พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 21.1 : อโหสิให้ด้วยนะ

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 21.1 : อโหสิให้ด้วยนะ

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

ปัง ปัง ปัง!

เสียงปืนดังรัวๆ ขึ้นติดกันหลายนัด เมื่อลิ่วลมหันกลับไปมองก็เห็นใครหลายคนโผล่ออกมาจากถ้ำที่สาม เส้นทางที่พวกเขาเพิ่งผ่านมา

ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะคนกลุ่มนั้นสวมชุดพรางคล้ายทหาร สวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ โผล่ให้เห็นแต่ลูกตา พวกมันมากันทั้งหมดห้าคน รูปร่างสูงใหญ่ มีอาวุธครบมือ

เดาว่าเป็นคนจาก Linn Plant ที่ไล่ตามหลังมา พวกมันรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาเลือกเข้ามาทางถ้ำหมายเลขสาม

แต่จะรู้ได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่จะหาคำตอบ เพราะตอนนี้พวกมันกำลังเล็งปลายกระบอกปืนตรงมายังพวกเขา ก่อนจะกระหน่ำยิงไม่ยั้ง

“รีบไป อย่าหันกลับมามอง” เชวังตะโกนบอก แล้วโบกมือให้ลูกหาบทั้งสามยกปืนยิงสกัดคนร้ายกลุ่มนั้นเอาไว้

อัญญาวีร์วิ่งไปถึงฝั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว เยชิและคินซารอรับอยู่ พวกเขาพาอาจารย์ของลิ่วลมไปหลบอยู่หลังก้อนหินใหญ่ที่เป็นโล่ธรรมชาติ

“ไปเร็วคุณ” ลิ่วลมวิ่งไปหานารีญาที่ยังยืนตัวแข็งอยู่กลางสะพาน กระสุนปืนแหวกอากาศผ่านไปหวีดหวิว เขาดันหลังหญิงสาวให้เดินไปข้างหน้า แต่นารีญายังไม่อาจขยับตัวได้

“โอเคไหมรีญา” เขากระซิบถาม

“ไม่” คราวนี้นารีญายอมรับตรงๆ ดวงหน้าของเธอซีดขาว มีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนหน้าผากทั้งที่อากาศในถ้ำชื้นเย็น “ฉันกลัวอะลม…มันสูงมาก”

เธอมองลงไปในหุบเขาเบื้องล่าง

ดงเห็ดสีแดงสดแผ่กระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ หลังจากได้รู้แล้วว่าเห็ดพวกนี้ไม่ใช่เห็ดธรรมดา ความสวยงามที่เห็นแต่แรกเปลี่ยนไปเป็นความน่าสะพรึงกลัว

“แล้วถ้าฉันตกลงไปล่ะ ตายแน่”

“ไม่ต้องกลัว” ลิ่วลมปลอบใจ เขาโอบหญิงสาวเอาไว้หลวมๆ “ไปด้วยกัน ก้าวตามจังหวะที่ผมบอกนะคุณ…เอ้า ก้าว…หยุด…ก้าว”

นารีญาพยายามทำตามที่ลิ่วลมกำกับ ทั้งสองค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าทีละน้อย สะพานเถาวัลย์สั่นสะเทือน เพราะเชวังและลูกหาบทั้งสามวิ่งตามมาทางด้านหลัง

ผู้บุกรุกทั้งห้าพยายามจะวิ่งตามมา หากพวกของเชวังกระหน่ำยิงสกัดจนพวกคนร้ายต้องหลบหลีกกันจ้าละหวั่น

“หลับตานิ่งๆ” ลิ่วลมสัมผัสได้ว่านารีญากำลังตัวสั่น เขากอดเอวของหญิงสาวเอาไว้แน่น “ค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวอะไร ผมอยู่นี่ ผมไม่ปล่อยให้คุณตกลงไปแน่ๆ”

ลมหายใจอุ่นๆ ของลิ่วลมที่อยู่ทางด้านหลัง ทำให้นารีญาสงบลง ลมหายใจของนารีญาเริ่มกลับมาสม่ำเสมอ อาการใจสั่นของเธอหายไปแล้ว ขาที่แข็งเกร็งกลับมาเคลื่อนขยับได้ดังเดิม

