พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 42.2 : สัญญาของท่านชาย

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 42.2 : สัญญาของท่านชาย

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

หุบเขาเลือดมังกรในยามราตรีงดงามราวอยู่บนสรวงสวรรค์ นวลแสงจันทร์อาบไล้ผืนแผ่นดินให้ดูสุขสงบ ลิ่วลมและล่องเมฆสังเกตเห็นดอกอุทุมพรที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง แต่งแต้มตรงนั้นตรงนี้ กลีบสีขาวบริสุทธิ์สะท้อนแสงจันทร์เกิดเป็นประกายเรืองรอง ราวกับมีใครเอาโคมไฟดวงจิ๋วมาปักอยู่เต็มทุ่ง

พวกเขาออกจากบ้านในตัวเมืองซัมเซตั้งแต่ช่วงสาย เร่งเดินทางโดยแทบจะไม่ได้หยุดพักที่ไหน ด้วยใจของทุกคนจดจ่ออยู่กับพัลเดน

อากาศรอบกายหนาวเย็น ละไอหมอกลอยกรุ่นอยู่ทั่วไป สรรพเสียงธรรมชาติบรรเลงแผ่วเบา เสียงลมพัด เสียงหยาดน้ำค้างตกต้องผืนดิน เสียงนกกลางคืนกู่ร้องหากัน

ยังเชนผิวปากเป็นจังหวะ ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดเสียงดังพึ่บพั่บ พร้อมกับกระแสลมที่พัดให้ยอดหญ้าและต้นไม้ในบริเวณเอนลู่ไป

อัญญาวีร์จับมือเชวังเอาไว้แน่น เช่นเดียวกันกับยังเชนและล่องเมฆ นารีญานั้นแอบอยู่ด้านหลังลิ่วลม ถึงแม้จะเคยนั่งหลังมังกรมาแล้ว ทว่าเมื่อเห็นมังกรใกล้ๆ อีกครั้ง เธอก็อดจะประหวั่นมิได้

“ป๊อด” ลิ่วลมแกล้งว่า และนารีญาก็หยิกต้นแขนเขาสุดแรง

“นี่แน่ะ” หล่อนแค่นเสียง “ได้ทีละก็…ข่มฉันเลยนะ”

“โอ๊ย” ลิ่วลมร้องลั่น ก่อนที่เขาจะดึงนารีญามากอดเอาไว้หลวมๆ

“เฮ้อ โผล่มาแบบนี้ ตกใจหมดเลย”

เสียงใครบางคนถอนใจและพึมพำดังๆ ทำเอาทุกคนในที่นั้นถึงกับสะดุ้ง ครั้นเมื่อหันกลับไปทางด้านหลัง ก็เห็นเด็กชายตัวเล็ก ผมทรงกะลาครอบ สวมชุดยูกาตะ…และแน่นอน มีดวงตาแค่ข้างเดียว…

“เราสิต้องตกใจ” นารีญาพึมพำ “อยู่ๆ ก็โผล่มา เป็นผีหรือไง”

“ใช่แล้ว ก็หนูเป็นผีนี่ฮะ…อ้ะ…เดี๋ยวแปลงร่างใหม่ก็ได้” เด็กชายหัวเราะชอบใจ เพื่อไม่ให้คนกลัว เขาจึงจำแลงกายกลับมาเป็นเด็กชายผมทรงกะลาครอบ หน้าตาน่ารัก มีดวงตาสองข้างเหมือนเด็กปกติคนอื่นๆ

“หนู” ล่องเมฆเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ตกใจมากนัก

เขาจำได้แม่นว่าเด็กคนนี้เป็นคนเดียวกับที่ได้พบเมื่อหลายวันก่อน วันนี้เด็กชายแต่งกายเป็นเด็กญี่ปุ่น ไม่ได้สวมชุดโกของคนภูฏานเหมือนครั้งที่แล้ว

“ฮิโตชิใช่ไหม” เขาลองถาม

“แหม รู้ชื่อเสียด้วย” เด็กชายหัวเราะ พูดโต้ตอบกับทุกคนเป็นภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ “ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจสิ่งที่นายหญิงต้องการจะบอก…”

“นายท่านของฮิโตชิจะรับพัลเดนไปอยู่ด้วยใช่ไหม” ล่องเมฆถามเสียงแผ่ว

“นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับมังกร” ฮิโตชิพูดจาราวกับผู้ใหญ่ “ถ้าไปอยู่กับท่านชาย พัลเดนจะปลอดภัยจากพวกมนุษย์ใจร้าย เขาจะอยู่อย่างมีความสุข”

“ท่านชายอยู่ที่ไหน” ยังเชนเหลือบมองไปรอบๆ หากมองไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดมาปรากฏตัว “ฉันอยากถามท่านให้แน่ใจว่าพัลเดนจะมีความสุขจริงๆ”

