โหงลำโขง บทที่ 7 : ข้อตกลงของสองเรา (2)

โหงลำโขง บทที่ 7 : ข้อตกลงของสองเรา (2)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

ข้อตกลงระหว่างคูนและจำปาที่ได้ทำขึ้นมาเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น ทำเพื่อรักษาชีวิตของจำปีจริงๆ หรือมันเป็นเพียงข้ออ้างของจำปาที่ต้องการให้พี่สาวตนเองมีความสุขกันแน่

…เหตุการณ์ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

หลังจากจำปีขอโทษจำปาไปในคืนนั้น สองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ก็เริ่มใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติมากขึ้น แต่คนที่ต้องแบกรับความผิดทั้งหมดและจำยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ นั่นก็คือ…จำปา เพื่อให้แม่หันมาปกป้องและมอบความรักแก่เธอบ้างสักหน่อยก็ยังดี ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอทำได้เพียงภาวนาให้กาลเวลาช่วยบรรเทามันลงช้าๆ จนกว่ามันจะหายไปจากความทรงจำ

แต่มีสิ่งหนึ่งที่จำปาอยากจะคลี่คลายความสงสัยออกไปจากใจ คือคำพูดของจำปีในคืนนั้นที่อธิบายความจริงให้เธอฟัง หลังจากหายเจ็บจากบาดแผล เธอจึงแอบย่องออกจากเฮือนในยามดึกเพื่อหวังพูดคุยกับคูนให้แน่ชัด

คูนยืนยิ้มอย่างมีความสุขที่จำปานัดตนมาพบกันในยามกลางคืนเช่นนี้ บรรยากาศริมลำน้ำโขงที่ห่างไกลผู้คน ช่างเหมาะแก่การสานสัมพันธ์ความรักระหว่างเขาและเธอ

“น้องคงสิเจ็บหลาย อ้ายได้ยินข่าวว่า…น้องถูกแม่ใหญ่เฆี่ยนตีเข้า” คูนหันไปยิ้มให้จำปาที่เอาแต่ยืนมองเงาของพระจันทร์ที่ตกกระทบลงมาบนผิวน้ำ “ว่าแต่น้องถูกเฆี่ยนด้วยเรื่องหยัง บอกอ้ายได้บ่”

จำปารู้สึกชังน้ำหน้าของคูนมาก เธอไม่คิดแม้แต่จะเหลียวหน้ามองเลยด้วยซ้ำ แต่ต้องพูดคุยกัน จึงจำใจหันหน้ามาพูดด้วย “เข้าเรื่องเลยกะแล้วกัน มื้อนั่นที่เจ้ากอดข่อย คงกอดผิดคนแม่นบ่ อันนี้ข่อยเข้าใจเจ้าเด้อ เรื่องแบบนี้มันอาจสิเข้าใจผิดกันได้ ย้อนเฮาสองคนนั้นเป็นฝาแฝดที่หน้าตาคือกันหลาย แม้แต่คนในหมู่บ้านยังแยกบ่ค่อยออกเลย แต่เจ้ากะเพิ่งสิย้ายมาอยู่ได้บ่นาน กะคงสิสับสนไปบ้าง ตอบมาตรงๆ ได้เลย เจ้ากับจำปี ฮักกันอยู่แม่นบ่”

“น้องเป็นหยังไป” คูนหัวเราะแห้งออกมา หลังจากได้ยินจำปาพูดร่ายยาวออกมา “เข้าใจผิดหยัง แล้วเป็นหยังอ้ายต้องฮักกันกับจำปีด้วย คนที่อ้ายฮักนั้นคือจำปานั่นล่ะ ถูกต้องแล้ว”

“บ่แม่น” จำปาตะคอกเสียงสวนกลับออกไปทันที “เจ้าต้องฮักกันกับจำปีสิ อย่างน้อยเรื่องที่เจ้าไปช่วยจำปีไว้ คงเป็นสายแนนที่พญาแถนส่งมาให้ได้เจอกัน”

“ความฮักกะคือความฮัก ถ้าเกิดอ้ายไปช่วยเหลือแม่หญิงทุกคนเข้า ทุกคนบ่กลายเป็นสายแนน…ของอ้ายกันหมดเลยหรือไง” คูนพยายามที่จะคว้ามือของจำปามากุมเอาไว้ แต่จำปาก้าวเท้าถอยออกห่างเสียก่อน “ฟังอ้ายเด้อ คนที่อ้ายฮักและสิฮักตลอดไปนั้น กะคือน้องจำปาผู้เดียว”

“เป็นบ้าหรือไง เห็นกันแค่บ่กี่มื้อเอง สิมาฮักกันได้ยังไง” จำปารู้สึกได้ว่าพ่อชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้นั้นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เพิ่งจะเจอหน้ากันไม่นาน จะมาบอกรักกันแบบนี้มันง่ายเกินไปไหม แถมยังบอกว่าจะรักตลอดไป คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้

