
พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 23.1 : ทางแยก
โดย : พงศกร
พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้
ชั่วขณะนั้น เป็นชั่วขณะที่ลิ่วลมรู้สึกว่ายาวนานและทรมานมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ คืบ ค่อยๆ คลาน ค่อยๆ กระเถิบร่างไปบนพื้นถ้ำทีละน้อย
ต้องใช้ปลายเท้าจิกพื้นที่อับชื้นและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบสาง เพื่อดันตัวให้ขยับเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
บางจังหวะที่ใครสักคนเผลอส่งเสียงหรือเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ค้างคาวปีศาจก็จะพุ่งลงมาโจมตีอย่างรวดเร็ว จนทุกคนต้องหยุดพูดและกลับมาก้มหน้านิ่ง รอจนกระทั่งค้างคาวถอยกลับไปเกาะผนังถ้ำดังเดิมนั่นละ ทุกคนจึงจะสามารถเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าได้
พื้นที่ดูเหมือนจะราบเรียบ เอาเข้าจริงกลับเต็มไปด้วยก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ บางช่วงลาดลงต่ำ บางช่วงทอดสูง แถมบางช่วงยังเริ่มมีหินงอกผุดขึ้นมา ปลายที่แหลมคมของมันบาดเสื้อผ้าของลิ่วลมขาดเป็นทาง ไม่ต้องพูดถึงผิวกายที่เต็มไปด้วยแผลถลอก
เขาอดหันไปมองอาจารย์อัญญาวีร์และนารีญาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
ทั้งสองไม่ได้เตรียมตัวเพื่อจะมาเดินป่า เสื้อผ้าที่สวมจึงไม่ได้หนามากพอจะคลานไปบนพื้นถ้ำแบบนี้ ขนาดเขายังรู้สึกไม่โอเค หญิงสาวทั้งสองน่าจะไม่โอเคยิ่งกว่าเขา
แต่นารีญากลับทำให้ลิ่วลมประหลาดใจ เมื่อเธอไม่บ่นอะไรเลย
ถึงการขยับตัวแต่ละครั้งจะทำให้บาดเจ็บ ถึงจะเคลื่อนไปด้วยความยากลำบาก หากนารีญาไม่ปล่อยให้เสียงบ่นเล็ดลอดออกมาแม้แต่คำเดียว ไม่ใช่เพราะเธอกลัวว่าค้างคาวจะจับสัญญาณเสียงได้หรอก แต่เป็นเพราะเนื้อแท้ของนารีญาเป็นคนที่อดทนและกล้าหาญไม่แพ้ผู้ชาย
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พวกเขายังคงขยับคืบหน้าไปทีละนิด
ดวงตากลมวาวราวลูกแก้วยังคงกลอกไปมาเพื่อมองหาเหยื่อ โชคดีที่มันไม่ฉลาดนัก หลังจากที่ทุกคนพยายามอยู่นานนับชั่วโมง ในที่สุดเชวังก็นำทุกคนออกมาพ้นโถงถ้ำที่เต็มไปด้วยค้างคาวผี
ลิ่วลมรู้ได้อย่างไร
เขารู้ได้จากกลิ่นสาบสางที่หายไป
บรรยากาศรอบกายในตอนนั้นโปร่งสบายขึ้น อากาศเริ่มถ่ายเท ทั้งยังมีสายลมพัดผ่านมารวยริน
เชวังค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น เขาเหลือบสายตาไปรอบๆ ตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีค้างคาวปีศาจอยู่ในบริเวณนั้นแล้วจริงๆ จึงบอกให้ทุกคนลุกขึ้นมาได้
ภายในโถงยังคงมืดมิด เชวังเขย่าแท่งฟลูออเรสเซนต์ ทันทีที่แสงไฟแท่งเล็กสว่างเรืองรอง ทุกคนก็พบว่ากำลังอยู่ในโถงแห่งใหม่ที่มีขนาดสี่เหลี่ยมเล็กๆ
ลิ่วลมหยิบพยับฟ้าโพยมดินออกมาจากกระบอกโลหะ กางออกดูว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน และหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ทุกคนขยับมามุงดูแผนที่ผ้าโบราณ เชวังชี้ให้ดูว่าขณะนี้อยู่ตรงไหนของเส้นทางคันโดมาแล้ว ก็ปรากฏว่าอีกไม่ไกลทุกคนก็จะเดินทางถึงถ้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นจุดหมายปลายทาง
แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้ลิ่วลมรู้สึกหนักใจคือ เส้นทางต่อจากนี้ไปจนถึงถ้ำรังเซ เน นั้น…ลายปักบนผืนผ้ากลับหายไป เหลือเพียงเขม่าสีดำที่เกิดจากเปลวไฟ…
ยังมีร่องรอยไฟไหม้อีกหลายจุด กระจัดกระจายอยู่บนพยับฟ้าโพยมดิน ลิ่วลมนึกเจ็บใจว่าเหตุใดรอยไหม้จึงจำเพาะต้องมาเกิดตรงตำแหน่งสำคัญนี้ด้วย
“เอายังไงดีคุณหมอ” คินซาหันไปถามเชวัง