สิ้นประโยคนั้นของพัลเดน สายลมก็พัดผ่านมาวูบใหญ่ พร้อมกับกรุ่นหอมของดอกอุทุมพรที่อวลตลบ และเสียงใครอีกคนก็ดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง

“เขาจะมีความสุขจริงๆ”

เสียงกังวานเป็นจังหวะน่าฟังดังขึ้นจากรอบกายของทุกคน ลิ่วลมและล่องเมฆเหลียวมองไปรอบกายหากไม่เห็นสิ่งใด นอกจากสายหมอกที่หนาหนักขึ้นทุกที

“เราสัญญา” เสียงนั้นดังขึ้นจากเบื้องบน เหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกล หากทว่าชัดเจน

“ฉันจะเชื่อท่านได้ใช่ไหม” ยังเชนน้ำตาไหล เธอกอดพัลเดนเอาไว้แน่น

“สัญญาด้วยเกียรติของโฮชิ” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเมตตา

“ท่านสัญญาแล้ว” ยังเชนยกมือขึ้นปาดน้ำตา

“เราสัญญา” เสียงนั้นกระหึ่มขึ้นโดยรอบ

“ท่านชาย…” ลิ่วลมและล่องเมฆครางเสียงแผ่วต่ำ อากาศที่ควรจะหนาวยะเยือกกลับอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ “ท่านชายจริงๆ นั่นแหละ”

“ใช่…เราเอง” ท่านชายหัวเราะเบาๆ “เจ้าเป็นคนอธิษฐานขอให้เรามาช่วยมิใช่หรือ”

“ท่านชายจะมารับพัลเดนไปอยู่ด้วยใช่ไหมครับ” ลิ่วลมถาม หากท่านชายไม่ตอบเขาโดยตรง แต่กลับไปถามมังกรตัวยักษ์ที่กลอกตาไปมาด้วยความสนใจใคร่รู้

“แล้วพัลเดนล่ะ เจ้าอยากไปกับเราหรือเปล่า” เสียงของท่านชายโฮชิสอบถามมังกรที่หมอบนิ่งอยู่ข้างๆยังเชนและเชวัง

กรรรรร…

พัลเดนทำเสียงฟืดฟาด ลมหายใจของมันอุ่นจนเกิดเป็นควันจางๆ มันถูคอของมันกับร่างโปร่งบางของยังเชนไปมา ทั้งสองผูกพันกันมานานหลายสิบปี เชวังเองก็ผูกพันกับพัลเดน แต่ไม่เท่ากับหลานสาวของเขา หากพัลเดนจะต้องไปจากหุบเขาจริงๆ ยังเชนคงจะใจหายไม่น้อย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ

“ไม่อยากไปหรือตัวเล็ก” ยังเชนกระซิบถาม

และพัลเดนก็ทำเสียง…กรรรรร…ตอบเป็นทำนองว่าไม่อยากไปจากหุบเขาแห่งนี้ ไม่อยากไปจากเชวังและยังเชน…

“ไปเถอะนะ…ยังเชนว่า มันดีกับพัลเดนนะ” ยังเชนเอ่ยออกมาในที่สุด

ความรักคือการให้ ความรักคือการเสียสละ เธออยากเห็นพัลเดนมีความสุข เธออยากให้พัลเดนมีอิสระ และไม่ต้องอยู่อย่างกังวลอีกต่อไป

พัลเดนคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ

และเธอกำลังจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมัน…

แม้มังกรจะมีมานานนักหนา มีอยู่บนโลกใบนี้มาก่อนมนุษย์เสียด้วยซ้ำ แต่โลกปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหมาะกับมังกรอีกแล้ว

“เชื่อยังเชนนะพัลเดน ไปกับท่านชาย ใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องห่วงยังเชนนะ ยังเชนดูแลตัวเองได้ ต่อจากนี้ ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป…พัลเดนจะมีอิสระ อยากบินไปไหน อยากทำอะไรก็ได้”

ล่องเมฆรู้สึกสงสารหญิงสาวจับหัวใจ ยังเชนต้องอาศัยความกล้าหาญมากเพียงใด จึงเอ่ยคำนั้นออกมาได้

“รวมถึงถ้าอยากมาหายังเชน ก็สามารถมาได้เสมอ” ท่านชายเอ่ยอนุญาต

“จริงหรือคะ” น้ำเสียงของยังเชนดีขึ้น เธอแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แม้จะมองไม่เห็นท่านชายโฮชิ หากเธอรู้ว่าท่านอยู่แถวๆ นั้น

