พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 34.2 : ข้อยกเว้น

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 34.2 : ข้อยกเว้น

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

เพราะทุกคนในคณะเดินทางเต็มไปด้วยความอิดโรย เหนื่อยล้าจากการเดินทางตลอดหลายวัน แถมข้าวของสัมภาระยังสูญหายไปในกระแสน้ำทั้งหมด พูดได้ว่าเหลือแต่ตัวเปล่ากันจริงๆ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อดั้นด้นจนมาถึงที่พักเชิงเขา เชวังจึงอนุญาตให้ทุกคนได้รับประทานอาหารให้เต็มอิ่ม อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด และพักผ่อนที่กระท่อมของเขานานเท่าที่ทุกคนจะพอใจ

“ส่งเพื่อนของคุณแล้วนะ” ยังเชนรีบรายงานเมื่อเห็นนารีญา

“ส่งแล้ว กลับมาแล้ว” นารีญาเลิกคิ้ว “ไวมาก”

“ฮื่อ” ยังเชนพยักหน้า

“แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้าง” นารีญาถามต่อ

“น่าจะปลอดภัยแหละ” ยังเชนตอบง่ายๆ “ส่งเสร็จ ฉันก็รีบกลับมารอรับพวกคุณ”

นารีญาทำท่าจะถามว่าอีกฝ่ายกลับมาอย่างไรถึงรวดเร็วเช่นนี้ ตกลงใช้พาหนะใดกันแน่ เกี่ยวข้องกับเมฆคิวมูลัสก้อนประหลาดที่เธอเห็นหรือเปล่า หากอัญญาวีร์อ่านสายตาของหลานสาวออก เธอรีบดึงแขนนารีญาเอาไว้เป็นทำนองห้าม ด้วยไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์แต่อย่างใด เธอกระซิบบอกนารีญาว่าถ้าอยากรู้ รอเอาไว้ถามลิ่วลมน่าจะดีกว่า

เชวังเสนอให้ทุกคนนอนพักที่นี่สักหนึ่งคืนก่อน ตอนแรกนารีญามีท่าทางอิดออดไม่เต็มใจ แต่พอรู้จากยังเชนว่าลิ่วลมถึงโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว มีล่องเมฆคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด หญิงสาวจึงยอมตกลงพักค้างแรมที่กระท่อมของครอบครัวทินเลย์หนึ่งคืน ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางเข้าเมืองในวันรุ่งขึ้น

กระท่อมหลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โกวชู รายล้อมไปด้วยทุ่งดอกป๊อปปี้สีน้ำเงินสวย

โกวชูเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งสุดท้าย ก่อนขึ้นถ้ำรังเซ เน ระยะทางเดินเท้าจากทะเลสาบหลังภูเขามาจนถึงที่นี่ ใช้เวลานานพอดู ระหว่างที่ทุกคนกำลังอาบน้ำอาบท่า ยังเชนได้ตระเตรียมอาหารให้ทุกคนได้รับประทานจนอิ่มหนำ

Kewa Datshi คือเมนูง่ายๆ ที่ยังเชนทำให้แขกผู้มาเยือน

Kewa คือมันฝรั่ง

Kewa Datshi คือมันฝรั่งฝานเป็นชิ้นบางๆ เคี่ยวในเนย ปรุงรสด้วยพริกและมะเขือเทศ

ดูจากเครื่องปรุงแล้ว เหมือนจะไม่มีอะไรมาก หากทว่ารสชาติของ Kewa Datshi กลับอร่อยจนอัญญาวีร์และนารีญาต้องขอเติมเป็นจานที่สอง

หลานสาวของเขายังเตรียมเสื้อผ้าสะอาด และผ้าเช็ดตัวเอาไว้ให้ทุกคนได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่

“พวกคุณใส่คีราเป็นไหม”

ยังเชนเดินเข้ามาถามในห้องพักของแขก เสื้อผ้าที่เธอเตรียมให้นารีญาและอัญญาวีร์เป็นชุดพื้นเมืองของสตรีภูฏาน

“ไม่เป็น แต่ไม่น่ายาก” นารีญามองผ้าทอสีสันสดสวยตรงหน้าด้วยสายตาสนใจ

คีราเป็นชุดที่ใช้สวมเหมือนกับผ้าซิ่นของไทย มีวนจู เสื้อคลุมตัวใน และเตียโกะ เสื้อคลุมตัวนอก ตัดหลวมๆ ใช้พันเข้ากับตัวคล้ายชุดยูกาตะของญี่ปุ่น จึงไม่มีปัญหาเรื่องขนาดว่าจะเล็กไปหรือใหญ่ไป ทุกคนสามารถพันกระชับให้เข้ากับตัวเองได้ไม่ยาก

“ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันสอนให้” ยังเชนบอกอย่างมีน้ำใจ

สองน้าหลานผลัดกันอาบน้ำอย่างมีความสุข หลายวันมาแล้วที่ไม่ได้ผ่อนคลายอย่างนี้ เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็สวมคีราที่ยังเชนเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

นารีญายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเซลฟีตัวเอง โทรศัพท์มือถือของเธอเป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่รอดมาจากกระแสน้ำในโพรงถ้ำ แบตเตอรี่เหลือน้อยเต็มที มีโอกาสต้องหาที่ชาร์จสักหน่อย แต่ตอนนี้เอาไว้ก่อน นารีญาไม่สนใจอะไรอื่นนอกจากโทรศัพท์เครื่องนี้เท่านั้น มีภาพถ่าย มีข้อมูลมากมายอยู่ในนั้น เคราะห์ดีที่มันสมบุกสมบัน ทนน้ำอย่างสรรพคุณที่บริษัทผู้ผลิตโฆษณาเอาไว้

ยังเชนมองพฤติกรรมของหญิงสาวชาวไทย ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ กับตัวเอง

โลกของเธอกับโลกของนารีญาแตกต่างกันอย่างมากมาย แต่ละวันยังเชนสนใจกับต้นไม้ใบหญ้า และธรรมชาติรอบตัว เธอไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดียใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรืออื่นๆ โทรศัพท์มือถือของยังเชนมีไว้สำหรับติดต่อธุระเท่านั้น

“พักผ่อนตามสบายนะคะ” ยังเชนพึมพำ ก่อนจะถอยออกจากห้องไป ปล่อยให้น้าหลานชาวไทยได้อยู่กันตามลำพัง

“มาคุยกันหน่อย…ยังเชน”

เชวังรอหลานสาวอยู่แล้ว พอเห็นยังเชน เขาก็กวักมือเรียกให้ไปคุยกันตามลำพัง

“สกาย คือล่องเมฆ” เขาจ้องหน้าหลานสาวแน่วนิ่ง “และล่องเมฆคือคนที่หายตัวไปจนพี่ชายของเขาต้องมาตาม…ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“เอ่อ…” ยังเชนถอนใจยาว กำลังนึกว่าจะเริ่มต้นเล่าอย่างไร

“พวก Linn Plant มาถึงภูฏานแล้วจริงๆ อย่างที่คนของเรารายงาน และที่พวกของอาต้องระหกระเหินเดินทางลำบากกันขนาดนี้ เพราะพวกมันไล่ตามเรามา อาจจะมีพวกมันกลุ่มแรกที่มาถึงซัมเซแล้วด้วยซ้ำ” เชวังเล่าด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ถึงเวลาต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้อาฟังแล้วนะยังเชน”

“ค่ะ” ยังเชนพยักหน้า “หนูจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง…และอาจะลงโทษหนูก็ได้”

“ว่ามา” เชวังเอ่ยเสียงเข้ม “แล้วอาจะเป็นคนตัดสินเองว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป”

“หนูไม่ได้บอกชื่อจริงของเขาให้อากับย่ารู้ เพราะไม่อยากให้รู้ว่าเขาเป็นคนไทย” ยังเชนเริ่มเล่า และเชวังก็ขัดขึ้น

“คนไทยแล้วทำไม ก็บอกได้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”

“หนูคิดว่าอาไม่อยากเจอคนไทย” ยังเชนว่า ครั้นพอเห็นสีหน้าของผู้เป็นอา เธอก็ส่ายหน้าแล้วพึมพำว่า “โอเค…หนูอาจจะคิดเองเออเอง…แต่เพราะเหตุนี้ หนูเลยแนะนำว่าเขาชื่อสกาย…ซึ่งหนูก็ไม่ได้โกหก ตอนอยู่ที่อังกฤษ คนอื่นๆ เรียกล่องเมฆว่าสกายจริงๆ”

“แล้วทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่” เชวังเม้มริมฝีปากแน่น

