ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 15 : เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล (1)

ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 15 : เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล (1)

โดย : พิมพ์อักษรา

Loading

ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co

พระพิรุณเริ่มทิ้งช่วงห่าง คงย่างเข้าปลายฤดูฝนเต็มที อีกมินานนั้นแลลมหนาวจักย่างกราย เป็นสัญลักษณ์อันบ่งบอกกลายๆ ว่าพระนางถูกจำกัดอิสรภาพ ให้ประทับอยู่แต่ในอาณาเขตตำหนักฝ่ายรักตมปุระมาเกือบสามเดือน เป็นระยะเวลาอันนานพอให้ชวาลาได้ทรงทบทวนเรื่องราวในพระชนม์ชีพตั้งแต่ประสูติจนถึงบัดนี้ และได้ใช้เวลาอยู่กับองค์เองและ ‘คนในครอบครัว’ นานกว่าทุกครา

เจ้าหญิงมฤติกาทรงเก็บองค์เงียบขรึมไปมาก และแม้ทรงฝืนวางท่าขึงขังแข็งกร้าวอย่างไร หากผู้เป็นราชบุตรีทรงทราบดีว่าภายในพระทัยพระชนนีทรุดหนักด้วยความผิดหวังรุนแรง พระมารดามิเคยเตรียมพระทัยสำหรับความผิดพลาดล้มเหลวมาก่อนในพระชนม์ ด้วยแต่ไหนแต่ไรมามิเคยมีสิ่งใดที่พระนางต้องการแล้วมิได้สำเร็จตามประสงค์ เพราะแม้แต่ตัวชวาลาผู้เป็นธิดาก็ทรงเกิดและเติบโตมาได้ดังพระทัยทุกประการ เจ้าหญิงมฤติกามิทรงคาดคิดแม้สักเสี้ยวใจว่าชัยชนะที่อยู่มิเกินเสี้ยวองคุลีคว้า นอกจากหลุดลอยไปแล้วยังพลิกกลับตลบหลัง แทงซ้ำให้ปราชัยได้ในพริบตา…

เพียงมิเกินชั่วข้ามคืนชาวรักตมปุระในละโว้ก็ถูกควบคุมตัวอยู่ในเขตชวัลรวี จะขยับเขยื้อนทำอันใดก็ลำบากด้วยถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

ต่างจากชวาลาที่ทรงรู้จักตนเองดีว่าแต่ไหนแต่ไรมานั้น มิได้ทรงยินดียินร้ายในพระปรีชาสามารถเก่งกาจที่ผู้คนแซ่ซ้องพระนางนัก มิได้ผลักไสหากก็มิได้กระหายหรือถือเป็นหลักชัยในชีวิต เมื่อต้องร่ำเรียนหรือฝึกฝนก็ทรงมองเป็นเรื่องสนุกน่ารู้จึงมิได้ฝืนใจ เมื่อทรงทำได้ดีก็ยินดีหากไม่ยึดติด ทำได้ไม่ดีก็หัดใหม่ บางสิ่งก็กลับกลายเป็นทำได้ดี บางอย่างก็ก้าวหน้ากว่าเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ยอมรับว่าทรงทำได้เพียงเท่านี้ พระนางจึงปราศจากการยึดถืออารมณ์ความรู้สึกใดเป็นพิเศษ แม้ในสิ่งที่คนเรียกว่าชัยชนะ

สิ่งที่เป็นหลักประจำใจให้เจ้าหญิงชวาลาทรงยึดมั่นมากกว่า คือจักทรงทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อย่างไรบ้าง ดังนั้นหากสิ่งที่ทรง ‘ต้องเรียน’ หรือ ‘ต้องทำ’ นั้นช่วยราชกิจแลก่อประโยชน์ให้ราชธานีแล้วไซร้ ก็จักมุ่งพระทัยไปโดยมิได้ทรงคำนึงว่าต้องเอาชนะผู้ใด