ลิ่วลมพานารีญาไปถึงฝั่งตรงข้ามในที่สุด คินซารอรับหญิงสาวอยู่แล้ว

“ยื่นมือมาค่ะ”

พอนารีญาก้าวลงมาจากสะพานได้โดยปลอดภัย คินซาก็พาเธอวิ่งไปหลบอยู่หลังก้อนหินด้วยกันกับอัญญาวีร์ ส่วนลิ่วลมนั้นพอส่งหญิงสาวเรียบร้อย เขาก็หันกลับไปช่วยเชวังยิงสกัดพวกคนร้าย

เชวังและลูกหาบทั้งสามเคลื่อนตัวตามชาวไทยทั้งสาม มาจนถึงฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็วด้วยความเรียบร้อย ทักษะการประคองตัวบนสะพานเถาวัลย์ของพวกเขาคล่องแคล่วชำนาญ ขณะที่คนร้ายเคลื่อนตัวมาถึงสะพานและเริ่มข้ามตามมาด้วยความระมัดระวัง เพราะเทนซิลและวังโม สองพี่น้องลูกหาบช่วยกันใช้เท้าถีบเชือกเถาวัลย์ที่คล้องสะพานจนตัวสะพานแกว่งไปมาอย่างรุนแรง

เชวังคว้ามีดเดินป่าออกมาจากกระเป๋า ลิ่วลมได้ยินเขาพึมพำบอกยูเยนว่า

“ยิงสกัดให้ด้วย”

เขาคุกเข่าลงรวดเร็ว ใช้มีดในมือตัดเถาวัลย์ที่ยึดโยงสะพานเอาไว้ มีเถาวัลย์จำนวนมากพันกันแน่นหนา แทนที่จะตัดเถาวัลย์ทีละเส้น เชวังคำนวณด้วยสายตาว่าเส้นไหนที่เป็นเส้นหลักที่ยึดสะพานอยู่ แล้วลงมือตัดเถาวัลย์กลุ่มนั้น

ปัง ปัง ปัง

พวกมันยังสาดกระสุนยิงมาไม่หยุดยั้ง

ปัง ปัง ปัง

พวกคนร้ายทั้งห้าข้ามสะพานมาจนถึงเกือบกึ่งกลางแล้ว ลิ่วลมช่วยยิงตอบโต้ สกัดให้พวกมันเคลื่อนที่ได้ช้าลง ขณะที่เชวังยังคงพยายามตัดเถาวัลย์ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเหลือ

ปัง!

“โอ๊ย”

กระสุนนัดหนึ่งของคนร้ายเจาะเข้าที่หัวไหล่ของเชวังอย่างจัง นายแพทย์วัยกลางคนร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เขาเงื้อมีดในมือแล้วสับลงบนเถาวัลย์เส้นสุดท้ายจนสุดแรง

แคร่ก!

และทันใดนั้นสะพานเถาวลย์ก็ขาดออกจากเสาที่มันยึดโยง

เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้นกะทันหันจนพวกคนร้ายไม่ทันตั้งตัว ร่างของคนร้ายทั้งห้าเสียหลัก กระเด็นตกลงไปในดงเห็ดเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

ฟรึ่บ

ฟรึ่บ

เสียงดอกเห็ดสีแดงสดขยับไหวรุนแรง พวกมันปล่อยน้ำยางสีขาวขุ่นออกมาอย่างรวดเร็ว

“อ๊ากกกกกก”

เสียงคนร้ายทั้งห้าร้องดังโหยหวน ขณะที่กลุ่มควันสีขาวอวลตลบจนมองแทบไม่เห็นอะไร นอกจากเสียงดิ้นทุรนทุรายของกลุ่มคนที่ตกลงไปในดงเห็ด

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ถึงสิบนาที เสียงร้องของคนร้ายทั้งห้าแผ่วลงทุกขณะ

“อโหสิให้ด้วยนะ”

เชวังพึมพำเสียงแผ่วเบา ขณะที่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดค่อยๆ เงียบลง และดงเห็ดในหุบเขาก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม

…สงบ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น…



Don`t copy text!