โหงลำโขง บทที่ 4 : ความงุนงง (1)

โหงลำโขง บทที่ 4 : ความงุนงง (1)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล กับเรื่องราวของ “คูน” ชายหนุ่มผู้อาภัพ บิดามารดาถูกฆาตกรรม เขาจึงเติบโตโดยการฟูมฟักจากแม่เฒ่าต้วน ผู้หวังว่าสักวันหนึ่งคูนจะกลับไปล้างแค้นให้กับบิดามารดา และทำให้ครอบครัวของฆาตกรนั้นอยู่อย่างตายทั้งเป็น หากแต่แผนการและหัวใจสวนทางกัน คูนจะทำอย่างไร นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

ค่ำคืนนี้มีนกแสกตัวหนึ่งบินโฉบเฉี่ยวออกหากินในเวลากลางคืน ในขณะเดียวกันนั้นเหล่าบรรดาพ่อชายทั้ง 5 คนก็กำลังควบม้าอยู่กลางป่าด้วยความเร็วสูง โดยมีคูนนำทางอยู่หน้าสุด ส่วนท้าวคำมั่นคอยควบม้าอยู่ด้านข้างเพื่อที่จะดูแลลูกน้องระหว่างทาง

การเดินทางบนถนนกลางป่าในยามกลางคืน อาจค่อนข้างลำบากสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคูนนั้นเขารู้ทุกซอกทุกมุมของป่านี้ดี แม้แต่ที่อยู่ของโจรกลุ่มนี้ เขาก็รู้ดีว่าพวกมันซ่อนตัวกันอยู่ที่ไหนและใช้ชีวิตกันอย่างไรในป่าฟากนี้

พอเดินทางมาถึงป่าดงดิบ พวกเขาได้ผูกม้าติดไว้กับต้นไม้ ก่อนพากันเดินเท้าเข้าไปให้เงียบที่สุด เพื่อไม่ให้โจรกลุ่มนี้รู้ตัวเข้าเสียก่อน

ท้าวคำมั่นและลูกน้องต่างพากันย่องเท้าเบาๆ ตามคูนไปติดๆ ก่อนที่คูนจะหยุดเดินจนคนอื่นๆ พลอยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“มีหยังอยู่บ่” ท้าวคำมั่นกระซิบข้างๆ หูของคูน “เจ้าแน่ใจเด้อว่าโจรอยู่แถวนี้”

“ขอรับ” คูนตอบออกมาเบาๆ

ไม่นานนักเสียงร้องไห้ของจำปีก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืด เป็นเหตุให้ท้าวคำมั่นและลูกน้องอีก 3 คนรีบพากันวิ่งไปหาเสียงนั้น โดยลืมคิดไปว่านี่เป็นกับดักของกลุ่มโจรที่จะล่อให้พวกเขามากองรวมกันในวงล้อมของพวกโจร มีเพียงคูนเท่านั้นที่ยังมีสติไม่เผลอวิ่งตามออกไปด้วย มิเช่นนั้นภารกิจในค่ำคืนนี้คงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าตั้งแต่ยังไม่เริ่มเป็นแน่

เสียงของจำปีเงียบลง ท้าวคำมั่นและลูกน้องอีก 3 คน พากันหยุดวิ่งก่อนถูกกลุ่มโจรนับ 10 คน ยืนชี้ดาบล้อมรอบเอาไว้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ดูเหมือนว่าฝั่งโจรจะเป็นฝ่ายถูกฆ่าตายลงไปทีละคนๆ

คูนกวาดสายตามองดูโดยรอบ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีโจรอีกกลุ่มแอบซุ่มอยู่ จากนั้นเขาจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วยฆ่าโจรเหล่านั้นด้วยดาบคู่

ฝีมือการใช้ดาบคู่ของคูนช่วยให้ฆ่าโจรตายไปจนหมด ในช่วงจังหวะไล่เลี่ยกันนั้น มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาเพื่อหวังปลิดชีพท้าวคำมั่น แต่คูนกลับใช้ดาบของเขาปัดมันออกไปได้อย่างปราดเปรียวและแม่นยำ

ท้าวคำมั่นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นึกว่าจะต้องตายลงไปในป่านี้เสียแล้ว คูนไม่รีรอให้โจรได้มีโอกาสยิงธนูมายังกลุ่มของตนอีก เขารีบพุ่งตัวไปหาคนยิงธนูด้วยความว่องไว ก่อนจะปลิดชีพโจรผู้นั้นอย่างง่ายดาย

