัน บอกกูมาบัดเดี๋ยวนี้”

“เฮาสองคนฮักกัน” คูนตอบออกไปโดยไม่คิดนาน เพราะเขารักจำปาจริงๆ

ท้าวคำมั่นนำกำปั้นมือขวาของเขาชกเข้าไปแก้มซ้ายของคูนอย่างหนัก จนคูนร่วงลงไปนั่งกองกับพื้นดิน “แล้วมึงเฮ็ดแบบนั้นกับจำปีได้ยังไง ทั้งที่ความจริงมึงฮักจำปา”

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คูนไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเลยว่าท้าวคำมั่นรู้ความจริงทั้งหมดได้อย่างไร ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจนั่งคุกเข่าต่อหน้าท้าวคำมั่นก่อนก้มลงกราบแทบเท้าแล้วเงยหน้าขึ้น “ข่อยบ่ขอแก้ตัวหยังแล้ว ทุกอย่างที่เฮ็ดลงไปนั้น เป็นย้อนต้องการรักษาชีวิตจำปีเอาไว้ตามคำขอของจำปา แต่พ่อใหญ่อย่าโทษจำปาเลยขอรับ เรื่องนี้ข่อยกะมีส่วนผิดคือกัน หากพ่อใหญ่สิลงโทษหยัง ข่อยกะพร้อมที่สิรับโทษนั่น”

“ถ้ามึงเป็นลูกพ่อชายจริง กะยืดอกรับผิดชอบดูแลลูกสาวกูให้ดี” ท้าวคำมั่นก้มหน้าลงไปใกล้ๆ “ถ้ามึงปกป้องจำปาบ่ได้เมื่อไหร่ มื้อนั้นล่ะ กูสิฆ่ามึงแน่” ท้าวคำมั่นผิวปากเพื่อเรียกม้าให้วิ่งเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่จะกระโดดขึ้นนั่งบนหลังม้าแล้วควบกลับเฮือนไปทันที

เก้อรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อได้รู้ความจริง จำปาที่เขาแอบรักมานาน กำลังจะไปแต่งงานกับคนอื่นเสียแล้ว เขาทำใจไม่ได้จึงรีบวิ่งหนีไปที่ไหนสักแห่งเพื่อทำใจ จนต๋องที่ยืนอยู่ข้างหลังเกาหัวตัวเองด้วยความประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้

ก่อนเหตุการณ์ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยในวันนี้นั้น แม่เฒ่าต้วนได้ล่วงรู้มาโดยตลอดว่าคูนนั้นรักกันกับจำปา เพียงแต่แม่เฒ่าไม่พูดออกมาเท่านั้น ฉะนั้น…ถ้าคิดจะทำการใหญ่ จิตใจต้องนิ่งและอย่าไว้ใจใคร แม้แต่คนใกล้ตัวที่รักมากก็ตาม เพราะจิตใจมนุษย์นั่นช่างยากแท้หยั่งถึงอย่างโบราณท่านสอนมา

ตกดึกของค่ำคืนนี้ ผ่านมาแล้ว ๒ ชั่วยาม

แม่เฒ่าต้วนเดินมาหยุดอยู่บนถนนทางไปคุ้มตีดาบเพียงลำพัง แสงเทียนตามโคมไฟก็ยังคงส่องแสงสว่างไสวเหมือนทุกคืน แม่เฒ่ายืนอยู่นานพอสมควร ราวกับกำลังรอใครสักคนเดินออกมาจากคุ้มตีดาบ

ไม่นานก็มีแม่หญิงคนหนึ่งกำลังเดินออกมาบนถนนในความมืดเพียงคนเดียว เมื่อยามที่เธอก้าวเท้าเข้ามาสู่ถนนที่สว่างไสวเต็มไปด้วยแสงเทียน จึงเผยให้เห็นว่าเป็น ‘ติ้ว’

ติ้วตกใจเมื่อเห็นแม่เฒ่าต้วน “นึกว่าใคร ที่แท้กะแม่เฒ่าต้วน ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังนี่เอง” เธอเดินเข้าใกล้แม่เฒ่าอย่างไม่เกรงกลัว “ว่าแต่…ดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ แม่เฒ่ามาเฮ็ดหยังแถวนี้หรือจ๊ะ”

“กูมารอพบมึงยังไงล่ะ อีผีโหงชั่ว” แม่เฒ่าต้วนยกไม้เท้ากระแทกลงไปที่พื้นดิน “มึงกล้ามากที่มาทำลายแผนการทุกอย่างของกู แถมยังแหกกฎของเจ้าโหง”