“มาจนถึงขนาดนี้แล้ว เราคงต้องไปกันต่อ” เชวังตอบหลังจากนิ่งไปพักใหญ่
“คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าที่ผ่านมาแล้วละ” เยชิหัวเราะเสียงแผ่ว แม้จะพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ทว่าดวงหน้าของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยกังวล
“ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณทั้งสองคนต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย” ลิ่วลมรู้สึกผิด ทั้งเยชิและคินซาคงไม่คิดว่าการรับปากนำทัวร์ในครั้งนี้ จะพาเขาทั้งสองและบรรดาลูกหาบต้องมาพบกับเส้นทางอันตราย “ผมไม่คิดเลยว่า…”
ลิ่วลมยังพูดไม่ทันจบประโยค คินซาก็รีบยกมือขึ้นห้าม
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ” ไกด์สาวเอ่ยเสียงหนักแน่น “ทุกครั้งที่รับนำทัวร์ ฉันไม่เคยเลือกเลยว่าทริปนั้นจะยากหรือง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปที่ไหน เมื่อฉันรับงานแล้ว ฉันก็จะทำให้ดีที่สุด และสนุกกับมันที่สุด เหมือนอย่างทริปนี้ ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณมาตามหาน้องชายที่หายตัวไป ฉันจึงตั้งใจว่าจะช่วยพาคุณไปตามหาเขาให้พบ ไม่ว่ามันจะยากลำบากอย่างไร”
“เส้นทางโหดขนาดนี้ เป็นไกด์ประเทศอื่นอาจทิ้งพวกเราไปแล้ว” อัญญาวีร์ว่า
“คนภูฏานเราเป็นอย่างนี้ละครับ” เยชิเสริม “จริงจัง และจริงใจกับทุกสิ่งที่ทำ ในเมื่อเรารับปากใครแล้ว พวกเราก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ฉะนั้นพวกคุณไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะต้องตามหาตัวคุณล่องเมฆให้พบให้จงได้”
“ขอบคุณครับ” ลิ่วลมยกมือไหว้ทุกคน “ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ผมจะไม่ลืมที่ทุกคนช่วยผมในครั้งนี้เลย”
“เอาละ ถึงเวลาที่เราต้องไปต่อแล้ว” เชวังพยักหน้าให้ลิ่วลมเก็บพยับฟ้าโพยมดิน “ในเมื่อเราไม่สามารถอ่านสัญลักษณ์เส้นทางได้…เราก็ต้องเลือกว่าจะไปทางไหน”
แสงสว่างเรืองรองจากแท่งฟลูออเรสเซนต์ ส่องให้เห็นทางแยกซ้ายและขวา
เส้นทางทั้งสองเป็นโพรงถ้ำที่ทอดคดเคี้ยว มองไม่ออกเลยว่าแต่ละเส้นทางจะนำพวกเขาไปสู่สิ่งใดบ้าง
“ทางซ้าย หรือทางขวาดีนะ” เชวังเอ่ยขึ้นลอยๆ ไม่เจาะจงว่าพูดกับใคร “เลือกยากเหลือเกิน…แต่เราก็ต้องเลือกสักทาง”
“แล้วถ้าเราเลือกผิดล่ะคุณ” อัญญาวีร์หันไปทางเชวัง ทินเลย์ น้ำเสียงนั้นบ่งบอกถึงความกังวล
“เลือกผิดก็คือเลือกผิด” เชวังตอบง่ายๆ ตรงไปตรงมา
“แต่มันจะเสียเวลา” อัญญาวีร์กังวล “และอาจจะทำให้เราพบกับอันตราย”
“เอายังงี้ ผมว่าถ้าตัดสินใจไม่ได้…เราพักผ่อนกันก่อนดีกว่า นอนหลับสักหน่อยให้ร่างกายได้พักเต็มที่ ตื่นขึ้นมาสมองจะได้ปลอดโปร่ง ถึงตอนนั้นเราค่อยมาตัดสินใจกันอีกทีว่า จะเลือกไปทางซ้ายหรือทางขวา…”
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 25.2 : ภาพลวง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 25.1 : อะไรในสายน้ำ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 24.2 : สิ่งที่มีประกาย
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 24.1 : ป๊อปปี้สีทอง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 23.2 : เซริงมา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 23.1 : ทางแยก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 22.2 : โจมตี
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 22.1 : กลมวาวราวลูกแก้ว
