พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 38.2 : จิตตานุภาพ

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 38.2 : จิตตานุภาพ

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“เฮ้ย…ดูนั่น”

นาทีต่อจากนั้น ลีอองก็ส่งเสียงร้องโวยวาย พร้อมกับยกปืนขึ้นประทับบ่าเล็งมาที่เพื่อนร่วมทีม ดวงตาสีเทาของเขาเหลือบมองไปรอบๆ บริเวณด้วยอาการตื่นตระหนก

“ลีออง อะไร เป็นบ้าอะไร”

“เยติ…เยติ…”

ลีอองพึมพำ ท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด

“เยติที่ไหน”

อังเดรขยับลุกขึ้น มือแตะปืนที่เอวด้วยท่าทางระแวดระวัง ลูกน้องอีกสี่คนที่นั่งอยู่ถัดไปก็ผุดลุกขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทุกคนถือปืนอยู่ในท่าระวังตัว และพยายามมองหาเยติที่ลีอองเห็น

“นั่น…เยติ สี่ตัว”

เขายกปืนชี้ไปที่เพื่อนร่วมทีมสี่คน

“เยติสี่ตัว…มันมาแล้ว”

“เยติที่ไหนกัน ไม่เห็นมีสักตัว…มึงหลอนหรือเปล่าไอ้ลีออง” อังเดรชักผิดสังเกต

“ไม่หลอน” ลีอองส่ายหน้า “เยติจริงๆ อังเดร โน่นไง…มันมาโน่นแล้ว”

“ไหน เยติ”

“ไม่มีสักหน่อย”

เพื่อนอีกสองสามคนหันมองเลิ่กลั่กไปมา แต่ไม่มีใครเห็นเยติอย่างที่ลีอองเห็น

“ลดปืนลงเดี๋ยวนี้”

อังเดรร้องสั่ง นอกจากลีอองจะไม่ฟัง เขากลับลั่นไกใส่เพื่อนคนหนึ่งจนล้มฟุบลงไป ด้วยไม่ทันระวังตัว

“เฮ้ย มึงบ้าไปแล้วหรือ” อังเดรตกใจ ไม่คิดว่าอยู่ๆ ลีอองก็จะจู่โจมพวกเดียวกันเอง เขากระโดดไปหาลูกน้องคนที่ถูกยิง ก็พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว เพราะลีอองยิงแม่น กระสุนเข้าที่หน้าอกพอดี

“ฉิบหายละ…เกิดจะมาหลอนอะไรตอนนี้” อังเดรหน้าเผือดสี

เขากำชับทุกคนเอาไว้เด็ดขาดว่าห้ามเสพยา ห้ามดื่มของมึนเมาขณะทำงาน เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังทำนั้นมีความสำคัญมาก ห้ามพลาด ทุกคนจึงไม่ควรเห็นแก่ความสำราญเล็กๆ น้อยๆ

“ระวังตัวด้วยทุกคน” อังเดรร้องเตือน ขณะที่ลีอองยังถือปืนส่ายไปมา

ชายร่างยักษ์ตะโกนเสียงดังลั่นไม่เป็นภาษา เท่าที่พอจะจับใจความได้นั้น ดูเหมือนลีอองกำลังกลัวเยติที่ล้อมรอบเขาอยู่ เขาตะโกนไล่พวกมันให้ถอยออกไป และเริ่มยิงปืนในมือสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ

ฝรั่งอีกสามคนขยับถอยหลัง อังเดรโบกมือให้สัญญาณ บอกทุกคนให้ค่อยๆ ขยับตีวงล้อมลีอองเอาไว้ตรงกลาง

“เยติ…เยติ…พวกมันมาได้ยังไง”

ลีอองยังคงตะโกน ขณะสาดกระสุนไปรอบๆ โดยปราศจากทิศทาง

ลิ่วลมกลิ้งตัวไปหลบอยู่หลังโขดหิน ดวงตาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยอาการนิ่งเฉย ไม่แปลกใจกับสิ่งที่ลีอองเห็น เพราะเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง!

