พระนคร 2410 แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ : บทนำ

พระนคร 2410 แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ : บทนำ

โดย : ตฤณภัทร

Loading

พระนคร 2410 แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ โดย ตฤณภัทร นวนิยายพีเรียดรางวัลรองชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปีที่ 2 ได้ลงจนจบบริบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้เขียนใจดีมอบ 5 บทแรกไว้ให้อ่านกันที่อ่านเอา และหากติดใจอยากอ่านต่อ พระนคร 2410 แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ รวมเล่มกับสำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่ง  สามารถสั่งซื้อได้ที่ www.groovebooks.com และ ติดตามข่าวได้ทางแฟนเพจของสำนักพิมพ์ @Groove publishing 

****************************

– บทนำ –

แสงอาทิตย์ยามสายที่ทอดลำผ่านบานหน้าต่างส่องให้เห็นห้องกว้างขวางในเรือนไม้ใต้ถุนสูงหลังใหญ่ บรรยากาศของห้องนั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากห้องหับในเรือนของชาวสยามทั่วไปเพราะในห้องนั้นเต็มไปด้วยตู้ไม้และชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือ กระดาษชั้นดี หรือแม้แต่คำภีร์ใบลาน

ซึ่งขณะนี้ห้องได้ถูกคนสองคนใช้มันเป็นสถานที่ถกถึงเรื่องงานอย่างตั้งอกตั้งใจ

“เป็นหม้ายได้สองปีแล้ว” เสียงใสอ่านตามสิ่งที่จดมา วาดนิ้วมือเรียวเล็กที่มีสีผิวอ่อนจางกว่าหญิงสาวชาวสยามทั่วไปลงบนหน้ากระดาษก่อนหยุดที่ข้อความสำคัญที่ตนได้ขีดเส้นใต้เอาไว้    “คนละแวกบ้านนั้นบอกว่านางเป็นคนขยันขันแข็ง แลรักเด็ก พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่าตกพุ่มหม้ายแต่ยังสาวเลย”

หญิงสาวเจ้าของเสียงใสนั้นพิจารณาข้อมูลที่ตนมีอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งก่อนถามความคิดเห็นของคู่สนทนา

“ยายท่านคิดเห็นประการใดเจ้าคะ”

“จับคู่กับพ่อมั่น” เสียงชัดเจนมีกังวานของหญิงชราที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามที่ดังขึ้นมาอย่างกระทันหันเป็นเหตุให้ผู้อ่อนวัยกว่าสะดุ้งด้วยความตกใจ

“โธ่ยาย ฉันตกใจจนขวัญกระเจิงหมดแล้ว” คนตกใจก้มลงไปเก็บสมุดจดที่ตนเพิ่งทำตกพื้นด้วยอารามตกใจก่อนโบกให้ผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามได้ชมดูว่าตนตกใจจริง ทว่าดูเหมือนกับผู้เป็นยายนั้นไม่ได้สนใจเธอนัก

ยายแถมในปีนี้มีวัยใกล้หกสิบปี ทว่าท่วงท่าของนางกลับยังคล่องแคล่ว ภาพชินตาของเด็กสาวตั้งแต่เล็กคือภาพชายผ้าแถบของนางแถมที่สั่นไหวไปตามการเคลื่อนตัวด้วยไม่ค่อยจะอยู่นิ่งๆ นัก

โนรีมองดูยายของตนไปหยิบกระดานชนวนมาวางบนโต๊ะ กางตําราทักษาพยากรณ์ แล้วก็เริ่มทำการผูกดวงอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วด้วยความฉงนใจ

การเติบโตมากับยายแถมทำให้เธอรู้ดีกว่าใครว่ายายของตนนั้นไม่เหมือนผู้อื่น ทั้งเรื่องความคิดก็ดี การกระทำก็ดี สำหรับนางแถมอายุที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ปราการขวางกั้นนางจากสิ่งที่นางสนใจ  ยายแถมมักทำงานของตนด้วยความกระตือรือร้น ทำมานานก่อนที่โนรีจะเกิดเสียอีก แม้ว่าจะเริ่มเห็นเจ้าอื่นเริ่มดำเนินรอยตามอาชีพของยาย ทว่าโนรีก็ยังไม่พบว่าจะมีใครทำเป็นอาชีพหลักได้แบบยาย และหญิงสาวก็เห็นว่าในพระนครแห่งนี้เกรงว่าจะไม่มีใครเชี่ยวชาญในด้านนี้เกินนางแถม ยายของตนอีกแล้ว

ในแขวงถนนวัดมหรรณพารามคงมีเพียงยายแถมเท่านั้นที่ตั้งแต่สาวจนแก่ หาเลี้ยงชีพด้วยตนเองจนปลูกเรือนอยู่ได้ และมีเงินทองใช้อย่างไม่ขาดมือ ซึ่งโนรีไม่เคยเห็นบ้านใดจะเป็นแบบนี้  อาจมีบ้างที่บางครอบครัวจะสูญเสียพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวแต่เขาไม่ได้อยู่กันเองแต่ผู้หญิงแต่ต้น และหญิงสาวมักพบว่าผู้หญิงสยามส่วนมากมักดูแลตนเองไม่ได้เมื่อขาดผู้นำครอบครัวที่เป็นชาย

แต่นั่นไม่ใช่กับยายแถมเพราะนอกจากนางจะหารายได้ เลี้ยงตัวตนเองแล้วยังเลี้ยงหลานสาวและบ่าวไพร่ในเรือนให้อยู่สุขสบายได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยายยังอ่านเขียนหนังสือได้คล่องแคล่ว อีกทั้งยังมีความรู้รอบ  ที่สำคัญโนรีค่อนข้างมั่นใจจะหาคนกว้าง รู้จักคนมาอย่างยายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

…เว้นเธอไว้คน ด้วยเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ

“นั่นไง ข้าว่าแล้ว คู่นี้เป็นชิ้นได้เหมาะยิ่ง” ชิ้นที่นางเอ่ยหมายความถึงคู่รัก ดวงตาของยายแถมพราวด้วยความพอใจ ผู้สูงวัยยกยิ้มตาหยีจนเห็นรอยย่นรอบดวงตาชัดเจน

“คู่ไหน” โนรีตามไม่ทัน

“เอ้า ก็นางปั้นหม้าย กับนายมั่นที่เป็นพ่อค้านะสิ” นางแถมบอกกับหลานสาว และถามเมื่อพบกับประกายตาไม่เห็นด้วยจากดวงตาสีน้ำตาลใสดั่งลูกแก้ว    “เอ็งจะว่าชายหนุ่มโสดจะไม่อยากได้แม่หม้ายละสิ แต่เชื่อข้าเถิด นี่และคู่สร้างคู่สมทีเดียว” ว่าแล้วก็ฉวยร่มและตะกร้าหวายคู่ใจขึ้นมา

“แล้วนั่นยายท่านจะไปไหนจ๊ะ” แม้โนรีจะคุ้นชินกับการทำอะไรรวดเร็วของผู้เป็นยายแต่ก็อดถามไม่ได้อยู่ดี

“เอ้า เอ็งก็ถามได้ถามดี ถามมาเป็นสิบปี” ยายแถมบ่นอย่างไม่จริงจังนัก ยักคิ้วให้หลานสาวก่อนตอบ

“ก็จะไปอุ้มสมให้คนเขาได้กันไงเล่า”

“ตอนนี้” โนรีถามเสียงสูง

“แล้วเอ็งจะนั่งอยู่ทำกระไร ออกเรือสิวะ!”



Don`t copy text!