“ความฮักของอ้าย มันบ่มีเวลาหรือระยะทางหรอก แค่ได้เห็นหน้าน้องแล้วเกิดหัวใจของอ้ายเต้นแรง นี่แหละคือคนที่พญาแถนส่งมาให้ครองคู่กัน” คูนรีบหันหน้าไปทางลำน้ำด้วยความเขินอาย “และอ้ายกะเชื่อว่าหัวใจของน้องกะคงเต้นแรงคือกัน” คูนหันหน้ามามองจำปาด้วยสายตาแพรวพราวเพื่อหว่านเสน่ห์ “หากสองหัวใจของสองเฮาเต้นแรงพร้อมกัน นี่แหละถึงเรียกว่าคู่แท้”

คำพูดของคูน ทำเอาจำปาถึงกับต้องเอามามือขึ้นมาทาบอกของตัวเอง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเต้นปกติหรือเต้นแรงอย่างที่คูนบอกกันแน่ เธอพบว่า…หัวใจมันเต้นแรงมากกว่าปกติจริงๆ ด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอกัน เหตุใดถึงต้องเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าของพ่อชายคนนี้ ไม่ได้…ยังไงก็ต้องเก็บอาการและข่มอารมณ์เอาไว้

“ข่อยคงออกมานานเกินไปแล้ว ไว้มื้อใหม่ค่อยพูดคุยกันอีกที”

จำปาไม่อาจที่ฝืนทนเก็บอาการต่อไปได้ จึงขอตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินออกไป คูนก็รีบดึงแขนของเธอเข้ามาโอบกอดเอาไว้อย่างรวดเร็ว เธอหยุดนิ่งภายใต้อ้อมกอด หัวใจเต้นออกมาแรงมากถึงกับหายใจไม่เป็นจังหวะ

“หายใจเข้าลึกๆ หายใจช้าๆ” คูนพูดเบาๆ ข้างๆ ใบหูของจำปา พร้อมกับคอยลูบหลังของเธอไปด้วย “จากนั้นค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ เด้อ”

จำปาทำตามที่คูนบอก จนอาการหัวใจเต้นแรงของเธอเริ่มกลับมาเต้นเป็นปกติ

จากนั้นคูนค่อยๆ ดันตัวของจำปาออกห่างทีละช้าๆ มือของเขายังคงจับอยู่ที่บ่าไหล่ทั้งสองของเธอเพื่อสังเกตอาการ “รู้สึกดีขึ้นหรือยัง อ้ายบอกแล้ว…เฮาสองคนเป็นคู่แท้กัน”

จำปาส่ายหน้า “บ่ได้ มันบ่ควรเป็นแบบนี้สิ”

“อย่าหักห้ามหัวใจตัวเองเลยเด้อ เฮายังมีพอมีเวลาอีกหลายที่สิเฮ็ดความฮู้จักกัน ตอนนี้น้องอาจสิยังตกใจอยู่ เดี๋ยวนานๆ น้องกะสิชินเอง”

“ก่อนที่สิสายเกินไป เฮาพอกันแค่นี้เถอะ” จำปาหวนนึกถึงคำพูดของจำปี หากไม่ได้สมหวังกับคูน คงต้องผูกคอตายไป “นี่อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข่อยแค่อาจตกใจและคาดบ่ถึงว่ามันสิมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเจ้าของ ขอให้ทุกอย่างจบลงแต่เพียงเท่านี้ ความผิดพลาดที่ผ่านมาจนมาถึงตอนนี้ กะถือเสียว่ามันบ่เคยเกิดขึ้นกะแล้วกัน” เธอผลักตัวของคูนออกให้ห่างตัวก่อนที่ความสับสนของความคิดจะครอบงำเธอจนต้องนั่งยองๆ ลงพร้อมกับกอดหัวเข่าทั้งสองเอาไว้

“ใจเย็นๆ ก่อนเด้อ เฮายังมีเวลาทำความฮู้จักกันหลาย” คูนเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ จำปา “น้องอาจสิตัดสินใจเร็วเกินไป ความรู้สึกที่แท้จริงของน้องอาจสิบ่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้”

“ตัดสินใจเร็วอย่างงั้นเหรอ” น้ำเสียงของจำปาเอ่ยออกมาอย่างเหม่อลอยพร้อมกับทอดมองสายน้ำที่อยู่เบื้องล่าง “ข่อยตัดสินใจถูกแล้วต่างหากล่ะ ส่วนความรู้สึกที่แท้จริงเป็นยังไงนั้น กะซ่างมันเถอะ บ่เห็นสิอยากเข้าใจมันเลยสักนิด ถ้าเกิดว่าเฮาสองคนฮักกันขึ้นมา แล้วมีคนต้องมาเสียชีวิตไป ยังไงข่อยกะบ่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด”