ใช่…

นอกจากเขาสามารถมองเห็นอนาคต อีกหนึ่งความสามารถที่ลิ่วลมมี คือเวลาที่แตะตัวใครก็ตาม ลิ่วลมสามารถส่งพลังจิตทำให้คนผู้นั้นเห็นภาพได้ตามที่เขาจะสร้างมันขึ้นมา

พูดง่ายๆ คือ ลิ่วลมสามารถสร้างภาพหลอนให้กับคนที่เขาแตะตัว สร้างเรื่องราว รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสต่างๆ ให้บุคคลผู้นั้นคิดว่าเป็นเรื่องจริง

หลวงพ่อที่เคยสอนเขาและล่องเมฆให้นั่งสมาธิ รู้ว่าลิ่วลมมีพลังนี้แฝงอยู่อย่างลึกเร้น

ท่านห้ามเขาใช้พลังนี้ถ้าไม่จำเป็น เพราะเป็นพลังที่สามารถทำลายล้างได้อย่างรุนแรง

พลังหลอนที่ลิ่วลมสร้างขึ้น ไม่ได้ทำลายล้างโดยตรง แต่เป็นการยืมมือคนอื่นไปใช้จัดการในสิ่งต่างๆ ยิ่งถ้าเห็นภาพหลอนที่น่ากลัว เหมือนอย่างที่เขาสะกดให้ลีอองเห็นเพื่อนเป็นเยติอย่างในตอนนี้ ก็จะทำให้เกิดผลร้ายแรงติดตามมาอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้!

เปรี้ยง!

เปรี้ยง!

เสียงปืนหลายนัดที่ดังขึ้นติดๆ กัน เกิดจากการที่พวก Linn Plant ระดมยิงต่อสู้กับลีออง

อังเดรเห็นแล้วว่าไม่สามารถควบคุมลีอองได้ เขาจึงให้สัญญาณจับตาย และทุกคนก็ระดมยิงลีอองจนฝรั่งร่างยักษ์นอนจมกองเลือด ร่างสูงใหญ่ของเขาสั่นกระตุก คอพับหันหน้ามาทางลิ่วลม ดวงตาของลีอองเบิกค้าง จ้องมองมาด้วยความไม่เข้าใจ ลิ่วลมได้แต่ขออโหสิกรรมในใจ ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่มีทางไหนที่เขาจะหยุดพวกมันได้

ตายไปสอง เหลืออีกสี่…

ลิ่วลมสูดลมหายใจลึกๆ ยาวๆ รู้สึกอ่อนล้า เพราะการสร้างภาพหลอนให้เกิดขึ้น ไม่ได้ทำง่ายๆ ทว่าเขาต้องใช้พลังเป็นอย่างมาก นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่หลวงพ่อห้ามไม่ให้เขาใช้พลังที่ว่า เพราะทุกครั้งที่เขาใช้มันออกไป พลังส่วนหนึ่งจะสะท้อนกลับมาหาตัวเอง เหมือนกับเวลาที่ยิงปืนแล้วปลายกระบอกปืนสะบัดเพราะแรงสะท้อน

ไม่มีทางเลือก…ลิ่วลมเม้มริมฝีปากแน่น เขาจะไม่ยอมให้ภาพในนิมิตเกิดเป็นจริงขึ้นอย่างเด็ดขาด เชวัง อัญญาวีร์ นารีญา ยังเชน และล่องเมฆ…ทุกคนจะต้องปลอดภัย ลิ่วลมพยายามคิดหาทางจัดการกับพวกมันที่เหลือ ตอนนี้พวกมันกำลังตรวจศพของลีอองอยู่ จึงยังไม่มีใครสังเกตเห็นเขา จนกระทั่งอังเดรนึกขึ้นมาได้ ว่ายังมีลิ่วลมอยู่อีกคน จึงรีบวิ่งมาตรงที่เขานอนอยู่

“มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” อังเดรจำได้ว่าก่อนหน้านี้ลิ่วลมนอนอยู่ใกล้กับจุดที่ผูกม้าเอาไว้

“หรือว่า…”

อังเดรเริ่มสงสัย เลยลองใช้เท้าเตะลิ่วลมเข้าที่ซี่โครงของชายหนุ่มสุดแรง

…อ๊ากกก…

ปวดแทบขาดใจ

เขาอยากร้องออกมาดังๆ หากลิ่วลมพยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านขึ้นอย่างสุดความสามารถ เพราะถ้ามันรู้ว่ายาที่ฉีดให้เขาหมดฤทธิ์แล้ว แผนของเขาก็จะไม่สำเร็จ

“ยังไม่มาอีกหรือ” อังเดรบ่นพึมพำ เขาเริ่มกระสับกระส่าย เพราะอยากจะได้ตัวมังกรให้เร็วที่สุด อาการหลอนของลีอองเมื่อครู่ที่ผ่านมาเป็นสัญญาณอันตราย บอกอังเดรว่าในบริเวณนี้กำลังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

และจังหวะที่อังเดรหันหลังกลับ กำลังจะเดินไปสมทบกับลูกน้องอีกสามคนที่เหลือนั่นเอง ลิ่วลมตัดสินใจยื่นมือของเขาไปจับข้อเท้าของอังเดรเอาไว้แน่น!

 



Don`t copy text!