“เทพเจ้าไม่เคยพูดปด” ท่านชายหัวเราะเบาๆ “ถ้าเจ้าคิดถึงพัลเดน ก็แค่มาที่หุบเขาแห่งนี้ และตะโกนเรียก พัลเดนก็จะได้ยินแล้วบินมาหา มังกรได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้บินไปไหนมาไหนได้อย่างมีอิสระ ตามใจชอบ จะโลกมนุษย์ หรือสวรรค์ชั้นฟ้า พัลเดนก็สามารถไปมาหาสู่ได้เสมอ…ถ้าอยากรู้ว่าพัลเดนสบายดีหรือไม่…ก็มองดูพัลเดนในพยับฟ้าโพยมดิน”

“มองดูในพยับฟ้าโพยมดิน” อัญญาวีร์นิ่วหน้า “แล้วจะรู้หรือคะ”

“ลองหยิบผ้าออกมาสิ” ท่านชายว่า

ลิ่วลมรีบปลดกระบอกโลหะบรรจุผ้าโบราณที่สะพายติดมาด้วย หยิบผ้าสีเขียวอมฟ้าออกมา ทุกคนช่วยกันจับผ้ากางออก ฮิโตชิก็มามุงดูกับเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และทั้งที่ไม่เข้าใจว่ามนุษย์ตัวน้อยทำอะไรกัน พัลเดนก็พลอยชะโงกมาดูด้วยอีกตัว

ลายปักรูปมังกรที่อยู่ในทุ่งกว้างเปล่งประกายเรืองรอง ท่านชายบอกให้พัลเดนลองบิน เจ้ามังกรน้อยก็กระพือปีกโผขึ้นฟ้า บินฉวัดเฉวียนไปมา ทำตามที่ท่านชายสั่ง และเมื่อพัลเดนเคลื่อนไหว ก็ปรากฏว่ามังกรในพยับฟ้าโพยมดินก็พลอยขยับเคลื่อนไหวไปมาด้วยอย่างน่าอัศจรรย์

“เป็นไปได้อย่างไร” แม้แต่เชวังยังออกปากด้วยความตื่นตะลึง

“ฝีมือนายหญิงของผมเองฮะ” ฮิโตชิคุยโว “เมียวโจโอจิเก่งที่สุด ลายปักผ้าของนายหญิงพิเศษไม่เหมือนใคร…”

“เห็นหรือไม่…ยังเชน” ท่านชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงปรานี “เจ้ากับพัลเดนไม่ได้ห่างไกลกันเลยสักนิด”

มังกรน้อยส่งเสียง…กรรรรร…ด้วยความสบายใจ

ถ้าเป็นเช่นนี้ มันก็พร้อมจะไปกับท่านชายแล้ว ขอเพียงไม่ได้ห่างไกลจากยังเชน ขอเพียงยังได้เจอยังเชนที่มันรัก…

 

ดวงจันทร์คล้อยเคลื่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงกึ่งกลางฟ้า

ทางช้างเผือกพาดเป็นแนวยาวเหนือศีรษะของทุกคน แสงเรืองรองสว่างสุกใสราวดวงดาวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ดูเหมือนจะอยู่ไม่ไกลนัก

“ถึงเวลาออกเดินทางแล้ว” เสียงท่านชายโฮชิกระหึ่มดังก้องหุบเขา

“ลาก่อนนะพัลเดน” เชวังเดินไปโอบเพื่อนตัวยักษ์แน่น

แม้จะรู้ว่าเขาและพัลเดนจะได้พบกันอีก แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะเห็นมาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อย ทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันหลายครั้ง

ยังเชนนั้นไม่ต้องพูดถึง…หลานสาวของเขาบรรจงจูบพัลเดนด้วยความรัก ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา เมื่อพัลเดนขยับปีก และเตรียมโบยบินขึ้นไปบนเวิ้งฟ้าสีครามเข้ม…

“รอด้วยสิ…ทิ้งกันเลยเหรอ” ฮิโตชิร้องเสียงดังลั่น

เท้าเล็กๆ ของเด็กชายผมทรงกะลาครอบวิ่งตามพัลเดน ก่อนจะกระโดดเกาะหางมังกรตัวยักษ์ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ดวงดาวที่ไกลแสนไกล

ร่างของพัลเดนค่อยๆ ไกลออกไปเรื่อยๆ มันหันมาส่งเสียง…กรรรรร…ราวจะเอ่ยอำลา

ชั่วขณะที่ดวงจันทร์โผล่พ้นเมฆ ทุกคนเหมือนได้เห็นเรือนร่างสูงล่ำสันของใครคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังของพัลเดนด้วยท่วงท่าสง่างาม

ท่านชายโฮชิหันมาโบกมือให้กับทุกคน ราวจะประทานพรให้พวกเขามีแต่ความสุขสงบ…



Don`t copy text!