โหงลำโขง บทที่ 9 : แม่หญิงถูกลักพาตัว (3)

โหงลำโขง บทที่ 9 : แม่หญิงถูกลักพาตัว (3)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

แม่จำปูน จำปี และจำปาต่างพากันประคับประคองแม่หญิงหลายคนเข้าไปนั่งบนแคร่กันเสียก่อน เพื่อไม่ให้รบกวนเหล่าพ่อชายที่กำลังยืนพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด แม้ว่าทุกปัญหาจะมีทางทางออกเสมอ แต่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการวางแผนการให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

“กลุ่มโจรที่ลักพาตัวแม่หญิง อาจเป็นกลุ่มเดียวกับโจรที่ลักพาตัวจำปีเมื่อสามปีก่อน” ท้าวพาพูดออกมาจากการรวบรวมข้อมูลกลุ่มโจรต่างๆ ในละแวกนี้ “โจรพวกนี้บ่เอาทรัพย์สินเงินทอง พวกมันต้องการแค่แม่หญิงไปเป็นเมีย เพื่อสร้างลูกเยอะๆ ไว้เป็นกองกำลัง”

“ถ้าเป็นกลุ่มโจรที่พ่อพูดมา กว่าสิเข้าถึงตัวมันนั้นยากหลาย พวกนี้เฮ็ดโตเยี่ยงค้างคาว กลางวันมันหลับ กลางคืนออกหากิน” เก้อหันหน้าไปหาคูน “มีวิธีหยังอยู่บ่คูน อย่างน้อยเจ้ากะเคยปะทะฝีมือกับมันมาแล้ว น่าสิรู้จุดอ่อนของพวกมัน”

“จุดอ่อนพวกมัน คือ…บ่อาจรับมือกับวิชาดาบอาทมาฏของพวกเฮาได้ พวกมันถึงได้ใช้ผู้มีเวทมนตร์คาถาเข้ามาช่วยสะกดคนทั้งหมู่บ้านให้หลับลึกเช่นนี้” คูนแอบชายตามองจำปาที่กำลังปลอบขวัญชาวบ้านก่อนพูดต่อ “หากตามพวกมันไปตอนนี้…น่าสิยังทันอยู่ขอรับ เพราะพวกมันขี่ม้าพร้อมกับอุ้มแม่หญิงหนึ่งคนไปด้วย อาจสิไปได้บ่ไกลมากขอรับ”

ท้าวคำมั่นเห็นด้วยกับคูน “ดีที่เฮาไหวตัวทัน งั้นใช้แผนไล่ล่าที่เคยฝึกมา รีบตามพวกมันให้ทันก่อนที่พวกมันสิถึงรังโจรอันโสโครกนั่นเสียก่อน”

“ขอรับหัวหน้า” พ่อชายที่ยืนร่วมประชุมต่างขานรับออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ทุกคนจะพากันแยกย้ายกันกลับเฮือนตัวเองเพื่อไปเตรียมตัวออกตามหาเหล่าหญิงสาว

ท้าวพาหันไปพูดกับเก้อ “บักเก้อ มึงรีบพาคนควบม้าไปเคาะกระบอกไม้ไผ่ให้มารวมพลกันที่นี่”

“ขอรับ…พ่อ” เก้อขานรับก่อนรีบไปทำตามคำที่พ่อสั่งทันที

เสียงกระบอกไม้ไผ่ที่เก้อและกลุ่มเพื่อนกำลังตระเวนขี่ม้าช่วยกันเคาะอยู่นี้ เป็นสัญญาณให้เหล่าบรรดาพ่อชายที่ผ่านการฝึกขั้นสูงรีบเตรียมตัวออกรบพร้อมกับม้าคู่ใจ นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่จะได้ออกรบ พ่อชายเหล่านี้ผ่านการฝึกฝนมาโดยตลอด คงถึงเวลาที่จะได้งัดฝีไม้ลายมือวิชาดาบอาทมาฏในสนามจริงกันสักที

“พ่อใหญ่ ช่วยป้าด้วย” เสียงแม่จำเนียนดังขึ้นมาแต่ไกล เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากคุ้มตีดาบมาพร้อมกับต๋อง ก่อนเหลียวหาท้าวคำมั่น แต่ไม่เจอ “พ่อใหญ่อยู่ไหน ช่วยหลานด้วย คนงามของป้าถูกโจรจับไป”

แม่จำปูนรีบวิ่งออกมาประคองพี่สาวตนเอง “เฮ็ดใจดีๆ ไว้เด้อเอื้อย เข้าไปนั่งที่แคร่กันก่อน ตอนนี้พ่อใหญ่ขึ้นเฮือนไปเตรียมตัวช่วยทุกคนอยู่”

“จำปูน กูเข้าใจความรู้สึกของมึงเมื่อสามปีที่แล้วเลย” แม่จำเนียนพูดไปร้องไห้ไป “หัวอกของคนเป็นแม่ที่รู้ว่าลูกถูกโจรจับไป มันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง”

“เข้าไปนั่งบนแคร่ก่อน” แม่จำปูนกวักมือเรียกจำปี “จำปีมาช่วยแม่ประคองป้าจำเนียนหน่อย”

