โหงลำโขง บทที่ 4 : ความงุนงง (3)

โหงลำโขง บทที่ 4 : ความงุนงง (3)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

จำปาและต๋องเดินผ่านมาเห็นจำปีและบัวเพียงกำลังยืนคุยกันกับคูนและเก้อ นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จำปาจะได้สะสางเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว เพราะจะไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาปกป้องจำปีแน่นอน

“อีจำปี” จำปายืนท้าวเอวอยู่ทางด้านหลังของจำปีและบัวเพียง “อยู่เฮือนบ่กล้าแม้แต่สิออกจากห้องมาเจอหน้ากูเด้อ สงสัยมื้อนี้คือสิมีแฮงขึ้นมาหลายแล้ว ถึงได้แบกร่างมาหาผู้ชายฮอดนี้”

จำปีหันหลังไปมองจำปาด้วยแววตาใสซื่อ “น้องจำปามีหยัง เฮาค่อยกลับไปคุยกันอยู่เฮือนดีบ่”

“บ่…กูสิคุยกับมึงตอนนี้” จำปาชี้นิ้วออกไป “มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย ก่อนถูกโจรจับตัวไปนั้น มึงบ่ได้ออกไปตามหากู คือที่อีบัวเพียงพูด”

“เอื้อยออกมาตามหาน้องอีหลี” จำปีเล่นละครตบตาคนอื่นๆ ด้วยการแสดงท่าทางคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ “น้องบอกว่าสิไปนอก แต่เห็นไปนานหลาย เอื้อยกับบัวเพียงกะเลยพากันออกตามหา บ่คิดเลยว่าสิมีโจรอยู่แถวนั้น ถ้าเอื้อยถนัดชกต่อยฟันดาบคือน้อง คงสิเอาตัวรอดจากโจรได้”

เก้อเห็นท่าจะไม่ดี หากปล่อยให้สองคนนี้พูดคุยกันต่อ มีหวังได้ตบตีกันแน่ “เออ…น้องจำปาใจเย็นๆ เด้อ อ้ายคิดว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว กะปล่อยให้มันผ่านไปเสีย…”

“บ่โว้ย” จำปาตะคอกเสียงใส่หน้าเก้อ จากนั้นเธอก็กระโจนเข้ากระชากผ้าเบี่ยงที่บ่าของบัวเพียง เธอจ้องตาบัวเพียงด้วยแววตากราดเกรี้ยวจนแทบจะหลุดออกจากเบ้า “มึงพูดความจริงออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงบ่พูดความจริงมื้อนี้ อย่าหวังว่านับต่อจากนี้ไป มึงสิมีความสุข”

บัวเพียงมองตาของจำปาด้วยความหวาดกลัวจนไม่มีเรี่ยวแรงโต้กลับ เธอจึงหันหน้าไปมองจำปีเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ

“เรื่องนี้บัวเพียงบ่เกี่ยว จำปาเฮ็ดแบบนี้ มันเกินไปแล้วเด้อ” จำปีตอบโต้กลับไป

จำปาส่งสายตาพิฆาตไปยังจำปี ก่อนจะผลักบัวเพียงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น “เกินไปยังงั้นเหรอ มันเกินไปเหรอที่คนอื่นบอกว่าเรื่องนี้กูเป็นคนผิด ทั้งที่ความเป็นจริง มึงและอีบัวเพียงแอบไปดูพ่อชายเล่นน้ำ”

เก้อรีบไปประคองบัวเพียงลุกขึ้น เขาไม่อาจหาญที่จะพูดอะไรออกไปเพื่อหยุดสองพี่น้องคู่นี้เลย โดยเฉพาะจำปาที่เขาจะไม่กล้ามีทางมีปากเสียงด้วยอย่างแน่นอน เนื่องด้วยเขานั้นรักจำปามาก

จำปีตบหน้าจำปาเพื่อให้เงียบปาก “ก่อนสิพูดหยังออกมา หัดมีมูลความจริงแหน่ คนที่ถูกโจรจับตัวไปจนเกือบตาย มันกะคือเอื้อยผู้นี้ แล้วน้องต้องการความจริงหยังอีก”

“นิสัยนี้คือสิแก้บ่หายอีหลี นิสัยที่มักเฮ็ดให้ผู้อื่นต้องกลายเป็นคนบ่ดีไป” จำปาโกรธมากจนใบหน้าแดงก่ำ “งั้นกูขอเอาคืนมึงด้วยวิธีนี้กะแล้วกัน” จำปาง้างมือขวาหวังจะตบเข้าไปที่หน้าจำปีแรงๆ แต่คูนกลับพรวดพราดเข้ามาจับแขนเธอเอาไว้ได้ทัน

“หยุดได้แล้ว” คูนจับแขนของจำปาขึ้นแน่น จนจำปาแสดงสีหน้าของความไม่พอใจปนกับความเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขาปล่อยแขนแล้วผลักจำปาจนเธอล้มลง

จำปากรีดร้องออกมาอย่างไม่พอใจ จนทุกคนต่างแสดงสีหน้าตกใจ การกระทำเมื่อสักครู่ของคูนทำให้ความรู้สึกที่เคยสับสนหัวใจก่อนหน้านี้ของจำปา ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง เธอไม่อาจฝืนทนกลั้นน้ำตาได้ จึงตัดสินใจดันตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งหนีไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด ก่อนที่ใครๆ จะเห็นหยดน้ำตาเข้า

ในขณะเดียวกันเก้อและต๋องกำลังจะเข้าไปประคองตัวของจำปา แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

เก้อพยายามที่จะวิ่งตามจำปาไป แต่กลับถูกต๋องคว้าแขนเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าเป็นสัญญาณเตือนว่าห้ามตามไป ต๋องเข้าใจดีว่าเวลานี้ไม่เหมาะแก่การเข้าใกล้จำปาเป็นอันขาด

