พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 36.2 : ความลับและกฎเกณฑ์

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 36.2 : ความลับและกฎเกณฑ์

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“แต่ผมก็ไม่ได้ปล่อยให้พวกคุณมากันตามลำพังนี่ครับ” เชวังรีบเล่าต่อ “ผมเป็นห่วง เลยปลอมตัวเป็นนัมเกตามมาในคณะเดินทางด้วย…ผมตั้งใจจะไม่เปิดเผยตัวตนเลย พอพวกคุณถึงซัมเซอย่างปลอดภัย ผมก็จะแยกตัวออกไป แต่สถานการณ์กลับบีบบังคับให้ผมต้องแสดงตัวออกมาในที่สุด”

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง” อัญญาวีร์กำหมัดแน่น “คุณใจร้ายกับพวกเรามาก คิดวางแผนเองทั้งหมด เห็นพวกเราเป็นอะไร”

“คุณจะคิดว่าผมใจร้ายก็ได้นะอัญ” เชวังยอมรับ “แต่ผมกลับคิดว่าหนทางนี้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้แล้ว…วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย…พยับฟ้าโพยมดินปลอดภัยจาก Linn Plant และพวกคุณก็อาศัยเส้นทางในแผนที่ติดตามหาตัวล่องเมฆ”

“แต่สุดท้าย Linn Plant ก็ได้ผ้าไปแล้ว” อัญญาวีร์เม้มริมฝีปากแน่น “และพวกเราทุกคนก็เกือบจะตายระหว่างทาง”

“ผมเสียใจ” เชวังก้มหน้านิ่ง “ผมพยายามทำทุกอย่างสุดความสามารถ เท่าที่จะทำได้แล้ว”

“เอายังไงต่อดีคะอา” ยังเชนแทรกถามขึ้น ใจของเธอจดจ่ออยู่กับเงื่อนไขในจดหมายของ Linn Plant “พวกมันพูดชัดเจนว่าจะไปที่หุบเขา”

“ก็ตามพวกมันไปที่หุบเขา” เชวังเอ่ยเสียงเข้ม

“ไปกันเถอะค่ะ เราเสียเวลามามากแล้ว” ยังเชนพยักหน้า

“ไม่” เชวังส่ายหน้า

“หมายความว่ายังไงคะ” ยังเชนประหลาดใจกับคำตอบของเชวัง

“หมายความว่าอาจะไปที่หุบเขาคนเดียว” เชวังบอกหลานสาวเสียงเข้ม “ยังเชนพาคุณย่ากลับบ้านไป ส่วนสกาย อัญญาวีร์ และนารีญาไปรอที่บ้านกับยังเชน ผมจะพาลิ่วลมกลับมาให้ได้…คนอื่นๆ หมดหน้าที่แล้ว…ก็แยกย้ายกันกลับทิมพูไปได้”

“อาไปคนเดียวไม่ได้หรอก” ยังเชนไม่เห็นด้วย

“ได้” เชวังเม้มริมฝีปากแน่น นัยน์ตามีร่องรอยตัดสินใจ “อามีวิธีจัดการกับพวกมัน”

ประโยคสุดท้ายเขาหันไปหาเยชิและคินซา

“ไม่นะคะ” ยังเชนส่ายหน้า “ยังไงหนูก็จะไปด้วย”

“ผมก็จะไปด้วย” ล่องเมฆว่า อารามตกใจทำให้เขาลืมเรื่องส่งจิตหาพี่ชายไปในตอนนั้น “ลิ่วลมเป็นพี่ชายของผมนะ ยังไงผมก็ต้องไปช่วยเขาให้ได้”

“ผมไปด้วย” เยชิว่า

“ใช่” คินซาก็พยักหน้าสนับสนุน “ถึงหมดหน้าที่เราแล้ว แต่ฉันคิดว่าคุณต้องการผู้ช่วย…Linn Plant มากันตั้งหลายคน…คุณหมอไปคนเดียวยังไงก็สู้พวกมันไม่ได้หรอก”