ให้บังเอิญว่าทรงฉายแสงโดดเด่นรอบด้านราวกับผู้กระหายอำนาจและชัยชนะเท่านั้นเอง

เนื้อแท้พระนางมิได้ต้องการความทะยานอยากเช่นนั้นเลย

เจ้าหญิงถอนปัสสาสะอีกหนขณะทอดพระเนตรทั่วตำหนักชวัลรวีที่ยังคงได้รับการทำนุบำรุงงดงาม ข้าราชบริพารยังปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไปเสมือนสภาวะปกติ แต่ภายในคือความตึงเครียดดุจคลื่นใต้น้ำ ด้วยมิมีผู้ใดรู้ว่าจักเกิดสิ่งใดขึ้นกับชะตากรรมของชาวทะเลใต้ในละโว้ แม้พระนางเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้

ดูเถิด ที่ใครต่อใครยกย่องว่ามีพระสติปัญญาล้ำเลิศ เก่งกาจทุกสรรพศาสตร์สมเป็นนางพญานักปกครอง แม้ต้องรบทัพจับศึกก็เอาชนะมาได้อย่างสมพระเกียรติ สุดท้ายกลับลงเอยด้วยสภาพมิต่างจากนักโทษ หากยังเป็นนักโทษชั้นอภิสิทธิ์ชนที่สามารถใช้ต่อรองหาผลประโยชน์หรือใช้เป็นตัวประกันได้…

“ไม่มีผู้ใดดีเลิศจนไร้จุดตำหนิหรอก ข้าเองก็มีจุดอ่อนมากมาย ขอเพียงสบช่องก็ย่อมเล่นงานได้” พระนางรับสั่งอย่างปลงตกกับพระพี่เลี้ยงทั้งสองที่เข้ามาถวายงานสรงและแต่งภูษา “ผู้คนยกย่องข้าเป็นดวงตะวัน หากก็บอกว่าตะวันดวงนี้แผดแสงแรงกล้าเกินไป แต่ข้าหาใช่ดวงสุริยาไม่ เพราะชวาลาแท้จริงแล้วเป็นเพียงดวงไฟในตะเกียงเล็กๆ เท่านั้นเอง…เพียงได้เป็นแสงสว่างเล็กน้อยในความมืดให้ใครสักคนข้าก็พอใจแล้ว”

“องค์หญิงเป็นดวงรพีนั้นถูกต้องแล้วต่างหาก ทรงมอบแสงแลความอบอุ่นให้ปวงชนใต้หล้าทุกหย่อมหญ้า มิเช่นนั้นจักทรงพร้อมสรรพปรีชาสามารถรอบด้านได้อย่างไร หาได้มีเจ้านายพระองค์ใดเสมอเหมือนพระนางไม่นะเพคะ” คุณท้าวเกษวดีทูลแย้งทันควัน อีกมือก็จัดกรองศอทองเส้นใหญ่ให้แผ่คลุมอุระรับกับชายภูษาสีชมพูอ่อนแล้วก็พึมพำออกมา “งามเหลือเกิน”

“ข้าอาจเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ให้ลุล่วงเพียงเท่านี้กระมัง”

“มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่รอคอยองค์หญิงอยู่ อย่าได้ทรงหมดหวังเสียก่อน หม่อมฉันยังเชื่อในชะตานางพญาเจ้าขององค์หญิงเพคะ”

“พี่เกษเชื่อในคำพยากรณ์น่ะหรือ” พระนางสรวลแกมเศร้า “พี่จงอย่ายึดมั่นจนงมงายเลย จงอยู่กับปัจจุบันขณะเถิดหนา พี่ก็เห็นว่าพวกเรามิต่างอันใดกับนักโทษ ไร้กองกำลังของตนเอง จักปลดแอกได้อย่างไรก็ยังมองมิเห็นทาง” รับสั่งพลางแตะมวยเกศา “คล้องเกี้ยวมาศอีกสักหน่อยเถิด ดูทีฤๅ พอมิได้ทำงาน มีเวลานั่งปรุงโฉมแต่งกายก็เพลินใจดีนักแล…” ทรงทำท่ากระฉับกระเฉงขึ้นมา

“เอาละ ประเดี๋ยวข้าจะไปเยี่ยมเรือนทอผ้าให้แม่เฒ่าสอนงานเย็บปักอย่างกุลนารีทั่วไปเสียบ้าง จากนั้นก็จะไปดูพวกนางกำนัลที่กำลังหัดเผาลูกแก้ว”