“ใครกันสิมายอมเสียชีวิต เพียงแค่เพราะเฮาสองคนฮักกัน” คูนค่อยๆ นั่งลงไปกับพื้นหญ้าชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง ก่อนหันไปมองใบหน้าของจำปา “คนเฮาเกิดมาล้วนแล้วกะฮักชีวิตตัวเองทั้งนั้น บ่มีใครยอมเสียชีวิตกันง่ายๆ ด้วยเรื่องแค่นี้หรอก”

“มีสิ” จำปาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะซุกใบหน้าลงไประหว่างหัวเข่าทั้งสอง “จำปีไงล่ะ จำปีฮักเจ้าหลายเด้อ เคยฮู้อยู่บ่” เธอร้องไห้ที่สะอึกสะอื้น “ข่อยบ่อยากเห็นใครต้องมาตายเด้อ” เธอหันหน้าขึ้นไปมองคูน “เจ้าเปลี่ยนใจไปฮักกันกับจำปีได้บ่”

“ความฮักเป็นเรื่องของหัวใจ อ้ายฮักน้องไปแล้ว”

“ยังไงจำปีกับข่อยกะมีใบหน้าคือกันอยู่ เจ้าลองให้โอกาสหัวใจตัวเองใหม่ ลองเปิดใจฮักกันกับจำปีเถอะ ถ้าขืนเจ้ายังเอาแต่บอกฮักข่อยอยู่แบบนี้ จำปีฮู้เข้า…คงได้ผูกคอตายแน่ มันบ่คุ้มค่าเลยเด้อ” จำปาปาดน้ำตาตัวเอง “ขอร้องละ อย่าเล่นกับชีวิตของคนเลย”

“บ่ได้ นี่มันชีวิตของสองเฮา สิให้อ้ายไปลองฮักกับจำปีนี่นะ อ้ายเฮ็ดบ่ได้หรอก”

“งั้นเฮาสองคนกะบ่ควรที่สิมาพบหน้ากันอีก ถ้าจำปีสิผูกคอตายย้อนบ่ได้สมหวังกับเจ้า แม่หญิงคนนั้นของเจ้า มันกะควรสิบ่แม่นข่อยเลยตั้งแต่แรก”

“บ่ได้” คูนส่ายหน้ารับไม่ได้กับความคิดของจำปา “น้องตั้งสติเด้อ จำปีบ่มีวันผูกคอตายหรอก เชื่ออ้ายเถอะ สักมื้อจำปีกะได้คงพบฮักกับพ่อชายสักคน”

“แล้วมื้อไหนล่ะ เกิดจำปีผูกคอตายขึ้นมาก่อนล่ะ คนที่ต้องจมอยู่กับความรู้ผิดไปทั้งชีวิต มันกะคือข่อยเด้อ” จำปาร้องไห้ออกมาอีกรอบ “ถ้าเจ้าบ่ฟังในคำขอของข่อยเลย นับต่อจากนี้ ข่อยสิบ่ออกมาพบหน้าเจ้าอีกตลอดไปเอง ข่อยสิพยายามหาทางหลบหน้าเจ้าไปจนกว่าเจ้าสิหมดใจไปเอง”

ดูเหมือนว่าจำปาจะวิตกกังวลไปมาก เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ส่วนคูนรู้สึกว่านี่มันไม่ยุติธรรมกับตัวเขาเลยสักนิด จะมีความรักกับเขาทั้งที ทำไมต้องมากลายมาเป็นแบบนี้ได้

“แล้วอ้ายต้องเฮ็ดอย่างไร ถึงสิได้พบหน้าน้องได้ อย่างน้อยได้แอบนัดเจอกันบ้างกะยังดี”

จำปาเริ่มมีความหวังขึ้น ข้อตกลงจึงผุดขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็ว “ถ้าเจ้ายังอยากเจอหน้าข่อยอยู่ เจ้าอย่าแสดงอาการความฮักที่มีต่อข่อยต่อหน้าคนอื่นๆ โดยเด็ดขาด และเจ้าต้องเฮ็ดดีกับจำปีเข้าไว้ จนกว่าจำปีสิได้พบกับคู่แท้ของตัวเอง…เจ้าสิยอมรับข้อตกลงนี้อยู่บ่”

“กะได้…อ้ายตกลง” คูนอยากให้ความคิดเช่นนี้บ้าๆ ของจำปาจบๆ ไป จึงตอบตกลงออกมาโดยง่าย แต่เขาก็มีข้อแม้เช่นเดียวกัน “แต่น้องจำปา ห้ามไปหลงฮักใครเป็นอันขาด น้องต้องให้โอกาสอ้ายแต่เพียงผู้เดียว…น้องสิยอมรับข้อตกลงนี้อยู่บ่”

จำปาไม่ได้ให้คำตอบ แต่กลับเอนหัวตัวเองไปพิงไหล่ของคูนก่อนที่จะหลับตาลงพร้อมกับถอนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ อย่างน้อยก็ยกปัญหาออกไปจากอกจนได้ คูนค่อยๆ ยกมือไปโอบไหล่ของเธอเอาไว้ ยังไงความรักครั้งแรกก็ย่อมค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป น่าจะดีกว่า…

 



Don`t copy text!