“ตอนไปเก็บข้อมูลสมุนไพร…ล่องเมฆเจอกับพัลเดนโดยบังเอิญ” ยังเชนถอนใจยาว

“โอ…” เชวังพยักหน้า

“กฎของครอบครัวเราคือต้องรักษาความลับนี้เอาไว้ แม้จะตายก็ห้ามบอกให้ใครรู้ว่ามังกรตัวสุดท้ายอยู่ที่นี่…” ยังเชนมีสีหน้าเศร้า “รวมถึงใครก็ตามที่รู้ความลับนี้…เราก็ปล่อยให้เขารอดชีวิตไปไม่ได้”

“ตั้งแต่มีกฎนี้มา ครอบครัวของเราไม่เคยฆ่าใครเลยไม่ใช่หรือ” เชวังถอนใจ

“ก็เพราะยังไม่เคยมีคนนอกรู้เรื่องพัลเดนยังไงคะ” ยังเชนว่า

“แต่ถึงจะมีคนรู้…พวกเราก็ไม่มีใครฆ่าคนได้หรอก” เชวังพึมพำ

“หนูก็ฆ่าเขาไม่ได้” ยังเชนสารภาพ

“เพราะหนูรักเขา” เชวังจ้องมองหลานสาวแน่วนิ่ง เลี้ยงมากับมือ ทำไมจะไม่รู้ว่ายังเชนคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ได้รักล่องเมฆ เธอจะไม่มีวันยอมพาพัลเดนมาช่วยลิ่วลมเด็ดขาด

“ค่ะ” ยังเชนพยักหน้าอย่างกล้าหาญ “หนูรักล่องเมฆ…แต่ถึงแม้ว่าหนูจะไม่ได้รักเขา หนูก็ฆ่าคนไม่ได้อยู่ดี ล่องเมฆไม่ได้ผิดอะไรเลย เขาแค่บังเอิญไปเห็นสิ่งที่เขาไม่ควรเห็นเท่านั้น”

“หนูก็เลยเก็บเขาเอาไว้” เชวังพยักหน้า

“หนูให้เขาเลือกระหว่างอยู่ที่นี่ต่อไป หรือกลับไปแบบไม่มีความทรงจำใดๆ เหลืออยู่อีก…ล่องเมฆเลือกจะอยู่ที่นี่ เขายอมรับเงื่อนไขแต่แรกแล้วว่า จากนี้ไปเขาจะต้องไม่มีตัวตน และไม่ติดต่อกับใครเลย แม้แต่คนในครอบครัว”

ยังเชนไม่ได้เล่าเรื่องพลังจิตที่เชื่อมถึงกันของลิ่วลมและล่องเมฆ รวมถึงไม่ได้บอกว่าเธอแอบนำเอาหมวกโทจัพมาใช้ควบคุมกระแสจิตของชายหนุ่มชาวไทย

“ทำแบบนั้นเท่ากับตายทั้งเป็น” เชวังครางเสียงแผ่วต่ำในลำคอ เขารู้ดีว่ามันทรมานเพียงใด…คิดถึง แต่ติดต่อไม่ได้ อยากพบอยากพูดคุย แต่ต้องทำตัวหายสาบสูญไปจากชีวิตของใครบางคน

“เขารู้และเลือกแบบนี้เองนะคะอา” ยังเชนแย้ง

“แต่เขาก็ทำไม่ได้” เชวังพึมพำ “เพราะสุดท้ายเขาก็ออกมาช่วยพี่ชาย”

“และหนูก็ต้องพาพัลเดนออกมาช่วยพี่ชายของเขา” ยังเชนเป็นฝ่ายถอนใจบ้าง

“หนูจะไม่ทำแบบนั้นก็ได้” เชวังลองใจหลานสาว

“ก็เท่ากับปล่อยให้ลิ่วลมตายไปต่อหน้าต่อตา” ยังเชนเม้มริมฝีปากแน่น “หนูคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต”

“ทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ” เชวังว่า

“แต่เมื่อมีข้อยกเว้น ย่อมมีความวุ่นวายตามมา” ยังเชนส่ายหน้า “ยกเว้นชีวิตให้กับล่องเมฆ ยอมละเมิดกฎที่ห้ามพาพัลเดนออกมาสู่ที่สาธารณะ…”

“หนูรู้ใช่ไหม” เชวังย้อนถาม

“ค่ะอา…หนูรู้ดี” ยังเชนพยักหน้า “และหนูก็คิดเอาไว้แล้วว่า หลังจากนี้ เรามีโอกาสจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนูก็พร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้า เพราะทั้งหมดนี้หนูเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง…”



Don`t copy text!