ตั้งแต่ถูกควบคุมอยู่ในเขตชวัลรวีแลมิต้องทรงงานราชกิจดังเคย ชวาลาก็ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับเรื่องแต่งองค์ทรงโฉมและงานบ้านงานเรือนของสตรี ไปจนถึงงานเครื่องดินเผามากขึ้นโดยปริยาย เครื่องแก้วที่เคยสนับสนุนก็มีโอกาสได้พัฒนาต่อยอด การทำเช่นนี้ช่วยหันเหไปจากความตึงเครียดเศร้าหมอง แลยังช่วยให้เข้าพระทัยความเป็นไปและสถานการณ์ของพระนางได้มากขึ้นว่า…

ไม่ว่าอย่างไร เจ้าหญิงชวาลาก็ต้องตายอยู่ดี

เจ้าหญิงผู้เป็นคนนอกวงศ์ทวารวดี ฉายแสงโดดเด่นเกินหน้าคนในทั้งปวงยังมิพอ ยังแย่งองค์รัชทายาทที่จักขึ้นครองเป็นกษัตริย์ลวปุระไปอีก ที่ผ่านมาทรงมีเกราะกำบังแข็งแกร่งแน่นหนาคุ้มครองจนไม่มีผู้ใดสบช่องทำลายได้ ทว่าบัดนี้ทรงเป็นเพียงเจ้าหญิงคนนอกผู้เปราะบาง เหลือกองกำลังส่วนพระองค์เพียงหยิบมือหนึ่ง บรรดาขุนพลเจนศึกคู่พระทัยก็สิ้นชีพไปแทบสิ้น ทหารจำนวนมากก็ล้มตายในสงครามไตมาว พวกที่เหลือซึ่งเป็นแรงสนับสนุนก็ยังเฉลิมฉลองพักผ่อนอยู่ข้างนอกด้วยมิถึงเวลากลับเข้าประจำการ คนนอกวังทั้งปวงยังถูกปิดหูปิดตาไม่ทราบเรื่อง จึงแทบไม่มีผู้ใดจักช่วยเหลือพระนางได้เลย

ครั้นใคร่หวังพึ่งแสนยานุภาพกองทัพอันเกรียงไกรจากรักตมปุระก็กลับเกิดอุปสรรคขึ้นเสียก่อน เหตุด้วยเจ้าชายยศวร ราชบุตรผู้จักนำทัพสู่ละโว้เกิดประชวรหนักหลังปราบโจรสลัดที่ปล้นเรือสินค้าของรักตมปุระได้สำเร็จ แลหลังจากนั้นก็ได้เกิดเหตุเรือสินค้าลำอื่นๆ อับปางกลางมรสุมในมหาสมุทรตามมาให้ประมุขนครต้องจัดการ การยาตราทัพสู่นครละโว้อันแสนไกลจึงเป็นเรื่องยากลำบากในเพลานี้

ส่งผลให้อย่างไรชวาลาก็ทรงเสียเปรียบทุกทางแลมิช้าก็คงถูกกำจัดทิ้งในที่สุด

ไม่มีเหตุผลใดที่พวกปฏิปักษ์จักเก็บองค์หญิงผู้เป็นเสี้ยนหนามนี้ไว้เลย

ลำพังตัวพระนางเองก็เพียงเสียดายที่จักหมดโอกาสได้ช่วยเหลือรับใช้ราชอาณาจักร เสียดายว่าวิชาความรู้ที่ทรงร่ำเรียนมาอย่างเชี่ยวชาญอันสามารถขยายประโยชน์ต่อไปได้นับอนันต์นั้นจักจบลงแต่เพียงเท่านี้

ทว่าเรื่องที่หนักหนายิ่งกว่าคือความอาวรณ์ถึงภัสดาว่าเมื่อพระนางจากโลกนี้ไปแล้ว ชีวิตของเจ้าชายกัษษกรจักดำเนินไปเช่นไรท่ามกลางมรสุมทางการเมืองอันเชี่ยวกราก ที่มีพระองค์เองเป็นหมากสำคัญในกระดาน

กัษษกรอาจทรงโทษตนเองที่ไร้ความสามารถจักปกป้องพระชายาได้ แลตรอมใจต่อโชคชะตาอันขมขื่นที่ลิขิตให้ทรงเป็นเพียงรัชทายาทหุ่นเชิด หรืออาจทรงถูกบังคับให้อภิเษกเจ้าหญิงสักพระองค์ขึ้นเป็นมเหสีแทนชวาลา…หากเป็นเช่นนั้นก็คงยังดีเสียกว่า

ดีกว่าให้กระดานอำนาจถูกพลิกคว่ำรื้อเล่นใหม่ทั้งหมด!