”แต่เราก็ไปกันหมดทุกคนไม่ได้” เชวังยังยืนยัน “ถ้าเกิดผมเป็นอะไรไป…ไม่ได้กลับมา จะต้องมีใครสักคนที่ดูแลพัลเดนต่อ”

“นี่ใช่ไหมเหตุผลของคุณ” อัญญาวีร์เอ่ยขึ้น หลังจากนิ่งฟังอยู่นาน เธอค่อยๆ ปะติดปะต่อข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน และเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“พัลเดนใช่ไหม คือเหตุผลที่คุณต้องทิ้งฉัน ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง”

“ผม…” เชวังอึ้งไป

ขณะที่โซเทนสืบเท้าเข้ามายืนตรงกลางระหว่างหญิงสาวชาวไทยและบุตรชาย เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่าหนักแน่นว่า

“ใช่” หญิงสูงวัยจ้องมองอัญญาวีร์แน่วนิ่ง ดวงตาของเธอมีหยาดน้ำใสรื้นเต็มทั้งสองตา “นี่คือเหตุผลที่เชวังต้องกลับมา…เขาต้องมาดูแลพัลเดน และเรื่องนี้เขาบอกกับใครไม่ได้เลย…”

“พัลเดนคือใครคะ ทำไมเขาถึงสำคัญมากขนาดนี้”

อัญญาวีร์ถาม ขณะที่นารีญากำลังนึกไปถึงก้อนเมฆที่ลอยลิ่วบนท้องฟ้าใสกระจ่าง สวนทิศทางลมธรรมชาติ

“ขอฉันอ่านหน่อย” นารีญาเอื้อมมือไปคว้าจดหมายจากล่องเมฆมาอ่าน ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง น้ำเสียงที่พึมพำสั่นระริก

“พัลเดนคือมังกร…”

นารีญาอ้าปากค้าง

“ใช่ไหมคะ”

ความสงสัยทั้งหมดได้รับการเฉลยในตอนนั้น

เพราะมีมังกร ยังเชนจึงส่งลิ่วลมมาที่โรงพยาบาลได้รวดเร็ว…

และก้อนเมฆที่ลอยสวนทางลม เป็นเช่นนั้นได้เพราะมันห่อหุ้มมังกรเอาไว้อยู่ข้างใน…

เยชิ คินซา และลูกหาบทั้งสามหันมามองหน้ากัน พวกเขาคุ้นชินกับตำนานและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับมังกร ครั้นพอได้ยินว่ายังมีมังกรอยู่ในซัมเซ ก็อดจะประหลาดใจมิได้ แต่เพราะยังมีรายละเอียดอีกมากที่พวกเขาไม่รู้ ทั้งหมดจึงพากันนิ่งสงบ ตั้งใจฟังเชวัง โซเทน และยังเชนด้วยท่าทางให้เกียรติ

“ใช่” โซเทน ทินเลย์พยักหน้า “พัลเดนคือมังกร…พัลเดนคือมังกรตัวสุดท้ายของภูฏาน และอาจจะเป็นตัวสุดท้ายของโลกมนุษย์…”

“แม่”

“ย่า”

เชวังและยังเชนร้องขึ้นพร้อมกัน

“แม่บอกพวกเขาทำไม” เชวังยกมือขึ้นกุมศีรษะ “เรื่องนี้เป็นความลับ…”

“พอเถอะเชวัง…แม่ปล่อยให้ความลับเรื่องนี้ทำลายความสุขของลูกไม่ได้อีกต่อไปแล้ว…เชวัง” โซเทนสะอื้น “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลูกต้องเสียสละมากมาย เสียสละชีวิตส่วนตัว เสียสละความรัก เสียสละคนดีๆ ในชีวิต…”

ดวงตาของโซเทนหันไปมองอัญญาวีร์แน่วนิ่ง เธอเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจแล้ว

“ลูกเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อปิดบังความลับเรื่องมังกร เพื่อดูแลพัลเดน เพื่อปกป้องพัลเดนจากโลกภายนอก…ทำไมเราไม่ลองหาจุดสมดุลของเรื่องนี้ดูล่ะเชวัง ทำไมลูกไม่เลือกที่จะบอกเรื่องของพัลเดนให้คนที่ลูกรักได้รู้ แล้วจากนั้น พวกเราทุกคนก็จะได้ช่วยกันดูแลพัลเดน ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกและยังเชนแค่สองคน”

“ผมบอกใครไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ควรมีคนรู้มากน่ะสิครับ เรื่องอะไรก็ตามที่มีคนรู้มาก…ย่อมไม่ใช่ความลับอีกต่อไป”

เชวังแค่นเสียง ดวงตาเขากวาดมองไปรอบๆ…ล่องเมฆ อัญญาวีร์ นารีญา เยชิ คินซา ลูกหาบอีกสาม…รวมสมาชิกครอบครัวของเขา ตอนนี้มีคนรู้เรื่องมังกรมากกว่าสิบคนแล้ว

“ไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้น” โซเทนไม่สนใจข้อโต้แย้งของเชวัง เธอยังคงเอ่ยต่อไปด้วยเสียงหนักแน่น “ยังเชนก็เป็นอีกคนที่ได้รับผลกระทบ…”

ดวงตาที่ผู้สูงวัยหันไปมองหลานสาวเต็มไปด้วยความห่วงใย

“เราจะอยู่กันอย่างนี้ไปจนตายอย่างนั้นหรือ…ยังเชนยังอายุน้อย หลานต้องทิ้งความฝัน ทิ้งอนาคตแล้วกลับมาอยู่ที่นี่ ตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่าง…”

“ยังเชนไม่ได้อยู่ตามลำพังนะครับ” ล่องเมฆเอ่ยแทรก “มีผมด้วยอีกคนยังไงครับ ผมพร้อมจะอยู่กับเธอ”

“คุณจะอยู่แบบตัดขาดกับทุกคนในชีวิต อย่างนั้นน่ะหรือ” โซเทนย้อนถาม “แรกๆ ก็อาจจะทำได้ แต่นานวันเข้า คุณอยู่แบบนี้ไม่ไหวหรอก…สกาย…ล่องเมฆ คุณยังหนุ่มแน่น มีความรู้ มีความสามารถ เป็นทรัพยากรบุคคลที่จะทำสิ่งที่ดี มีประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งมากมาย แล้วทำไมคุณถึงจะฝังตัวเองอยู่ที่นี่”

“เพื่อมังกรตัวสุดท้ายของโลกใบนี้ ผมทำได้” ล่องเมฆตัดสินใจแล้ว

“ยังเชนควบคุมคุณมากเกินไป” เมื่อวานยังเชนเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังหมดแล้ว โซเทนตำหนิหลานสาวไปยกใหญ่ เธอไม่เห็นด้วยในความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งจะคอยควบคุมอีกฝ่ายให้อยู่ภายใต้อำนาจตลอดเวลา “คนรักกัน ต้องเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่คนหนึ่งคอยควบคุมอีกคน…ความสัมพันธ์แบบนั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดี สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครที่จะมีความสุขเลยสักคนเดียว”

“ผม…” ล่องเมฆนิ่งไปพักใหญ่ สิ่งที่คุณย่าของยังเชนพูดตรงกับสิ่งที่เขาคิด แต่เพราะความรัก ทำให้ล่องเมฆยอมทุกอย่าง

“เถอะ…” โซเทนผ่านโลกมามาก เธอเข้าใจความคิดของทุกคนดี “เรื่องนี้ พวกคุณมีเวลาจะคิดและตัดสินใจ แต่ที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ก็คือรีบไปที่หุบเขาเลือดมังกร หาทางช่วยลิ่วลม และรักษาชีวิตของพัลเดนเอาไว้ให้ได้…”



Don`t copy text!