จำปีที่กำลังง่วนอยู่กับการปลอบใจยายของบัวเพียง ต้องปลีกตัวออกมาประคองตัวของแม่จำเนียนเข้านั่งบนแคร่ ก่อนที่จะช่วยพูดปลอบใจป้าให้มีสติและใจเย็นๆ ขึ้นกว่านี้

ต๋องยืนหอบด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มที่เคยเข้มแข็งมาโดยตลอด แต่พอได้เห็นแม่ตัวเองร้องไห้เพราะพี่สาวถูกลักพาตัวไป เขาถึงกับต้องร้องไห้ตามออกมาเหมือนกับคนอื่นๆ เช่นกัน

เมื่อจำปาเหลือบหันไปเห็นต๋องกำลังยืนร้องไห้ในมุมมืด เธอก็รีบวิ่งโอบกอดน้องชายคนนี้เอาไว้ด้วยความเป็นห่วง “บ่เป็นหยังเด้อ ตั้งสติไว้ ต๋องตั้งสติไว้”

“เอื้อย…”

“ใจเย็นๆ ไว้” จำปากระซิบเข้าไปข้างๆ หูของต๋อง “เฮาสิออกไปล่าโจรกัน แล้วพาแม่หญิงทุกคนกลับมาที่นี่อย่างปลอดภัยเด้อ”

ต๋องดันตัวออกไปจ้องตากับจำปา “อย่าบอกเด้อว่า…เอื้อยสิออกล่าโจร”

“แม่นแล้ว เอื้อยสิออกล่า แต่ถ้าต๋องบ่อยากไปนำกะบ่เป็นหยัง อยู่ดูแลป้าจำเนียนทางนี้กะได้”

“บ่” ต๋องส่ายหัวปฏิเสธ “ข่อยบ่ปล่อยให้เอื้อยไปคนเดียวเด็ดขาด เฮาอุตส่าห์ฝึกวิชาดาบอาทมาฏมานำกัน คงถึงเวลาแล้วที่สิได้ใช้มันจัดการพวกโจรชั่วสักที”

“งั้นกะอย่าส่งเสียงดัง กลุ่มโจรที่จับตัวแม่หญิงไป น่าสิเป็นกลุ่มเดียวที่เคยจับจำปีไปเมื่อสามปีก่อน เส้นทางที่พวกมันใช้คงเป็นป่าทางทิศตะวันตก เฮาสิไปคนละทางกับพ่อกะแล้วกัน”

“เกิดพ่อใหญ่เห็นเฮาก่อนล่ะ”

“บ่มีทางเห็นหรอก เพราะเฮาสิไปอีกทาง ฟ้าวไปเตรียมตัว แล้วไปรอเอื้อยตรงที่ฝึกขี่ม้ากัน”

ต๋องพยักหน้ารับทราบก่อนที่เขาจะรีบวิ่งกลับเฮือนไปเตรียมตัวและขี่ม้าไปรอจำปาตรงบริเวณที่เคยฝึกขี่ม้าด้วยกัน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าคูนที่นั่งบนหลังม้าอยู่ไกลๆ คอยแอบมองพวกเขากระซิบกระซาบกันด้วยความรู้สึกสงสัย

จำปาเดินกลับเข้าไปใต้ถุนเฮือน ทำทีช่วยปลอบใจแม่หญิงแต่ละคนเพื่อไม่ให้ตัวเองดูมีพิรุธ การออกล่าครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้นำวิชาดาบอาทมาฏออกมาใช้ในสถานการณ์จริง จากที่คอยแอบฝึกกับต๋องในช่วงเวลากลางคืนมาโดยตลอด เพราะในช่วงเวลากลางวันนั้นเธอต้องอยู่ดูแลแม่จำปูนที่ตาบอด แม้สภาพร่างกายของเธอจะเป็นแม่หญิง แต่ฝีมือการออกรบบนหลังม้าและวิชาดาบอาทมาฏนั้นเชี่ยวชาญไม่แพ้เหล่าบรรดาพ่อชายเลยทีเดียว

วิชาดาบอาทมาฏที่จำปาฝึกฝนมาเป็นเวลากว่า 5 ปีนั้น เธอคิดว่ามีเพียงต๋องคนเดียวที่รับรู้ เพราะคอยฝึกปรือมาด้วยกัน แต่เธอยังไม่รู้ว่ามีใครอีกคนที่รับรู้เรื่องราวการฝึกทั้งหมดนี้มาโดยตลอด นั่นก็คือ ‘คูน’ ชายหนุ่มที่คอยจับตาดูเธอทุกฝีก้าวและล่วงรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอทุกช่วงเวลา

การที่จำปาเก่งวิชาดาบอาทมาฏมาก ก็เป็นเพราะคูนที่คอยฝึกฝนให้ต๋องในทุกกระบวนท่าอย่างถูกต้อง เพราะเขารู้ดีว่าต๋องต้องแอบมาถ่ายทอดวิชาดาบนี้ต่อให้จำปา เขาจึงเคี่ยวเข็ญต๋องให้เก่งเทียบเท่าคนอื่นๆ จนต๋องนับถือเขาเป็นครูบาอาจารย์คนหนึ่งที่เคารพยิ่ง

 



Don`t copy text!