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 21.2 : หาดทราย สามลม สองเรา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 21.1 : อโหสิให้ด้วยนะ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 20.2 : หุบมรณะ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 20.1 : พรมสีแดง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 19.2 : ถ้าเรากลับไปได้
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 19.1 : ศรีวัตสะ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 18.2 : ปรับแผนเดินทาง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 18.1 : สี่เทพผู้พิทักษ์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.2 : ภาพนิมิต
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 17.1 : Linn Plant Company
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.2 : ผิดแผน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 16.1 : วันฟ้าหลัว
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.2 : ความทรงจำ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.1 : ไม่ใช่นัมเก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 14.2 : อันตรายที่มองไม่เห็น
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 14.1 : ผู้พิทักษ์ขุนเขา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 13.2 : ผู้ช่วยของนัมเก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 13.1 : นยาลา เดียม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 12.2 : ช่วยด้วย
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 12.1 : นยาลาลัม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 11.2 : ฤดูแห่งดวงดาว
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 11.1 : อ้อมกอดแห่งขุนเขา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 10.2 : วิหารม้าเทวดา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 10.1 : ออกเดินทาง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 9.2 : Orchid Hunter
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 9.1 : เหตุร้าย
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 8.2 : นิมิตของลิ่วลม
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 8.1 : พยับฟ้าโพยมดิน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 7.2 : Til the Earth through the Heavens
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 7.1 : เบาะแสของดอกไม้ทิพย์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 6.2 : พิพิธภัณฑ์ผ้าเคซัง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 6.1 : ภัณฑารักษ์จาก The MET
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 5.2 : ท่านครุ
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 5.1 : วิหารฟ้าคะนอง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 4.2 : เกาตัน ซับบา
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 4.1 : ฝากไว้
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.2 : เธอคือแสงตะวัน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 3.1 : ความทรงจำเหมือนม่านหมอก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 2.2 : วันฟ้ากระจ่าง
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 2.1 : มีเมฆบ้างเป็นบางวัน
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 1.2 : ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
- READ พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 1.1 : Udumbara - อุทุมพร ดอกไม้สวรรค์
- READ พยับฟ้าโพยมดิน : บทนำ