เจ้าหญิงชวาลาทรงคาดหมายถึงเรื่องเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ เป็นต้นว่าพระราชสวามีของพระนางทรงถูกนำไปจองจำในตรุจนสิ้นชีพไปเอง หรือกระทั่งถูกสั่งประหารชีวิต พร้อมกับการล้มล้างรื้อระบอบสืบสันตติวงศ์เสียใหม่ให้เป็นดั่งใจคนพวกนั้น เจ้าชายจากวงศ์เวหะที่ไม่เคยมีสิทธิ์สืบราชบัลลังก์มาก่อนอาจปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ละโว้ได้เช่นกัน

ดำริได้เช่นนั้น วรกายก็สั่นเทิ้มขึ้นมาทันที และทำให้เข็มเย็บภูษาทิ่มพระดรรชนีเข้าจนโลหิตซึม

“อุ๊ย” ทรงอุทานขึ้นแล้วก็เริ่มได้สติ “ตายจริง ข้าเผลอนึกเรื่องอื่นแค่แวบเดียวก็เย็บพลาดเสียแล้ว คุณท้าวอดทนลูกศิษย์กระโดกกระเดกผู้นี้เถิดหนา”

“หม่อมฉันต่างหากที่ไม่เฝ้าระวังองค์หญิงให้ดี” คุณท้าวผู้เฒ่าตกอกตกใจ ส่วนเหล่านางกำนัลรีบกรูเข้ามาซับพระโลหิตที่มีเพียงหยดเล็กๆ หยดเดียวเท่านั้น “แต่ฝีเข็มองค์หญิงคงที่มากขึ้นนะเพคะ เช่นนี้น่าจะเริ่มเย็บพระมาลาได้แล้ว”

นัยเนตรพระนางเป็นประกาย “ดีจริง ข้าใคร่เย็บมาลาแบบไชยาถวายเจ้าพี่เขน”

เมื่อทรงนำพระมาลาสีครามทรงสูงขึ้นถวาย พระสวามีก็แย้มสรวลกว้างทั้งประหลาดใจแลยินดี

“งามจริง วาน้อยเย็บเองทั้งหมดเชียวหรือ” ทรงพลิกและพิศทั่วพระมาลา “ลายริ้วคลื่นสีเงินก็ละเอียดยิ่งนัก ผู้ใดว่าเจ้าไร้ฝีมือเย็บปักถักร้อยกัน” รับสั่งพลางสรวลแช่มชื่น “ช่างเหมือนมาลาที่เจ้าแม่ตาราของพี่เย็บให้มิผิดเพี้ยนทีเดียว… วาน้อยจงสวมให้พี่เถิด”

ชวาลาค่อยๆ วางพระมาลาลงบนเศียรเจ้าชายกัษษกรอย่างนุ่มนวล บรรจงทัดขนนกสีขาวตรงปลายก็เป็นอันเสร็จสิ้น มาลาทรงสูงช่างรับกับเรือนเกศาประบ่าของภัสดาอย่างยิ่ง ผู้เป็นชายาทอดพระเนตรแล้วก็ทรงอดปลาบปลื้มพระทัยมิได้

บัดนี้ความสุขของพระนางกับเจ้าชายกัษษกรเรียบง่ายเพียงเท่านี้แล…

ทุกสิ่งละอันพันละน้อยที่ได้ทรงกระทำร่วมกัน ทุกเรื่องราว ทุกสัมผัส ทุกถ้อยดำรัส ทุกลมหายใจด้วยกันทุกขณะจิตนับจากนี้ล้วนทรงคุณค่า เต็มเปี่ยมความหมายลึกซึ้ง

ยามทิวาก็แทบมิยอมห่างเจ้าชายเกินชั่วยาม ครั้นเข้าราตรีก็มิยอมงดเว้นการร่วมพระแท่น ทุกโมงยาม ทุกเสี้ยวเวลาร่วมกันมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์ศฤงคารใดในโลกหล้า

เพียงใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่กับภัสดาให้มีความสุขที่สุด…เท่านี้กระมังที่จักทรงทำได้



Don`t copy text!