“นี่แม่เฒ่า” ติ้วเท้าสะเอวด้วยความไม่พอใจ “ข่อยชื่อติ้ว เป็นคน…บ่แม่นผีโหง”

“มาอาศัยร่างของคนอื่น แล้วเฮ็ดเป็นลืมหัวนอนปลายตีนของเจ้าของซะแล้ว” แม่เฒ่าบ้วนน้ำลายลงพื้นก่อนขึงตาใส่ “มึงคืออีผีตายโหงเฝ้าลำน้ำ มื้อนี้กูสิส่งมึงกลับลงสู่ใต้ลำโขงตามเดิม”

ติ้วแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนชี้หน้าแม่เฒ่า “แม่เฒ่าคงบ้าไปแล้วแน่ ๆ ข่อยนี่นะผีโหง” เธอหัวเราะดังลั่นออกมา “นี่แม่เฒ่า แก่แล้วเลอะเลือนใหญ่แล้วเด้อ รีบกลับเมือนอนพักเถิด อายุสิได้ยืนยาวขึ้นมากกว่าเก่า”

“มึงบ่ต้องมาสั่งสอนกู” แม่เฒ่าเดินวนรอบตัวของติ้ว “สงสัยมึงคงอยากให้กูเรียกเจ้าโหงขึ้นมาแม่นบ่ ถ้าเจ้าโหงรู้ว่ามึงแอบมาสิงสู่อยู่ในร่างของคนอื่น แถมยังแอบฆ่าคนอีก”

“อย่ามาใส่ร้ายป้ายสีกูเด้อ กูบ่ได้ฆ่าใคร”

“ผีอย่างมึงนี่นะ บ่เคยฆ่าใคร แล้วมึงคิดเหรอว่ามึงสิรอดตัวจากเจ้าโหงไปได้…อีผี”

“กูบ่ย่าน” ติ้วตอบกลับแม่เฒ่าออกไปว่าไม่กลัว ทั้งที่ความเป็นจริงเธอนั้นหวาดกลัวมาก และสงสัยด้วยว่าทำไมแม่เฒ่าถึงรู้จักกับเจ้าโหงได้ แต่เธอต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก ทั้งที่รู้จักเป็นอย่างดีก็ตาม “เจ้าโหงมันเป็นใคร เป็นหยังกูถึงต้องย่าน เอ๊ะ…หรือมันเป็นผัวแม่เฒ่าแม่นบ่ ถึงพล่ามหาแต่มัน”

“นี่…กูให้โอกาสมึงแล้วเด้อ”

“เออ…แล้วแต่” ติ้วพ่นลมหายใจออกมาก่อนรีบตวัดตัวเดินต่อไปข้างหน้าทันที พอหันหลังให้กับแม่เฒ่าแล้ว หน้าของเธอก็ถอดสีทันที เพราะเธอหวาดกลัวเจ้าโหงมากนั่นเอง

“เดี๋ยว!”

“เสียเวลาย่างเล่นอีหลี” ติ้วหยุดเดินแล้วหันหน้าตอบกลับไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด “แม่นหยังอีกแม่เฒ่า ข่อยถามอีหลีเด้อ พอเฒ่าแล้วนี่ เพิ่งสิคิดได้เหรอ…ว่าต้องเสือกเรื่องชาวบ้าน หึหึ”

“นั่นมึงสิไปไหน”

“เมือเฮือน” ติ้วตะคอกเสียงออกไปว่าจะกลับบ้าน แต่ทางกลับบ้านมันไม่ใช่เส้นทางที่เธอกำลังจะเดินไป เธอตั้งใจจะมาเดินเล่นในคืนนี้ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศเพียงลำพัง แต่ดันโชคร้ายต้องมาเจอกับแม่เฒ่าเข้าเสียก่อน บรรยากาศที่วาดไว้ก็ดันเสียหมดเลย

“เฮือนมึงอยู่ทางโน่น”

“เออ” ติ้วหันหลังกลับไปเส้นทางเดิมด้วยความเงอะงะก่อนรีบสาวเท้าเดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

แม่เฒ่าต้วนยังคงยืนจ้องติ้วโดยไม่ละสายตา การที่เธอมายืนดักรอติ้วในคืนนี้ ก็เพื่อเป็นการมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่าติ้วที่เห็นอยู่ตอนนี้นั้นเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม

ผลปรากฏว่าติ้วในตอนนี้เป็นตัวปลอมที่มีผีโหงนางหนึ่งแอบเข้ามาสิงสู่ในร่าง เพราะติ้วตัวจริงนั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อครั้งถูกจับตัวและตกลงไปในลำน้ำโขงครั้งนั้นแล้ว



Don`t copy text!