คูนหันหน้าไปถามจำปีด้วยความเป็นห่วง “น้องจำปีเจ็บหม่องได๋อยู่บ่”

รอยยิ้มและคำพูดที่คูนส่งมา ได้สร้างความรู้สึกบางอย่างเข้าไปในหัวใจของจำปี โลกใบนี้ของเธอกลับมาสดใสทันตาเห็น

“น้องบ่เป็นหยังจ้ะ ขอบคุณอ้ายหลายเด้อ” จำปีไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนี้ เธอมีท่าทางเคอะเขินออกมาอย่างเห็นได้ชัดก่อนพยายามนึกคำพูด “เดี๋ยวเรื่องของน้องจำปา น้องสิหาทางปรับความเข้าใจเองจ้ะ”

“งั้นอ้ายเมือเฮือนก่อนเด้อ” คูนส่งยิ้มให้จำปีพร้อมกับเดินไปแตะบ่าไหล่ของเก้อ แล้วค่อยเดินทางกลับไปพร้อมกับตะกร้าผลไม้

จำปีตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความรัก เธอแทบจะไม่ละสายตาจนกว่าคูนจะลับสายตาไป ต๋องและเก้อพากันส่ายหน้าก่อนพากันแยกย้ายกลับเฮือนของตน

ส่วนบัวเพียงคงต้องยืนรอเป็นเพื่อนจำปีไปก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งว่าต้องไปที่ไหนหรือให้ไปทำอะไร เธอแทบไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ของจำปีด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยอมเพราะการมีเพื่อนสนิทเป็นถึงลูกสาวของผู้นำของชนเผ่า ทำให้เธอพลอยได้รับการให้เกียรติจากชาวบ้านไปด้วย

 

เมื่อลับตาจำปีคูนก็เปลี่ยนเส้นทาง เขาไม่ได้จะเดินกลับเฮือนตามที่บอก สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นคนรู้สึกผิดมากๆ ที่ได้แสดงพฤติกรรมแบบนั้นต่อจำปา ในใจลึกๆ เขาไม่ได้อยากจะให้มันออกมาเป็นแบบนั้นเลย เขารู้สึกโมโหตัวเองมาก ก่อนจะเขวี้ยงตะกร้าผลไม้ที่จำปีให้ทิ้งไปที่ข้างป่าละเมาะด้วยความรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก

จำปานั่งร้องไห้อยู่ริมหนองน้ำเพียงคนเดียว เธอทั้งโกรธและเกลียดผู้คนเอามากๆ เหตุใดโลกใบนี้ช่างใจร้ายกับเธอนัก เธอต้องตกเป็นจำเลยให้สังคมตีตราว่าเป็นคนไม่ดีอยู่เสมอ แม้แต่แม่ก็ยังมักจะคอยเข้าข้างพี่สาวเธอเสมอ เธอรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไร้ค่ายิ่งนัก ไม่มีใครสักคนที่เข้าใจเธอบ้างเลย

คูนยืนมองจำปาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขารู้สึกผิดและอยากที่จะขอโทษจำปาเสียเหลือเกิน

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จำปากำลังปาดน้ำตาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนหันหลังจะกลับบ้านแต่กลับเห็นคูนยืนมองดูอยู่

จำปาแสดงแววตาตกใจออกมาครู่หนึ่ง ก่อนที่ทั้งสองจะยืนสบตากันอยู่นานพอสมควร จู่ๆ คูนก็วิ่งเข้าโอบกอดเธอเนื้อแนบเนื้อ สองแขนของชายหนุ่มรัดตัวของแม่หญิงแน่นจนเธอซุกซบอยู่กับแผงอกกำยำ

จำปางุนงงกับการกระทำของคูนเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกไม่ดีที่มีพ่อชายมาละลาบละล้วงในเรือนร่างเช่นนี้ แต่อีกใจนึงเธอกลับรู้สึกอบอุ่นและใจสั่นหวิวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“อ้ายขอโทษเด้อ” คูนกระซิบข้างๆ หูของจำปา

“ปล่อยตัวข่อยเดี๋ยวนี้” จำปากัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็นเข้า แล้วอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ “ถ้าบ่อยากตาย อย่าคิดที่สิเฮ็ดแบบนี้กับข่อยอีก”

เท้าขวาของจำปากระทืบลงไปที่เท้าของคูนเต็มแรง เขาตะโกนร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดจนเผลอปล่อยมือออกจากจำปา จำปาตัดสินใจตบหน้าของเขาอย่างแรงหนึ่งทีก่อนรีบวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้อย่างเร็วที่สุด

คูนค่อยๆ สัมผัสแก้มตัวเองแล้วอมยิ้มออกมาอย่างคนโล่งใจ ในที่สุดเขาก็ได้เผยความรู้สึกที่เก็บเอาไว้มานานหลายปีผ่านอ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ โดยที่จำปาไม่เคยรับรู้เลยว่าเขาคอยซ่อนตัวเพื่อแอบมองดูเธออยู่ทุกคืนวัน

และแล้วสิ่งที่จำปากลัวคนอื่นมาเห็นว่าตนยืนกอดรัดกับพ่อชายนั้นก็เกิดขึ้นจริง มีแม่หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันผู้หนึ่งแอบซุ่มมองดูอยู่ไกลๆ เพียงคนเดียว เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนับต่อจากนี้จะออกมาดีหรือร้ายเพียงใด ก็คงขึ้นอยู่กับว่าแม่หญิงคนนี้จะนำพาให้เป็นอย่างไรต่อไป



Don`t copy text!