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงกรีดร้องของจำปีก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงควบม้าออกไปจากบริเวณนี้ คูนยืนนิ่งใช้หูฟังว่าม้าตัวนั้นกำลังวิ่งไปทิศทางใด เมื่อเขาจับเส้นทางได้จึงรีบเป่าปากเสียงนกหวีดเพื่อเรียกไอ้นวลให้มาหาตน หากรอไอ้นวลมาถึงคงไม่ทันการ เขาจึงตัดสินใจรีบวิ่งล่วงหน้าไปก่อน ไม่นานนักไอ้นวลก็วิ่งตามมาติดๆ ด้วยความรวดเร็ว เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นไอ้นวลเพื่อนยากมาได้ทันเวลาพอดี ก่อนที่จะรีบกระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังของมันแล้วควบตามเสียงกรีดร้องของจำปีไปติดๆ ส่วนท้าวคำมั่นและลูกน้องต้องวิ่งย้อนกลับไปเอาม้าของตนเอง แล้วจึงค่อยควบม้าตามไปอีกที

คูนเห็นชายฉกรรจ์อุ้มจำปีพาดบ่าบนหลังม้าที่กำลังควบไปยังบริเวณริมแม่น้ำโขง สภาพของเธอไม่ต่างอะไรกับคนที่ใกล้จะหมดลมหายใจ ร่างกายทั้งร่างถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนาและดวงตาถูกปิดด้วยผ้า ไม่นานเสียงที่เคยกรีดร้องก็เงียบลงด้วยความอ่อนล้า

ชายคนนั้นโยนร่างของจำปีลงไปในแม่น้ำโขง ก่อนจะควบม้าหนีไป แต่ยังไม่ทันได้หนีพ้น ร่างของเขาก็ถูกดาบของคูนเขวี้ยงมาปักที่กลางแผ่นหลังจนตกลงมากระแทกกับพื้นหินเสียชีวิต

คูนกระโดดลงจากหลังม้าก่อนชะโงกดูหน้าผาด้านล่าง เห็นร่างของจำปีกำลังกลิ้งลงไปยังลำน้ำโขงที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เขาจึงตัดสินใจกระโดดตามลงไปช่วยโดยไม่คิดถึงความปลอดภัยของตน

ท้าวคำมั่นและลูกน้องเพิ่งตามมาถึง พวกเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ได้แต่ภาวนาให้คูนสามารถช่วยจำปีให้มีชีวิตรอด ผู้เป็นพ่อแทบจะขาดใจเมื่อเห็นลูกสาวต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ น้ำตาของลูกผู้ชายเริ่มปริ่มรอบดวงตาก่อนนั่งคุกเข่าที่ริมหน้าผาเพื่อรอปาฏิหาริย์

 

ร่างของจำปีตกกระทบกับลำน้ำโขง เธอไม่ต่างอะไรกับคนที่นอนหลับนิ่งที่กำลังถูกสายน้ำกดทับให้ลงไปยังจุดที่ลึกที่สุด ส่วนคูนที่กระโดดตามลงมานั้นก็พยายามแหวกว่ายอย่างกระวนกระวายเพื่อดึงจำปีขึ้นมาจากสายน้ำอันไหลเชี่ยว

ขณะนี้จำปีได้หลุดเข้าไปในห้วงความฝันไปยังทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองงามในยามเช้า สองเท้าเปลือยเปล่าค่อยๆ ย่ำอยู่กับที่ก่อนกวาดสายตามองดูรอบๆ ด้วยความสงสัยว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหนกัน

“จำปีตื่น”

เสียงของคูนดังขึ้นด้านหลัง จำปีเหลียวหลังไปมองด้วยความประหลาดใจที่เห็นคูนกำลังวิ่งเข้ามาหาใกล้ๆ จิตใต้สำนึกสั่งให้เธอวิ่งหนีชายหนุ่มคนนี้ไป

คูนวิ่งตามจำปี ก่อนรีบคว้ามือของจำปีแล้วดึงตัวเข้ามาโอบกอดเอาไว้ เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัยอย่างมากเมื่อได้อยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่มผู้นี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

“จำปีได้ยินเสียงอ้ายบ่”

คำพูดของคูนทำให้จำปีรู้สึกสบายใจขึ้นมาก แต่เธอก็ยังมีความสับสนกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพราะมันช่างเป็นเหมือนกับความฝันมากกว่าความเป็นจริง…

ไม่นานจำปีก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับสำลักน้ำ เธอพบว่าตอนนี้ตนเองไม่ได้ยืนอยู่ในทุ่งดอกปอเทือง แต่กำลังนอนอยู่ริมฝั่งของลำน้ำในสภาพที่เปียกปอน แม้บริเวณโดยรอบจะมืดมนในยามกลางคืน แต่เธอก็ดูออกว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังถอนลมหายใจออกมาอย่างคนโล่งอกอยู่ข้างๆ

“เจ้าปลอดภัยแล้วเด้อ” คูนยิ้มให้จำปีและยิ้มให้ตนเองที่ทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จจนได้ เขาเอียงตัวล้มลงไปนอนราบกับพื้นข้างๆ จำปี ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักจากความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นตลอดวัน



Don`t copy text!